Pierre Guillaume - Collection Noire: Poudre de Riz
Collection Noire (เดิมทีคือ Huitième Art
Collection ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นชื่อใหม่และเปลี่ยนรูปทรงขวดใหม่
เพราะขวดเดิมเหมือนโล่ห์ป้องกันในหนังแนวอัศวินไปนิด) เป็นหนึ่งในการนำเสนอกลิ่นอายผ่านทางน้ำหอมที่เป็นการถ่ายทอดกลิ่นออกมาแล้วสร้างเป็นภาพในหัวของเราเหมือนได้เห็นสิ่งแวดล้อม
สถานการณ์ หรือว่าสถาปัตยกรรม รวมถึงสถานที่นั้นๆ ของ Perfumer สุดหล่อที่สร้างแบรนด์มาหลายแบรนด์จนปัจจุบันมารวมศูนย์อันแยกเป็น
Collection แทนอย่าง Pierre Guillaume เช่นนั้น
เมื่อได้มีโอกาสมาชิมลางสาย Noire แบบนี้ ก็ขอเล่ากลิ่นรุ่นผู้หญิงหนึ่งเดียวในสายนี้ก่อนเลยนั่นคือรุ่น
Poudre de Riz
"The air in the
closed room was heavy with a mixture of odours: soap, face powder, the pungent
scent of cologne". Henri Barbusse, The Inferno, 1908 T
สิ่งที่เร้าใจมากก่อนการใช้งานจริง
เพราะภาพชัดมากมายเพียงแค่ประโยคเดียวจากนิยายเรื่อง The Inferno ที่เป็นที่มาของน้ำหอมรุ่นนี้
ซึ่งเมื่อได้สัมผัสกลิ่นจริงกลิ่นเปิดมาตอนแรกชัดเจนมากสร้างภาพในหัวถึงอากาศในห้องปิดที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของสบู่
แป้งหอม โลชั่นหรือ Oil ทาตัว และกลิ่นน้ำหอมโทนดอกไม้มากันให้เต็ม
แบบที่เราเปิดเข้าไปในห้องนั้นแล้วกลิ่นพรั่งพรูมาให้รับรู้
โดยจับได้ชัดเจนถึงโทนหวานของกลิ่นที่รองพื้นอยู่ด้านหลัง
ปล่อยให้กลิ่นแนวกุหลาบติดแห้งเคล้ากับความเป็นดอกไม้ขาวครีมมี่ของดอกพุด
Tiare ทำให้ได้ความรู้สึกออกทางสบู่ครีมกุหลาบ
ที่มีกลิ่นมะพร้าวออกกะทิคลออยู่พุ่งออกมาก่อน และสิ่งที่ชัดเจนขึ้นมาอีกอย่างคือ
โทนแป้งแนวๆ เครื่องสำอางก็ไม่ได้ลดราวาศอกในการนำเสนอตัวเองไปกับเขาด้วย
ซึ่งแต่ละโทนอาจจะดูมาเต็มไปพอสมควรก็จริง แต่พอเข้าช่วงกลางสิ่งที่จัดเต็มให้มีซีนของตัวเองในช่วงต้นจะเริ่มสามัคคีกันโดยให้กลิ่นอายโทนแป้งเครื่องสำอางหอมหวานเป็นตัวเด่นแทน
ซึ่งกลิ่นจะได้อารมณ์แบบโต๊ะเครื่องแป้งผู้หญิงที่มีความอวลของกลิ่นแป้งเครื่องสำอางหอมๆ
และมีกลิ่นอายหวานๆ นวลๆ ย้อนยุคบางๆ เจือไปตลอด โดยกลิ่นโทนแป้งจะมาจากแป้งข้าว
(ให้นึกถึงเวลาใช้แป้งไรซ์แคร์เนื้อละเอียดแล้วมีกลิ่นแป้งติดขาวอ่อนๆ
นวลออกมา) แต่จะโดนกลิ่นแนวครีมๆ ติดมะพร้าวกับกุหลาบทำให้กลายเป็นกลิ่นหอมดอกไม้นวลๆ
และความหวานที่รองพื้นจะเริ่มปล่องของคลอไปด้วยอย่างกลิ่นคาราเมล
แต่เพราะในความหวานคาราเมลจะรู้สึกได้ถึงความแอบโปร่งปลายเลยจับความเป็นเมเปิ้ลไซรัปได้พอสมควร
ซึ่งความหวานจะไม่ได้มาแบบจัดเต็มหนักหน่วงนัก มีความพอดีทำให้กลิ่นแป้งดอกไม้มีความหอมหวานดึงดูดมากขึ้น
ตลอดจนกลิ่นอายนวลติดแป้งวานิลลาที่แทรกเข้ามาเนียนๆ
เลยทำให้ได้ความรู้สึกมีระดับ เรียกว่าแบ่งโทนกันได้เป็นอย่างดีสามัคคีชุมนุมชัดเจน
