Shiro Fragrance - Earl Grey
จุดเริ่มต้นของการเป็นชาเอิร์ลเกรย์ ก็มาจากชาดำจีนที่ผ่านกรรมวิธีผสมผสานชาดำกับน้ำมันมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) ที่เวลาดื่มนอกจากกลิ่นชาแล้วจะได้ความสดชื่นจากโทน Citrus ร่วมด้วย ซึ่งมาจากการนำไปต่อยอดของผู้ผลิตทางอังกฤษในช่วงปี 1830 แล้วต่อมากก็มีการผลิตขึ้นมาอย่างแพร่หลายโดย Twinings และก็กลายเป็นหนึ่งในการสร้างวัฒนธรรมการดื่มชาของอังกฤษในปัจจุบัน ซึ่งชาเอิร์ลเกรย์ ดื่มได้ตลอดทั้งวัน ยิ่งถ้าดื่มแบบร้อนยิ่งทำให้รับสุนทรียะในการสัมผัสกลิ่นและรสได้ครบถ้วนมาก
แต่เพราะกลิ่นเฉพาะตัวที่เป็นการผสมผสานระหว่างความสดชื่นและความลุ่มลึกแกมหรูหราอารมณ์จิบชายามบ่ายที่เป็นที่นิยม เช่นนั้นเมื่อแบรนด์น้ำหอมจากฝั่งญี่ปุ่นอย่าง Shiro Fragrance ได้ดึงเอาอะโรม่าของความเป็นเอิร์ลเกรย์มาเป็นสไตล์ญี่ปุ่นที่ให้ความผ่อนคลายเข้ามา เช่นนั้น ได้เวลามาเรียนรู้กันหน่อยว่าจะตีความออกมาในลักษณะใด
Earl Grey เปิดต้นกลิ่นมาก็ชัดเจนมากมะกรูดฝรั่งหรือ Bergamot ที่จะค่อนข้างมีความเข้มชัดพอสมควร แต่ในเนื้อกลิ่นจะสัมผัสได้ว่ามีกลิ่นออกทางกึ่งกุหลาบกึ่งเขียวๆ ที่ไม่ใช่เป็นกลิ่นแบบน้ำในแจกันดอกกุหลาบจากเจอราเนียม แต่ให้ความเป็นลูกครึ่งกึ่งดอกกุหลาบกึ่งเขียวที่มีความเป็นฟรุตตี้ผลไม้หน่อยๆ เข้ามาร่วมด้วย ถ้าเดาไม่ผิดน่าจะเป็น Cassis เลยทำให้เนื้อกลิ่นมีความเป็นโทนแนว Citrus กึ่งเขียวกึ่ง Floral ที่เข้มอยู่พอประมาณ แต่ไม่นานก็มีตัวตัดทอนเข้ามากล่อมให้เนื้อกลิ่นมีความอะโรม่ามากขึ้น นั่นก็คือกลิ่นชาดำ
และกลิ่นชาดำนี่แหละที่จะเป็นตัวดึงเข้าสู่ช่วงกลาง ที่จะเป็นการผสมผสานกลิ่นของชาดำกับ Bergamot ที่นี่แหละกลิ่นชาเอิร์ลเกรย์ แต่ไม่ใช่แค่นี้ เพราะเนื้อกลิ่นจะมีกลิ่นกุหลาบที่ชัดมากขึ้นจากช่วงต้น ทำให้กลายเป็นชาเอิร์ลเกรย์แกทกุหลาบขึ้นมาแทน เรียกว่าเนื้อกลิ่นไม่ได้ซับซ้อนแต่อย่างใด ให้อารมณ์ครบถ้วนทั้งในความเป็นชาดำที่ลุ่มลึกแกมดอกไม้ ความเปรี้ยวหอมแบบน้ำมัน Bergamot และกลิ่นกุหลาบที่ให้ความหวานแกมปร่านวลๆ โดยที่มีลูกเอื้อนฟรุตตี้หน่อยๆ แต่ไม่ได้ถึงขั้นเป็นแยมกุหลาบหรือกุหลาบแดงสไตล์ Classic ซึ่งถือว่าให้ความ Unisex และคุมความมินิมัลได้กำลังดีเลย
การปรับเปลี่ยนเข้าสู่ช่วงท้ายยังคงชัดเจนกับการเป็นโทนมินิมัล เพราะว่า เนื้อกลิ่นโทนกุหลาบจะบางลงไปพอสมควร เปิดทางให้ก Musk ที่มีความอบอุ่นเบาๆ ของแอมเบอร์เสริมเข้ามาจนกลายเป็นโทนกลิ่นแบบสะอาดนุ่ม เพียงแต่กลิ่นของการเป็นชาเอิร์ลเกรย์ที่มีความเป็นชาดำติดกลิ่นมะกรูดฝรั่งอ่อนบางจะยังคงอยู่ และผสมผสานรวมกับความเป็น Musk ทำให้ได้อารมณ์กลิ่นสะอาดนวลแบบผิวกายติดกลิ่นชาดำอ่อนๆ ถือเป็นการปิดท้ายกลิ่นที่ไม่ซับซ้อน ผ่อนคลาย และยังไงก็รอดสูงโดยไม่ต้องเยอะสิ่งได้พอเหมาะ
เหมาะสำหรับ - สำหรับบางคนอาจจะคิดว่ากลิ่นไพล่ไปทางผู้หญิงมากกว่าหน่อย เพราะกลิ่นกุหลาบ แต่ยังไงผู้ชายก็ใส่ได้สบายมาก เพราะเนื้อกลิ่นกลางๆ Unisex ชัดเจน ซึ่งเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป รวมถึงใส่ออกกิจกรรมกลางแจ้งก็ได้ แต่ถ้าใส่ออกกำลังกายรอให้กลิ่นผ่านช่วงต้นไปก่อนน่าจะดีกว่า เพราะว่ากลิ่นค่อนข้างชัดและเข้มอยู่ระดับหนึ่งเลย ส่วนยามค่ำคืน เน้นทั่วๆ ไปก็พอ เพราะกลิ่นไม่ได้ไปสายปล่อยเสน่ห์เย้ายวนแต่อย่างใด
ความทน - อยู่ที่ 6 - 8 ชั่วโมงเป็นสำคัญ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและจำนวนสเปรย์ด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งส่วนตัวก็ 8 ชั่วโมงเป็นเรื่องปกติ แต่เน้นพกไปเติมระหว่างวันแทนถ้ากลิ่นจางลงไป
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น จนแอบแปลกใจ แต่ก็จะลดลงมาที่กระจายดีราวๆ ไม่เกิน 10 นาที ก่อนจะเป็นปานกลางไปต่อราวๆ 1 - 2 ชม. แล้วคงตัวที่ออร่ารอบๆ ตัวยาวไป ซึ่งก็ถือว่าเข้ากับการเป็นกลิ่นแบบสไตล์ญี่ปุ่นที่ไม่เน้นรบกวนคนอื่น ประมาณนั้น
สรุป - ชาเอิร์ลเกรย์กับกุหลาบ ที่คุม Concept ความสดชื่นสู่ความเรียบหรูเรื่อยๆ ไม่ซับซ้อน นี่แหละใช่เลย
หมายเหตุ:
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน
เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo
Credit - https://shiro-shiro.uk/products/earl-grey-eau-de-parfum-boxless