วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

Review: Carner Barcelona - Palo Santo

Carner Barcelona - Palo Santo

Carner Barcelona เป็นหนึ่งในแบรนด์ Niche Perfume จากสเปนที่เรียกว่าเไม่ธรรมดาและนำเสนอ Concept ทางกลิ่นที่เน้นความเป็นเมดิเตอร์เรเนียนในแบบสเปน เน้นเจาะจงไปที่ความเป็นบาร์เซโลน่าผ่านกลิ่นอายน้ำหอมต่าง โดยถ่ายทอดความร่วมสมัย ไลฟ์สไตล์ และวัฒนธรรมต่างๆ ที่หล่อหลอมเข้ามารวมกันจนสร้างสรรค์กลิ่นที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวออกมา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในระดับโลกมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ซึ่งส่วนตัวก็ยอมรับว่าพลาดไปพอสมควรกับการร่ำๆ จะได้มีโอกาสลองแบรนด์นี้ทีไรก็คลาดกันตลอด จนตอนนี้ก็ได้ฤกษ์เสียทีกับการมาเจอกับกลิ่นแรกที่มีโอกาสได้สัมผัสแบบเต็มๆ อย่าง Palo Santo (เป็นชื่อไม้ประเภทหนึ่ง ที่เชื่อกันว่าเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์ กลิ่นคล้ายๆ ไม้สนไพน์ มีความปร่ามินต์ และมีความเปรี้ยวสดชื่นคล้ายสาย Citrus แฝงในเนื้อไม้) และเมื่อได้เรียนรู้ความน่าสนใจและความงามของกลิ่นจนเต็มที่ ก็ต้องมาถ่ายทอดกันหน่อยว่าเนื้อกลิ่นเป็นลักษณะแบบ Palo Santo ตรงๆ เลยไหม หรือว่าสื่อความออกมาในสไตล์อย่างไร ซึ่งผลที่ได้ คือ

กลิ่นเหล้ารัมติดเขียวเคล้าความเป็นคาราเมลมาทักทายก่อนใครเพื่อนเลย แบบที่เล่นเอาทึ่งเพราะเนื้อกลิ่นไม่ได้มาสายหวานหนักหน่วง แต่มีความโปร่งเย้าของเหล้ารัม ที่มีความเป็นกึ่งวอดก้าหน่อยๆ มาผสม และมีความหวานติดผลไม้เล็กๆ กึ่งชาที่ติดหวานของ Davana ทำให้กลิ่นมีมิติที่ไม่ได้ไปทางหนักข้น แต่สิ่งที่สำคัญมากคือ กลิ่นคาราเมลนี่แหละ ที่มาแบบหอมหวานแกมไหม้หน่อยๆ ที่มีเสน่ห์แบบไม่หนักข้น และก็ไม่ไพล่ไปทางไซรัป เพราะมีความครีมมี่นวลๆ แฝง เลยถือว่าเปิดมาก็สร้างกลิ่นอายสมดุลย์ในความหวานที่ผ่อนคลายกำลังดี มีกิมมิคและลูกเล่นที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

เมื่อความครีมมี่นวลๆ ที่ปรากฎเนียนๆ แบบเป็นฉากหลังในช่วงต้น เริ่มจะมีอิทธิพลมากขึ้นและแทรกตัวออกมากลายเป็นโทนหลัก ก็จะเป็นการเข้าสู่ช่วงกลางที่จะกลายเป็นกลิ่นนมอุ่นที่เด่นมากโดยจะมีความหวานจากช่วงต้นมาผสมผสานทั้งความเป็นรัมเย้าเนียนๆ ความเป็นคาราเมลติดไหม้ที่กลายเป็นนมอุ่นครีมมี่คาราเมล ที่มีลูกเอื้อนติดนุ่มนมกึ่งวานิลลากึ่งอัลมอนด์ของถั่วตองก้าเข้ามาเสริมให้ความเป็นนมอุ่นมีความชัดขึ้นอีกหนึ่งสเต็ป และที่สำคัญกลิ่นติด Smoky ไม้ไหม้กึ่งน้ำมันดินอ่อนๆ ของไม้ Guaiac จะเสริมให้เนื้อกลิ่นเป็นลูกเอื้อนสาย Smoky ที่เข้าทางกับคาราเมลจนกลายเป็นกลิ่นนมอุ่นคาราเมลติดไหม้ที่หอมมีเสน่ห์มาก เนื้อกลิ่นจะได้อารมณ์เหมือนเรานั่งในสถานที่หนึ่งที่่มีควันไม้ Smoky แต่ไม่หนักจนสำลักควัน มาแนว Incense หน่อยๆ ที่ให้ความขรึมขลังเคล้ากับนมคาราเมลอุ่นแก้วโปรดที่กำลังดื่มอยู่ เรียกว่ากลิ่นให้ทั้งความผ่อนคลายรื่นรมย์และขรึมขลังมีเสน่ห์ในเวลาเดียวกัน