และสิ่งที่นำเข้าสู่ช่วงท้าย
คือ กลิ่นอายของวานิลลาที่มาแบบโทนแป้งสอดรับต่อเนื่องจากช่วงกลางเป็นอย่างดีทำให้ได้กลิ่นอายออกทางอบอุ่นนวลๆ
เคล้าโทนแป้งหอมเจือความหวานที่เริ่มโปร่งมากขึ้นซึ่งในเนื้อกลิ่นมีความนวลเย้าหวานของยางไม้ที่ไม่ไดออกทางแน่นลึก
เพราะมีความเป็นโทนไม้หอมสว่างๆ ติดนวลๆ เจือไปด้วยตลอด
ทำให้กลิ่นออกทางแป้งหอมเจือหวานที่เบามากขึ้นจากช่วงกลาง แต่ละมุนสบายๆ
ไปตลอด ซึ่งภาพรวม ถือเป็นอีกหนึ่งในกลิ่นโทนแป้งที่มีความหอมสไตล์แป้งเครื่องสำอางปนความหวานกำลังดี
มีความย้อนยุคหน่อยๆ ให้จับต้องได้แต่ไม่ได้ไปสายคลาสสิคจ๋าๆ แต่ประการใด
และสร้างภาพในหัวได้ชัดมากเหมือน
“เดินเข้าไปในห้องที่ฟุ้งกระจายด้วยกลิ่นตามคำโปรย
แล้วไปนั่งข้างๆ ผู้หญิงที่แต่งหน้า ทาแป้งหอมเย้ายวนที่ผิวกายตัวเองอยู่จนเสร็จสิ้น
แล้วเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท โดยที่ยังมีกลิ่นอายหลงเหลือเคล้ากับความโปร่งสบายของบรรยากาศที่มากขึ้น”
นั่นเอง
เหมาะสำหรับ -
ผู้หญิงวัยเรียนมหาลัยขึ้่นไปก็สามารถใส่ตัวนี้ได้สบายมาก
แม้ว่าจะมีกลิ่นอายติดย้อนยุค แต่มันก็มีความเยาว์วัยจากความหวานมาทำให้กลิ่นไม่ได้ไปสายคุณนายมากขนาดนั้น
ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน เพราะกลิ่นมีเสน่ห์ที่หลากหลายมุมต่างๆ
ทั้งละมุน หวาน เย้ายวน อบอุ่น นุ่มนวล ในความเป็นผู้หญิงได้เป็นอย่างดี
ที่สำคัญกลิ่นนี้ใส่ออกกลางแจ้งได้ในระดับหนึ่งเพราะไม่ได้มาสายปล่อยความแน่นมากเกินไป
แต่ให้งดใส่เพื่อออกกำลังกายจะดีที่สุด เพราะกลิ่นโทนแป้งติดหวานแบบนี้เดี๋ยวหมดความกันสดชื่นที่อยากจะออกกำลังเอาได้
ส่วนยามค่ำคืนไม่ว่าจะใส่ออกงานหรือว่าไปท่องราตรีทำได้หมด
เพียงแต่สเปรย์เพิ่มขึ้นกว่ากลางวันหน่อยจะลงตัวและปล่อยเสน่ห์แบบมีชั้นเชิงได้ดีมากขึ้น
นอกจากนี้สำหรับผู้ชาย เอาจริงๆ กลิ่นนี้มีความ Unisex
ในตัวสูงเลยทีเดียว ซึ่งถ้าไม่มายด์ใส่ได้สบายๆ เลย ได้ความเป็นเมโทรติดหวานในตัวได้ด้วยนะเออ
ความทน - ราวๆ 8 ชม. ได้สบายมาก ส่วนตัวเจอที่ไป 12 ชม. กลิ่นยังอยู่เลยกับการใช้ที่ 6 สเปรย์
การกระจาย -
กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้นให้ความจัดเต็มของกลิ่นที่เมนหลักกับโทนแป้งได้ชัดเจน
แล้วจะลดลงมาที่กระจายปานกลางคงตัว ก่อนที่จะดรอปลงไปเป็น Skin Scent ในช่วงท้าย
ทิ้งท้าย -
เป็นอีกหนึ่งกลิ่นแป้งเครื่องสำอางที่ดมแล้วมีความน่ารัก ไม่หนักหน่วง
เรียกว่าเข้าได้กับอากาศเมืองไทยได้ดี แถมผู้ชายใส่แล้วมีเสน่ห์แบบเมโทรกึ่งๆ
แป้งหอมหวานสบายๆ ได้น่าสนใจมาก ใครที่เป็นสายชอบน้ำหอมกลิ่นโทนแป้งมีโอกาสลองแล้วจะรู้ได้เลยว่า
“กลิ่นกระทำความฟินนนน” สามารถเป็นได้เช่นกลิ่นของรุ่นนี้
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit - http://www.pierreguillaumeparis.com/102-huitieme-art-collection-poudre-de-riz.html