Geoffrey Beene - Grey Flannel
หนึ่งในน้ำหอมชื่อดังมากกกกกตั้งแต่ยุคกลางๆ ของปี 70 ยันปัจจุบันความนิยมก็ไม่เคยเสื่อมถอยลงมาได้เลยกับแบรนด์ Geoffrey Beene ที่เข้าใจทำน้ำหอมออกมาได้อย่างคลาสสิคและร่วมสมัยโดยยังคงความแมนสุดๆ ในเนื้อกลิ่นที่เข้าถึงง่ายและสื่อถึงความเป็นชายเต็มๆ เช่นนั้นมารู้จักกับตัวนี้ครับ Grey Flannel
เพียงแค่เปิดต้นกลิ่น Top Notes มาก็ได้ความรู้สึกแน่น แรง และฉุนตามแบบฉบับน้ำหอมยุคเก่าๆ กันเลยทีเดียว แต่ในความรู้สึกที่กล่าวมานั้นมันกับไม่ทำให้เบือนหน้านี้ได้ เพราะมันหอมจริงอะไรจริงในแบบสมุนไพรเขียวๆ กลั้วซิตรัส กลิ่นคมสะอาดมาก เด่นมากมายที่ดอกส้มและใบส้ม เหมือนเดินเล่นในสวนสมุนไพรกลิ่นเขียวสะอาดยามเช้าเลย เมื่อผ่านไปไม่นานจะได้เวลาของความหอมละมุนเข้ามาแทนที่ใน Middle Notes ที่ถือว่าเป็นกลิ่นโทนดอกไม้ออกทางแป้งหอมแมนๆ หรือกลิ่นสบู่หอมติดผิวกายเลย เพราะกลิ่นไวโอเล็ต ไอริส และกุหลาบชัดมากแต่ไม่มีความสาวซักนิด รวมถึงยังมีอิทธิพลของช่วงต้นที่ยังตามมาอยู่ กลิ่นในช่วงนี้เลยทำให้เกิดความรู้สึกเย้ายวนกลั้วผ่อนคลายแบบผู้ชายสะอาดสะอ้าน หรือกลิ่นออกทางเวลาโกนหนวดในร้านตัดผมหรูๆ น่ะครับ อารมณ์มันได้ประมาณนั้นเลย ก่อนจะปิดท้าย Base Notes ด้วยโทนสะอาดสบายๆ ของหญ้าแฝก และมาดแมนขาดใจของ Oak Moss โดยมีโทนวู้ดดี้กับครีมมี่บางๆ ให้เกิดความรู้สึกอบอุ่นกำลังดี ติดความนิ่งขรึมแบบผู้ชายสมชายมาก ซึ่งจะไม่ให้ร่วมสมัยได้อย่างไร ก็กลิ่นมันให้ความรู้สึกแบบที่ทั้งผู้ชายส่วนใหญ่มักจะชอบกับความเป็นธรรมชาติไม่ปรุงแต่ง และให้ความสดชื่น สะอาด มาดแมนแบบธรรมดาที่ไม่ธรรมดาอย่างนี้น่ะครับ
เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนม.ปลาย ขึ้นไป กลิ่นใช้ง่ายมาก แต่หอมไล่ระดับคลาสสิคเป็นอย่างดี ไม่มีคำว่าตกยุค สามารถใส่ได้ทุกช่วงและทุกสถานการณ์เวลายามกลางวัน รวมถึงยามเย็นแบบอากาศร้อนๆ บ้านเรา เพราะจะให้ความรู้สึกสะอาดแมนๆ และธรรมชาติได้ดีจริงๆ
ความทน – 8 ชม. ขึ้นไปเป็นเรื่องปกติ
การกระจาย – กลิ่นกระจายดีมากกกกกในช่วงต้น เพราะให้อารมณ์สะอาดสดชื่นสุดๆ ก่อนที่จะลดระกับมากระจายดีในช่วงกลาง และกระจายปานกลางในช่วงท้ายจนกว่าจะหายไปจากผิวครับ
ทิ้งท้าย – น้ำหอมตัวนี้ราคาถูกเลยทีเดียวนะครับ แต่ปัญหาคือเมืองไทยไม่รู้จะไปหาจากไหนน่ะสิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น