เมื่อกลิ่นโทนหวานค่อยๆ ดรอปลงมาเรื่อยๆ ก็จะมีกลิ่นไม้หอมที่ติด Smoky ขรึมๆ เสริมขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้แหละที่เริ่มชัดเจนถึงความเป็น Palo Santo ที่เขาเอามาเป็นแท่งๆ แล้วจุดไฟเผาสร้างควันแล้วปักไว้เพื่อคลายบรรยากาศและสร้างความศักดิ์สิทธิ์ให้กับบรรยากาศตามความเชื่อในการใช้ Palo Santo ความความสงบในจิตใจ ซึ่งสิ่งแรกที่มาเลยนอกจากความเป็นไม้ Guaiac ที่แน่นอนให้ความเป็นกลิ่นไม้ไหม้ ก็จะมีตัวเสริมชั้นดีอย่างหญ้าแฝกที่เป็น Haitian Vetiver เพราะกลิ่นจากหญ้าแฝกประเภทนี้จะให้ความเป็นไม้หอมติด Smoky ที่สมูธไม่น้อย และมีโทนเขียวแฝงหน่อยๆ และไม่พอยังมีความเป็นไม้หอมติดปร่าขรึมของไม้ซีดาร์ที่เสริมเข้ามาเลยทำให้เนื้อกลิ่นมีความเป็นโทนไม้หอมติดไหม้และมีความ Smoky ติดโปร่งที่กำลังดี มีความดาร์กอยู่แต่ไม่ได้ดำดิ่งหรือมืดเกินไป แต่ออกแนวให้เป็นกลิ่นโทนสงบๆ เสียมากกว่า ที่สำคัญมีลูกเอื้อนทางกลิ่นกึ่งไม้จันทน์หอมที่มีความครีมอ่อนๆ กึ่งสนไพน์ที่มีความปร่าสะอาดแกมหวานเล็กๆ ที่น่าจะเป็นตัว Amyris ที่เข้ามาเป็นตัวตรึงกลิ่นรองพื้นอยู่ เลยทำให้เนื้อกลิ่นมีลูกเล่นความเป็นไม้หอมที่ต่างเลเยอร์ที่ลงตัวมาก แต่ยังไงก็ตามความหวานของนมอุ่นคาราเมลในช่วงกลางก็ยังตามมาในช่วงนี้อยู่แบบประปรายเลยทำให้ได้ทั้งความขรึมสงบที่มีเสน่ห์แกมกิมมิคความหวานประปรายที่ผ่อนคลายได้ลงตัวมาก

เหมาะสำหรับ - Unisex ซึ่งเนื้อกลิ่นตอบโจทย์การใช้งานทุกเพศที่ต้องการกลิ่นโทนหวานผ่อนคลายไล่เรียงสู่ความ Smoky ขรึมและน่าค้นหา ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน แต่อาจจะไม่เข้ากับยามทางการกับกิจกรรมกลางแจ้งจำพวกลุยๆ หรือออกกำลังกายเท่าไหร่ เพราะมีโทนหวานแบบนมคาราเมลชัดพอสมควร แต่ถ้าใส่ทำงานหรือว่าใส่แบบทั่วๆ ไปอันนี้ได้ มีเสน่ห์อีกด้วยเพราะไม่เหมือนใครง่ายๆ แน่นอน ส่วนยามค่ำคืนเน้นความเก๋ นี่แหละจะดึงดูดได้ดีมาก กับการเป็นนมคาราเมมอุ่นแกมไหม้ที่ผ่อนคลายและสงบ

ความทน - อันนี้ไม่ธรรมดา เพราะว่าเจอที่ 12 ชม. เป็นเรื่องปกติในการใช้งานเสมอ ซึ่งยังไงก็ผ่านค่าเฉลี่ยที่ 8 ชม. ได้สบายมากในแต่ละสภาพผิว

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น แล้วจะลดลงมากระจายดีไปราวๆ 1 ชม. ถึงค่อยๆ ลดลงมาเป็นปานกลางไปเรื่อยๆ พอเข้าชั่วโมงที่ 4 ถึงผ่อนลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวที่ให้ความขรึมขลังแกมหวานไปเรื่อยๆ แล้วพอผ่าน 8 ชม. ไปแล้วก็จะเริ่มเป็น Skin Scent 

