Review: Le Labo - Rose 31
Le Labo - Rose 31
ถ้าให้พูดถึงกลิ่นอายที่เป็นที่นิยมและได้ยินเมื่อไหร่จะรู้ได้เลยว่ามาจาก Le Labo คงหนีไม่พ้น Rose 31 แน่นอน เพราะเป็นรุ่นที่ทำกลิ่นอายกุหลาบออกมาได้อย่างแตกต่างและมีเสน่ห์มาก ก็เลยได้เวลาของการเล่ากลิ่นรุ่นเด่นตัวนี้ซะหน่อยว่า
Le Labo ทำกลิ่นออกมาลักษณะไหน และเป็นอย่างไร
เปิดต้นกลิ่นมาความเป็นเครื่องเทศที่มีกลิ่นอายแบบ
Animalic ของยี่หร่าแขก (Cumin) จะมาชัดเจนเลยทีเดียว
แต่สิ่งหนึ่งคือ กลิ่นสาบของยี่หร่าแขกที่มักจะมาแบบเต็มจัดชัดเจนจนนึกว่าเป็นกลิ่นเต่าใครที่ไหนนั้น โดนเกลาได้สวยเลย ทำให้กลิ่นออกทางสาปปลุกเร้าอมหวานแบบกำลังดีเคล้าเครื่องเทศโทนเผ็ดโปร่งซ่าๆ
แนวกานพลู และมีพริกไทยที่ให้ความสดชื่นเผ็ดแต่มีความสะอาดเจืออยู่ในเนื้อกลิ่น
แต่ในความเป็นเครื่องเทศเด่นนั้น สิ่งหนึ่งที่พอจะจับได้เลยคือ
กลิ่นอายของกุหลาบที่เป็นเหมือนฉากหลังคลอเคลียไปด้วยตลอด
ออกแนวทำตัวไม่เด่นแต่มีซีนเสมอ แล้วกลิ่นจะเริ่มเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ช่วงกลาง
ซึ่งความเป็นกุหลาบกับโทนเครื่องเทศจะมาเสมอผสานกันอย่างสมดุล
โดยที่กลิ่นอายเครื่องเทศจะยังชัดเจน แต่จะมีความนวลกุหลาบติดสะอาดตีคู่กันไป
โดยที่มีกลิ่นอายติด ติดสาปปลุกเร้าคลอเคลียอยู่คุมโทนการเป็น Spicy Animalic Rose ได้ชัดเจน
แต่ในเนื้อกลิ่นจะมีโทนติดดาร์กหน่อยๆ แนวๆ ไม้หอมดาร์กๆ แห้งๆ
เป็นตัวเสริมให้มีมิติของโทนที่มีความดาร์กและลึกลับกำลังดี
ทำให้กลิ่นนี้มีความดึงดูดปนเซ็กซี่แบบไม่โจ่งแจ้ง และกลิ่นไม้หอมนี่แหละ
จะเป็นตัวดึงเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอมอย่างชัดเจน กับการเป็นตัวเด่นที่ให้ความดึงดูดและมีชั้นเชิงกลิ่นอายไม้หอมนัวๆ
นวลๆ แต่มีความสะอาดจากการที่เครื่องเทศโทนโปร่งจะค่อยๆ
เบาลงไปเป็นตัวสนับสนุนให้อารมณ์หวานบางๆ แต่กุหลาบยังคงปล่อยโทนเบาๆ กำลังดีนวลๆ กลิ่นเลยจะได้ความสะอาดแบบแห้งๆ
แต่มีมิติที่ผสมผสานความนวลของกุหลาบ ความดึงดูดเจือหวานเบาๆ ปลายๆ
กลิ่นของเครื่องเทศ
และความสะอาดติดเซ็กซี่เบาๆ เคล้าความดาร์กมีเสน่ห์ของไม้หอมแห้งๆ และโทน Animalic ที่รองพื้นอยู่นั่นเอง
ภาพรวม - กุหลาบ
เครื่องเทศ และโทนสาปปลุกเร้า ที่เย้ายวนแบบไม่โจ่งแจ้ง
แต่มีระดับและมีความแตกต่าง
เหมาะสำหรับ -
ทุกเพศเลย กลิ่นมีการแบ่งภาคที่ดีที่มีทั้งมุมผู้หญิงและผู้ชาย
เพียงแต่อาจจะต้องผ่านกลิ่นแนวเครื่องเทศและ Animalic
มาบ้าง จะเข้าถึงได้ง่ายขึ้นจริงๆ ซึ่งกลิ่นนี้เข้ากับหลายๆ
สถานการณ์ยามกลางวันแบบจำนวนสเปรย์ที่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้กลิ่นลงตัวมากและสร้างเสน่ห์เฉพาะตัวกันได้เลย
มากไปเดี๋ยวคนจะตกใจเสียก่อน ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน
ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป แต่งดการใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งและการออกกำลังกายไปได้เลย
ไม่เข้าทางแม้แต่น้อย ส่วนยามค่ำคืนเรียกว่าจัดไป ไม่ว่าจะออกงาน ท่องราตรี หรือว่าอยู่กับแฟน
เพราะกลิ่นนี้มันมีความเย้ายวนแบบเนียนๆ ในตัวเข้าทางการเป็นกลิ่นที่ถ้ามาอยู่ใกล้ๆ
อาจจะอยากคลุกวงในกันได้เลยทีเดียว
ความทน -
กลิ่นทนลงตัวมากที่ประมาณ 8 ชม.
จะมากหรือน้อยกว่านี้อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ
การกระจาย -
กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ก่อนจะลดลงมากระจายปานกลางแบบยาวไปจนถึงช่วงท้าย
พอพ้นซัก 6 ชม.
ไปแล้วกลิ่นจะลดลงมาเป็นออร่าบางๆ รอบๆ ตัว แล้วผันเป็น Skin Scent ตามลำดับ
ทิ้งท้าย -
มีความงงกันในระดับหนึ่ง เพราะอาจจะด้วยความคาดหวังว่ามันต้องเด่นที่ความเป็นกุหลาบ
แต่เอาเข้าจริงๆ กุหลาบจะเป็นเหมือนฝ่ายสนับสนุนที่เป็นตัวเดินเรื่องเสียมาก
มีให้รู้สึก แต่ไม่ได้เป็นตัวเอก แต่ถ้าพูดในแง่ของกลิ่นแล้วถือเป็น Spicy Animalic Rose ที่ดีและมีมิติของการสื่อสารถึงความเป็นกุหลาบในรูปแบบที่เข้าถึงได้ทุกเพศอย่างมีชั้นเชิงมากเลยทีเดียว
สมแล้วที่ได้รับความนิยมมาตลอดและยาวไปอย่างแน่นอน
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit - http://i1.adis.ws/i/liberty/227070-1000822695-1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น