Paul Smith for Men
น้ำหอมตัวแรกของแบรนด์
มักจะเป็นอะไรที่น่าจดจำและเป็นหนึ่งในกลิ่นที่มีความ Timeless หรือเหนือกาลเวลาสูงมาก
ซึ่ง Paul Smith Men ก็เป็นหนึ่งในนั้น
ที่เรียกว่าอยู่ยั้งยืนยงมาตั้งแต่แบรนด์ขยายไลน์แฟชั่นของตัวเองเข้ามาสู่น้ำหอมเมื่อปี
2000 จนถึงทุกวันนี้ เช่นนั้น
มาสัมผัสกลิ่นอายตั้งต้นที่ทำให้น้ำหอมแบรนด์นี้ได้รับความนิยมมาตลอดดีกว่าว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
Top Notes เปิดมาก็มากับกลิ่นอายเขียวๆ
ติดเผ็ดปร่าบางๆ นวลๆ สมุนไพรของใบโหระพากันก่อนเลยที่จะโดดชัดมาก
โดยจะมีความสดชื่นที่มีความขมหน่อยๆ จากโทน Citrus แนว Bergamot
(มะกรูดฝรั่ง) ที่ทำให้กลิ่นช่วงนี้เป็นกลิ่นโทนเขียวที่มีความนวลในความสดชื่นได้ลงตัว
ซึ่งกลิ่นโทนเขียวนี้จะอยู่เป็นเหมือนแกนหลักของน้ำหอมที่จะเป็น Concept ตามสีขวดไปตลอดในทุกๆ ช่วงหลังจากนี้ โดยเมื่อเข้า Middle Notes กลิ่นเด่นสุดๆ ของใบไวโอเล็ตที่ให้ความเขียวนวลอมหวานติดเมทัลลิคกำลังดี
ผสมผสานกับความเป็นโหระพาที่ตามมาจากตอนต้น
ทำให้ได้ความรู้สึกแบบเขียวนวลนุ่มติดปร่าหน่อยๆ และยังมีกลิ่นอายเขียวๆ ติดเมือกๆ
มันๆ แบบไฮยาซินท์ที่มาแบบบางๆ ไม่ได้มาเยอะจนทำให้กลิ่นออกทางเขียวแปร่งๆ
เลยทำให้ช่วงนี้เป็นกลิ่นเขียวที่มีความนวลปร่าและอมหวาน
กลิ่นไม่ได้ทึบเกินหรือสว่างเกิน เรียกว่าอยู่ตรงกลางกำลังดีแบบที่มีความสบายๆ
ในเนื้อกลิ่นแฝงอยู่เสียด้วย จนเมื่อเริ่มสัมผัสได้ว่ามีกลิ่นอายนุ่มสะอาด
ผสมผสานกับกลิ่นโทนไม้หอมที่ออกทางแห้งๆ แต่ก็มีความนวลหน่อยๆ
ออกทางกลิ่นโทนแป้งติดเขียว ก็เป็นสัญญาณของ Base Notes ชัดเจน
ที่จะให้ความรู้สึกสะอาดๆ นุ่มจมูก สบายๆ แบบกลิ่นอายแป้งที่ติดปร่านุ่มนวลอมเขียว
ให้ความรู้สึกรื่นรมย์สบายๆ ปลอดภัยไปตลอดนั่นเอง
เหมาะสำหรับ -
ผู้ชายทุกเพศวัยเรียน ม.ปลาย ขึ้นไปก็ใช้ได้แล้ว กลิ่นเรียกว่าไม่ต้องถึงกับ Citrus เด่นจ๋า
แค่ความเขียวนวลติดสดชื่นก็เอาอยู่แล้ว
จึงเหมาะมากแบบครอบจักรวาลกับทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลย
จัดไปได้หมดไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป
ใส่ออกกลางแจ้งหรือว่าออกกำลังกายก็เรียกว่าสบายมาก ส่วนยามค่ำคืนถ้าใส่ทั่วๆ ไปอันนี้ยังไงก็รอด
แต่ถ้าใส่ไปท่องราตรี อันนี้แพ้ชาวบ้านที่เขามาสายหวานแน่ๆ
เน้นใช้ยามกลางวันแทนเป็นดีที่สุด
ความทน -
ทำได้ลงตัวมากกับราวๆ 8 ชม.
มีบวกลบบ้างตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีด ซึ่งส่วนตัวเจอที่ 12 ชม. แบบเกินคาดมาหลายครั้งมากที่ใช้ กับจำนวนสเปรย์ 6 สเปรย์
การกระจาย -
กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะผ่อนลงมากลางๆ ก่อนจะเป็นออร่ารอบๆ ตัว
พอเข้าช่วงท้ายจึงเป็น Skin Scent ที่ให้ความรู้สึกเขียวนวลปร่าบางๆ สะอาดๆ ตีขึ้นยามขยับเนื้อตัว
ทิ้งท้าย -
แม้จะรู้สึกว่า แอบมีความเป็น Dior
Fahrenheit ที่ไม่ได้ออกทางปั๊มน้ำมัน แต่มาสายเขียวปร่านวลๆ
และมีความสบายๆ มากกว่าจะมาสายฮอตฉ่า ซึ่งเรียกว่า Paul Smith ทำรุ่นนี้ออกมาได้ลงตัวจริงๆ สมกับเป็นตัวบุกเบิกทางด้านน้ำหอมของแบรนด์
แบบที่ได้อารมณ์ของผู้ชายสบายๆ มีสไตล์ เข้าถึงได้ง่ายและสดชื่นแบบมีชั้นเชิง
จึงไม่แปลกใจกับการเป็นน้ำหอมที่คนนิยมมาตลอดจนถึงทุกวันนี้
หมายเหตุ:
1.
Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2.
Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ
รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ
นะครับ”