สรุป - เพราะ Palo Santo ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและมีความศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นแกนหลักสำคัญของไม้หอมชนิดนี้ ซึ่งแบรนด์เอามานำเสนอแต่เป็นการนำเสนอโทนกลิ่นในลักษณะผ่อนคลายไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ได้ดูจับต้องได้ยากแทน โดยการเอาโทนหวานหอมนุ่มนวลผ่อนคลายอารมณ์ Gourmand มาเจอกับกลิ่นไม้ Smoky ไม้หอมที่ถอดกลิ่นในแนวควันอะโรม่าบำบัดออกมาได้อย่างน่าสนใจมาก ซึ่งอาจจะไม่ได้เป็น Palo Santo แบบตรงๆ แต่สื่อสารถึงกลิ่นที่ใช้ในการนำ Palo Santo ในลักษณะ Incense เสียมากกว่า ซึ่งถือว่าสร้างความหอมที่ส่งต่อกันอย่างลงตัวระหว่าง 2 โทนหลักและมีความไม่ธรรมดาสูงมากจริงๆ  

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://carnerbarcelona.com/en/original-collection/13-palo-santo.html

 

วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

Review: Lubin - Nuit de Longchamp

Lubin - Nuit de Longchamp

จากจุดเริ่มต้นในปี 1934 ที่ยังเป็นช่วงรุ่งโรจน์ของ Lubin หนึ่งในน้ำหอมผู้หญิงที่เรียกว่าเป็นตัวเด่นเลยก็คงต้องมี Nuit de Longchamp รวมอยู่ด้วยเสมอ แต่หลังจากที่กาลเวลาผ่านไป และการเปลี่ยนมือของคนดูแลแบรนด์ไปเรื่อยๆ น้ำหอมกลิ่นนี้ก็เดี๋ยวเอามาทำใหม่ แล้วก็หยุดไปสลับกันไปมา จนปัจจุบันเมื่อแบรนด์กลับมาได้รับความนิยมและกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ Niche Perfume ที่ได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าหลายๆ รุ่นก็กลับมาสู่การประจำการอีกครั้งรวมถึงรุ่นนี้ที่ Re-Release ออกมาในปี 2008 ที่พยายามทำให้ใกล้เคียงกับรุ่น Original ให้มากที่สุด

แล้วกลิ่นล่ะ จะมีความดีงามขนาดไหน มาลองกัน

แน่นอนว่าช่วงเปิดก็บอกได้เลยถึงเนื้อกลิ่นที่มีความ Classic แบบที่ไม่ได้โฉงฉ่างและให้ความกรุยกราบแกมมีจริตที่มีระดับชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้น โดยจะจับต้องได้เลยว่าจะ Oak Moss เป็นพื้นกลิ่นแน่นอนตามแบบฉบับน้ำหอมสาย Traditional Classic โดยที่ไม่ต้องมีความปร่าฟุ้งพุ่งคมๆ แต่อย่างใด แต่สิ่งที่เป็นตัวหลักในช่วงต้นจะต้องยกให้ 3 โทนหลักๆ คือ กลิ่นโทนสดชื่นติดขมปร่าของสาย Citrus ที่มาจากมะกรูดฝรั่ง (ฺBergamot) มาเป็นตัวสร้างบรรยากาศที่ให้ความปร่าสดชื่น สอดรับด้วยโทนที่ 2 คือสาย Spicy เครื่องเทศที่จะมีกระวานมาสร้างความปร่าหวานเผ็ดเย้าเกลาด้วยเม็ดจันทน์เทศให้กลมกล่อม แต่ 2 โทนนี้จะเป็นองค์ประกอบสนับสนุนเท่านั้น เพราะว่าตัวจริงเรื่องกลิ่นในช่วงนี้ต้องยกให้กระดังงาที่มีความเย้าอวลเรื่อๆ เจือความเป็นดอกส้มที่ให้ความนวลสะอาดที่จะมีความหอมจนบอกได้เลยว่าเนื้อกลิ่นหลักเป็นโทน Floral ชัดเจน โดยมีเลเยอร์โทนสดชื่นและเครื่องเทศทำให้กลิ่นมีมิติความมีคลาสและเย้ายวนแบบ Classic ในทีอยู่ตลอด

เมื่อความปร่าแกมขมสดชื่นของ Citrus เริ่มเบาลงและกลิ่นสาย Floral เริ่มมีมากกว่าความเป็นกระดังงาและดอกส้ม เพราะมีกุหลาบนวลๆ เคล้าดอกไม้ขาวแนวมะลิที่ให้ความละมุนๆ เสริมเข้ามามากขึ้น ก็จะเริ่มเช้าสู่ช่วงกลาง และเช้าเต็มตัวเมื่อเริ่มจับต้องได้ว่าโทนแป้งดอกไม้เบาๆ ที่มีไอริสเป็นฐานกลิ่น เริ่มจะเป็นผู้เล่นหลักอีกหนึ่งที่มาทำให้กลิ่นมีลูกเล่นและมีเสน่ห์แบบกลิ่นแป้งดอกไม้ที่ละมุนที่มีความหวานอวลแบบพอเหมาะ และมีความ Feminine แบบมีจริตกำลังดีไม่ได้ดูโฉ่งฉ่าง ง่ายๆ อารมณ์ผู้ลากมากดีในเนื้อกลิ่นสูงจริงๆ แต่กลิ่นไม่ได้มีแค่นี้เพราะนอกจาก Oak Moss ที่ยังพอจับต้องได้ว่าเป็นพื้นหลังในเนื้อกลิ่นแล้ว พอดมใกล้ๆ ผิวจะจับได้เลยว่าเนื้อกลิ่นมีลักษณะแบบโทนแอมเบอร์กึ่งไม้หอมเนียนๆ ในความเป็นโทนแป้งชัดเจน ถือว่าช่วงนี้ชัดเจนแล้วว่าเป็นกลิ่นโทน Amber Floral เต็มตัว

