Lattafa
Perfumes – Nakahat Al Oud
ในช่วงรอบปีที่ผ่านมาถือว่าน้ำหอมแบรนด์ทางฝั่งตะวันออกกลางเริ่มแผ่ขยายเข้ามาที่เมืองสารขัณฑ์บ้านเรามากขึ้นมาเรื่อยๆ
ทำให้เราได้รู้จักแบรนด์ที่น่าสนใจต่างๆ มากมาย แม้ว่าบางแบรนด์เขาจะเป๊ะมากในการทำกลิ่นที่คล้ายตัวยอดนิยมก็ตาม
(บางตัวทำได้ดีกว่าเสียด้วย) แต่ไม่ใช่ว่าจะมีแต่น้ำหอมลักษณะแบบนั้นเสมอไป
ยังมีน้ำหอมที่เป็นอัตลักษณ์แบบน้ำหอมอาหรับที่น่าสนใจอีกมากเสียด้วย
เช่นนั้นเมื่อได้ฤกษ์กลับมาที่แบรนด์ Lattafa Perfumes ก็ได้มาโป๊ะเชะกับรุ่นล่าสุดที่พึ่งออกมาวางตลาดกันไม่นานมานี้เลยอย่าง
Nakahat
Al Oud ซึ่งกลิ่นจะออกมาเป็นอย่างไรกัน
ต้องพิสูจน์
เปิดตัวกันที่ Top Notes กับกลิ่นอายแบบเครื่องเทศผสมกับกุหลาบกันก่อนเลย ซึ่งจะมีกลิ่นอายของแอลกอฮอล์ผสมผสานบ้างกลิ่นจึงพุ่งฟุ้งเต็มที่อาจจะทำให้เกิดอาการตึ้บกันนิดนึงได้ โดยที่ความเต็มแน่นของกลิ่นจะมาชัดเจนมากโดยกลิ่นกุหลาบจะชัดตีคู่กับกลิ่นของอบเชย และมีความสดชื่นติดหวานของดอกส้มจางๆ ซึ่งกลิ่นจะเริ่มเปลี่ยนถ่ายโทนมาเป็นโทนไม้หอมมากขึ้น โดยที่กลิ่นกุหลาบจะเบาตัวลงไป เหลือเบาๆ ให้สัมผัสได้แต่เครื่องเทศโทนหวานยังคงชัดอยู่ใน Middle Notes ซึ่งจะมาผสมผสานกับกลิ่นของ Oud ที่จะมาแบบกลิ่นแนวไม้หอมที่ออกทางเนื้อไม้ติดกลิ่นยาอวลๆ กำลังดี รวมทั้งจะมีกลิ่นของพิมเสนที่มาในลักษณะเสริมให้กลิ่นออกทางนวลๆ ติดสาบดิบหน่อยๆ มาเด่นตีคู่เครื่องเทศกับไม้หอมขึ้นมาตามแบบฉบับของพิมเสนแนวตะวันออกกลาง ที่สำคัญกลิ่นจะมีกลิ่นไม้จันทน์หอมเป็นตัวรองพื้นแบบนวลๆ ไปตลอด และจะไปผสมผสานกับโทนอบอุ่นที่เดิมทีเหมือนเป็นตัวหลบๆ ซ่อนๆ ให้รู้ว่ามี แต่จะเริ่มฉายแสงมากขึ้นจนมีลักษณะไม้หอมอุ่นติดเปรี้ยวอมหวานจางๆ ใน Base Notes นั่นคือกลิ่นของแอมเบอร์กับวานิลลาโดยเนื้อกลิ่นจะมีความเป็นไม้หอมอุ่นๆ ติดเปรี้ยวเบาๆ เคล้ากับกลิ่นของวานิลลาติดโทนแป้งนวลๆ และในช่วงนี้จะจับได้ถึงความหวานแบบผลไม้จางๆ แนวราสเบอร์รี่เข้ามา เสริมให้กลิ่นอบอุ่นมีโทนหวานหอมผลไม้เสริมเข้ามาเบาๆ แบบมีมิติ โดยกลิ่นในช่วงกลางยังตามมาผสมผสานอยู่ไม่ว่าจะเป็นพิมเสนที่ยังทำหน้าที่แบบติดแห้งอวลและ ไม้จันทน์หอมที่ทำหน้าที่รองพื้นอยู่สม่ำเสมอและไม่ได้แสดงความเด่นออกมามากนักแต่จะอยู่ยาวนานมากแบบติดผิวไปตลอด ภาพรวมกลิ่นเลยจะออกแนวไม้หอมอบอุ่นแบบกำลังดี มีความภูมิฐานผสมผสานกับเย้ายวนแบบไม่ได้มาหนักหน่วงมาก มีความอวลในระดับหนึ่ง และมีความเป็นน้ำหอมตะวันออกกลางที่เข้าถึงได้ไม่ยากนักนั่นเอง
