Marc
Jacobs – Bang Bang
ขวดมีความแนวมาก
ซึ่งตั้งขวดได้ตามปกติด้วยนะนั่นกับรุ่น Bang Bang ของ Marc
Jacobs (แน่นอนว่าไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเพลงของสาวเจ็ดสี
น้องอารีแก่นแตก และนิคกี้บั้นท้ายแอร์แบ็ก แต่ประการใด)
แน่นอนว่ารุ่นี้ได้ต่อยอดมาจากรุ่นต้นตระกูลคือ Bang เช่นนั้นไม่ท้าวความอะไรให้มากความ
มาเจาะกันเลยแทนดีกว่าว่าจะออกมาในรูปไหน
บอกก่อน - เพราะไม่เคยลองรุ่น Bang มาก่อนเลยจะไม่ทราบถึงความเชื่อมโยง ซึ่งจะข้ามในส่วนนี้ไป เน้นกลิ่นของ Bang Bang ล้วนๆ
บอกก่อน - เพราะไม่เคยลองรุ่น Bang มาก่อนเลยจะไม่ทราบถึงความเชื่อมโยง ซึ่งจะข้ามในส่วนนี้ไป เน้นกลิ่นของ Bang Bang ล้วนๆ
เรียกว่าเป็นน้ำหอมที่แอบเหนือความคาดหมายมาก
เพราะตอนแรกคิดว่าน่าจะเจอความเปรี้ยวเข็ดฟันแบบชายหนุ่มที่ Marc Jacbs นำเสนอ แต่กลายเป็นกลิ่นอายที่ Safe มากกว่าที่คิดซะอีก
แต่ก็มีความเซ็กซี่ไม่น้อยนะเออ ซึ่งเปิด Top Notes กับกลิ่นอายของเครื่องเทศติดหวานจางๆ
ของเม็ดกระวานที่จะมีโทนซิตรัสมาแทรกบางๆ แล้วล้อมด้วยกลิ่นสมุนไพรที่ติด Spice
กำลังดี กลิ่นให้ความนุ่มติดสดชื่นบางๆ ปูทางเข้าสู่ Middle
Notes กับการเป็นไม้หอมอ่อนๆ อบอุ่นกลั้วสมุนไพรติดเครื่องเทศเบาๆ
กลิ่นจะนุ่มอ้อยอิ่งแบบละมุนไปเรื่อยๆ
มีความเป็นโทนแป้งให้สัมผัสได้กันตั้งแต่ช่วงนี้ที่แอบมีความเซ็กซี่กำลังดี ที่จะเริ่มมาเต็มแน่นขึ้นเรื่อยๆ
จนเข้าสู่ Base Notes ที่ความเป็นไม้หอมจะผสมผสานกับความนุ่มสะอาดของ
Musk รวมตัวเป็นโทนแป้งหอมกลั้ววู้ดดี้ที่เย้ายวนแบบนุ่มๆ
ไม่โฉ่งฉ่าง เนื้อกลิ่นมีโทนหวานเย้าแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ ไม่รีบไม่ร้อนติดหวานจางๆ
ผสมผสานอยู่ด้วย โดยกลิ่นเปลี่ยนแปลงแบบเนียนๆ คล้ายๆ กันในแต่ละช่วงพอสมควร
เลยได้ความรู้สึกคล้ายกลิ่นทางเดียวนิดนึง
แต่ก็ให้ภาพแบบชายหนุ่มแต่งกายสุภาพเรียบร้อย ดูสะอาดสะอ้าน
แต่รู้สึกได้ถึงกลิ่นนวลๆ หอมๆ ที่อยากเข้าไปดมใกล้ๆ
เปิดพิสูจน์กันหน่อยว่ากลิ่นมาจากตรงไหน ประมาณนั้นเลย
เหมาะสำหรับ
– ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใช้ได้แล้ว
กลิ่นคาบเกี่ยวได้ทั้งการเป็น Safe Scent และ Sensual
Scent ได้ลงตัวมาก สามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน
ทั้งทางการและไม่ทางการ ยกเว้นเลยในเรื่องการใส่เพื่อออกกำลังกายกลิ่นไม่ได้มาในทางนั้นนัก
ใส่กับอากาศร้อนก็ไม่เคอะเขิน ส่วนยามค่ำคืน เน้นใส่เพื่อโรแมนติคน่าจะดีกว่า
เพราะกลิ่นไม่ได้กระจายเรียกแขก ออกทางคลุกวงในเถิดจะเกิดผลนั่นเอง
ความทน
– อยู่ราวๆ 6 ชม. อาจจะมีบวกลบบ้าง ตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ
การกระจาย
– กลิ่นนี้ไม่เน้นกระจายมาก
ออกแนวกระจายปานกลางในช่วงต้นแล้วลากยาวความปานกลางไปเรื่อยๆ
จนเมื่อเริ่มแตพเข้าช่วงท้ายจะลงเป็นออร่ารอบๆ ตัว แล้วลดลงไปเรื่อยๆ จนเป็น Skin
Scent นั่นเอง
ทิ้งท้าย
– กลิ่นเรียกว่าดูเรียบๆ เงียบๆ แต่แอบฟาดเรียบเอาได้ถ้ามาพิสูจน์ใกล้ๆ
ไม่น้อย ที่สำคัญใครชอบโทนไม้หอมกลั้วโทนแป้ง
และไม่ต้องการการกระจายตัวของน้ำหอมมากนัก ตัวนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น