การเปลี่ยนแปลงก่อนเข้าสู่ช่วงท้ายจะจับได้ว่าโทนแป้งดอกไม้ต่างๆ จะเบาลงตามลำดับ แต่จะไม่ได้หายไปไหน ลดทอนลงมาเป็นสายสนับสนุน ให้กลิ่นมีความเป็นโทนไม้หอมแกมอบอุ่นที่มีความเป็น Oak Moss ให้กลิ่นติดเขียวแปร่งออกทางเขียวเข้ม แต่กลิ่นไม่ได้เข้มหนักออกแนวเป็นพื้นหลังที่ให้ความน่าค้นหาแกมกรุยกรายปนความอบอุ่นแบบยางไม้ที่เป็นโทนแอมเบอร์แบบลึกๆ มีกลิ่นหวานยางไม้อื่นๆ เสริมให้ความลุ่มลึกในเนื้อกลิ่น โดยมีกลิ่นไม้หอมแห้งๆ กับพิมเสนเนียนรวมอยู่ให้ความรู้สึกแบบเย้าๆ ให้มิติกึ่งอารมณ์สบู่นวลๆ ไม้หอมหน่อยๆ ทำให้ช่วงท้ายจะมีลักษณะแบบโทนเย้ายวนสไตล์ Vintage แนวกึ่งอบอุ่นเจือแป้งหอมหรือสบู่ที่มีเอกลักษณ์ โดยที่ยังคุมโทนการเป็นโทนกลิ่นที่มีระดับและมีเสน่ห์แกมจริตเย้ายวนแบบวางตัวดีครบถ้วนชัดเจนเป็นการปิดท้ายจนกว่าจะจางไปในที่สุด

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป ที่อย่างน้อยผ่านกลิ่นโทน Vintage มาบ้างจะเข้าถึงกลิ่นนี้ได้ไม่ยากและเห็นเสน่ห์ที่มีความร่วมสมัยเนียนๆ รวมอยู่ด้วยในแบบแป้งหอมแกมอบอุ่นอวลผิว ซึ่งเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป แต่ให้ข้ามการใส่เพื่อออกกำลังกายหรือกิจกรรมลุยๆ กลางแจ้งจะดีที่สุด เพราะไม่เข้าทางเท่าไหร่ ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่ออกงานหรือว่าทั่วๆ ไป แบบสไตล์ร่วมสมัยจะเข้าทีมาก แต่ถ้าใส่ไปท่องราตรี อาจจะข้ามไปก่อนเพราะกลิ่นจะโดนกลบเสียเปล่าๆ

ความทน - พื้นที่แตะที่ 8 ชม. ได้สบายๆ และไปต่อได้อีกอิงตามสภาพผิวและจำนวนสเปรย์ โดยส่วนตัวเจอไปที่ 8 - 10 ชม. ในการใช้งานที่ 6 สเปรย์

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ก่อนจะผ่อนลงมาปานกลางแบบอวลๆ ไปราวๆ 3 - 4 ชม. ถึงค่อนลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันไปเรื่อยๆ จนเมื่อแตะราวๆ 7 - 8 ชม. ก็จะเป็นติดผิวแล้ว

สรุป - แน่นอนว่ากลิ่นนี้มีความ Vintage ที่มีความอวลหวานมีเสน่ห์และมีระดับในเนื้อกลิ่นแบบกำลังดีแบบที่ใช่แหละ กลิ่นแบบแป้งหอม Classic โดยจะสร้างออร่าแบบวางตัวดีมีความคุณนายและมีจริตที่ไม่ได้โจ่งแจ้งยั่วเย้า แต่ให้เสน่ห์แบบกึ่งย้อนยุคแกมร่วมสมัยได้อย่างพอเหมาะ เรียกว่าไม่แปลกใจที่ทำไมถึงกลายเป็นหนึ่งใน Timeless Scent ของแบรนด์ กลิ่นมีดีสมฐานะจริงๆ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.lubin.eu/it/produits-parfums/nuit-de-longchamp/