เปิดตัวกันที่ Top Notes กับกลิ่นอายแบบเครื่องเทศผสมกับกุหลาบกันก่อนเลย ซึ่งจะมีกลิ่นอายของแอลกอฮอล์ผสมผสานบ้างกลิ่นจึงพุ่งฟุ้งเต็มที่อาจจะทำให้เกิดอาการตึ้บกันนิดนึงได้ โดยที่ความเต็มแน่นของกลิ่นจะมาชัดเจนมากโดยกลิ่นกุหลาบจะชัดตีคู่กับกลิ่นของอบเชย และมีความสดชื่นติดหวานของดอกส้มจางๆ ซึ่งกลิ่นจะเริ่มเปลี่ยนถ่ายโทนมาเป็นโทนไม้หอมมากขึ้น โดยที่กลิ่นกุหลาบจะเบาตัวลงไป เหลือเบาๆ ให้สัมผัสได้แต่เครื่องเทศโทนหวานยังคงชัดอยู่ใน Middle Notes ซึ่งจะมาผสมผสานกับกลิ่นของ Oud ที่จะมาแบบกลิ่นแนวไม้หอมที่ออกทางเนื้อไม้ติดกลิ่นยาอวลๆ กำลังดี รวมทั้งจะมีกลิ่นของพิมเสนที่มาในลักษณะเสริมให้กลิ่นออกทางนวลๆ ติดสาบดิบหน่อยๆ มาเด่นตีคู่เครื่องเทศกับไม้หอมขึ้นมาตามแบบฉบับของพิมเสนแนวตะวันออกกลาง ที่สำคัญกลิ่นจะมีกลิ่นไม้จันทน์หอมเป็นตัวรองพื้นแบบนวลๆ ไปตลอด และจะไปผสมผสานกับโทนอบอุ่นที่เดิมทีเหมือนเป็นตัวหลบๆ ซ่อนๆ ให้รู้ว่ามี แต่จะเริ่มฉายแสงมากขึ้นจนมีลักษณะไม้หอมอุ่นติดเปรี้ยวอมหวานจางๆ ใน Base Notes นั่นคือกลิ่นของแอมเบอร์กับวานิลลาโดยเนื้อกลิ่นจะมีความเป็นไม้หอมอุ่นๆ ติดเปรี้ยวเบาๆ เคล้ากับกลิ่นของวานิลลาติดโทนแป้งนวลๆ และในช่วงนี้จะจับได้ถึงความหวานแบบผลไม้จางๆ แนวราสเบอร์รี่เข้ามา เสริมให้กลิ่นอบอุ่นมีโทนหวานหอมผลไม้เสริมเข้ามาเบาๆ แบบมีมิติ โดยกลิ่นในช่วงกลางยังตามมาผสมผสานอยู่ไม่ว่าจะเป็นพิมเสนที่ยังทำหน้าที่แบบติดแห้งอวลและ ไม้จันทน์หอมที่ทำหน้าที่รองพื้นอยู่สม่ำเสมอและไม่ได้แสดงความเด่นออกมามากนักแต่จะอยู่ยาวนานมากแบบติดผิวไปตลอด ภาพรวมกลิ่นเลยจะออกแนวไม้หอมอบอุ่นแบบกำลังดี มีความภูมิฐานผสมผสานกับเย้ายวนแบบไม่ได้มาหนักหน่วงมาก มีความอวลในระดับหนึ่ง และมีความเป็นน้ำหอมตะวันออกกลางที่เข้าถึงได้ไม่ยากนักนั่นเอง
เหมาะสำหรับ - ทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใช้ได้แล้ว
แต่อย่างน้อยถ้าผ่านน้ำหอมตะวันออกกลางมาบ้าง หรือชอบกลิ่นแนวไม้หอมติด Oud อุ่นๆ หรือเครื่องเทศแนวหวานอบอุ่นแบบชัดๆ จะฟินกับตัวนี้ได้ไม่ยาก
ซึ่งสามารถใช้ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบจำกัดจำนวนสเปรย์ จะใช้กับงานทางการหรือทั่วๆ
ไปก็ได้ กลิ่นมีภูมิติดเย้ายวนกำลังดี งดใส่ออกกำลังกายและกิจกรรมกลางแจ้ง เพราะอาจจะทำให้ขาดอากาศหายใจได้
ยิ่งถ้าคนไม่ชินจะแน่นกันสุดๆ เลย ส่วนยามค่ำคืนจัดไป
กลิ่นนี้ถือว่าใส่ไปเที่ยวได้ เผลอๆ จะออกแนวน่าซุกได้เสียด้วย
ความทน - 8 ชม. เป็นพื้นฐาน และมากกว่านั้นด้วยซ้ำอิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ
ความทน - 8 ชม. เป็นพื้นฐาน และมากกว่านั้นด้วยซ้ำอิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ
การกระจาย - กลิ่นกระจายเต็มเหนี่ยวพุ่งฟุ้งชัดเจนมากในช่วงต้น
ก่อนจะลดลงไปกระจายดีกึ่งปานกลางในช่วงกลาง แล้วค่อยเป็นออร่ารอบๆ
ตัวในช่วงท้ายแบบยาวไป
ทิ้งท้าย - แน่นอนว่ากลิ่นยังมีความเป็นตะวันออกกลางอยู่แน่ๆ แต่ Oud ไม่ได้เด่นนัก เป็นเหมือนตัวรองพื้นที่ต้องมีในน้ำหอมที่เด่นกับกลิ่นแนวไม้อบอุ่นของตะวันออกกลางเสียมากกว่า ที่สำคัญกลิ่นแม้จะมีโทนชัดเจนแต่ก็ยังถือว่ามีเสน่ห์ในรูปแบบของน้ำหอมที่ไม่ได้เข้าถึงยากเกินไปนัก และมีความ Modern กับกลิ่นเครื่องเทศ ไม้หอม เคล้าพิมเสนอยู่แบบจับตลาดทั้งในและนอกโซนอาหรับได้หมดนั่นเอง
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้ามผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ
Credit ภาพ - http://www.punmiris.com/himg/o.46001.jpg
ทิ้งท้าย - แน่นอนว่ากลิ่นยังมีความเป็นตะวันออกกลางอยู่แน่ๆ แต่ Oud ไม่ได้เด่นนัก เป็นเหมือนตัวรองพื้นที่ต้องมีในน้ำหอมที่เด่นกับกลิ่นแนวไม้อบอุ่นของตะวันออกกลางเสียมากกว่า ที่สำคัญกลิ่นแม้จะมีโทนชัดเจนแต่ก็ยังถือว่ามีเสน่ห์ในรูปแบบของน้ำหอมที่ไม่ได้เข้าถึงยากเกินไปนัก และมีความ Modern กับกลิ่นเครื่องเทศ ไม้หอม เคล้าพิมเสนอยู่แบบจับตลาดทั้งในและนอกโซนอาหรับได้หมดนั่นเอง
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้ามผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ
Credit ภาพ - http://www.punmiris.com/himg/o.46001.jpg