1907 - Pepper
ในช่วงที่มีการเปิดตัวแบรนด์และวางจำหน่ายน้ำหอมใหม่ๆ ของ 1907 น้ำหอมส่วนใหญ่จะเป็นการเจาะจงไปที่การนำเสนอกลิ่น Note กลิ่นหลักๆ แบบตรงไปตรงมา เช่น Cedar, Vanilla, Jasmine และอื่นๆ มาแบบเดียวกับการชูโรงกลิ่นสไตล์ Exclusive Collection หรือว่า Niche Perfume ในหลายๆ แบรนด์ ซึ่งแม้ว่าปัจจุบันนี้ จะมีการปรับเปลี่ยน Collection น้ำหอมใหม่หมด ปรับความเข้มข้น และปรับเปลี่ยนรูปทรงขวดให้สวยงามมากขึ้น ทำให้กลุ่มที่เป็นชื่อกลิ่นแบบ Note เดี่ยวๆ ได้ไปต่อเพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้น เช่นนั้น แน่นอนว่าส่วนใหญ่เลิกผลิตไปโดยปริยาย
เช่นนั้นเมื่อหลายกลิ่นเลิกผลิต เช่นนั้นต้องเอามาเล่ากลิ่นซักหน่อย เพราะเป็นสารบัญเก็บไว้ด้วยส่วนหนึ่ง เช่นนั้น จึงขอมาว่ากันที่กลิ่น Pepper ที่แบรนด์นี้ได้เคยสร้างสรรค์มาซักหน่อยว่าเนื้อกลิ่นจะสื่อสารออกมาอย่างไรบ้าง (สำหรับกลิ่นอื่นๆ ที่เลิกผลิตไว้ว่ากันภายหลัง)
เปิดต้นกลิ่นมาก็ Pepper สมชื่อ เพราะว่าเนื้อกลิ่นในความเป็นโทนเผ็ดนวลของพริกไทยจะยืนเด่นเป็นสง่ามาก เพียงแต่ว่าจะไม่ได้เผ็ดร้อนมากขนาดนั้น มีลูกโทนติดฝาดหน่อยๆ ที่เป็นลักษณะของพริกไทยสีชมพูเสริมเข้ามา และมีลูกเอื้อนติดหวานเผ็ดของกระวานที่มาตัดทอนความเผ็ดนวลลงไปพอประมาณ แต่แฝงด้วยกลิ่นไม้หอมแห้งๆ กึ่งเก่าๆ หน่อย เลยทำให้ภาพรวมมากับความเป็นโทนเผ็ดนวลแกมไม้หอมแบบ Woody Spicy ที่มีความเข้าถึงได้ง่ายและไม่เล่นใหญ่เกินไปได้ลงตัวตั้งแต่แรกเริ่มเลย
ในช่วงกลางเรียกว่าพริกไทยก็ยังไม่ได้หายไปไหน ยังคงเด่นอยู่เช่นเดิม แต่จะเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งแล้ว เพราะพริกไทยออกเองครึ่งนึง ไม้หอมสนับสนุนอีกครึ่งนึง ถือเป็นแกนหลักสำคัญของเนื้อกลิ่นในการสร้างโทนแบบ Woody Spicy เช่นเดิม แต่เพิ่มเติมคือความอวลแกมน่าค้นหาหน่อยๆ ของไม้หอมที่จับต้องได้ว่าเป็นสไตล์ไม้แห้งดาร์กหน่อยๆ อารมณ์แบบไม้หอมเนื้อดำเก่าๆ แกมไม้จันทน์หอมที่มาทำให้กลิ่นมีความนุ่มมากขึ้น และมีกลิ่นพิมเสนปลายกลิ่นระเรื่อบางๆ ที่ทำให้กลิ่นมีความเย้าเบาๆ แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ยังให้ความพอดีๆ มีความอวลแกมอุ่นหน่อยๆ เป็นหยินหยางที่ทั้งเผ็ดนวลสะอาด และดาร์กน่าค้นหาเบาๆ สร้างโทนแบบ Daily Scent ชัดเจน
แม้ว่าจะเข้าสู่ช่วงท้ายเพราะเนื้อกลิ่นอุ่นขึ้น โทนไม้หอมเริ่มนุ่มขึ้นเพราะมี Musk สะอาดๆ เข้ามาเกลากลิ่น แต่แน่นอนว่าพริกไทยก็ยังยืนหนึ่ง แต่ตอนนี้จะจับต้องได้แบบอารมณ์เราได้กลิ่นพริกไทยขาวบดแบบห่างๆ ที่มีความเผ็ดนวลสว่างกำลังดีเข้ามาแทน เพราะโทนไม้หอมติดดาร์กเบาๆ ลดทอนลงไปจนเหลืออ่อนๆ ติดผิวแทนแล้ว ซึ่งทำให้ช่วงท้ายเป็นโทน Musky Peppery ที่มีความอบอุ่นแกมไม้หอมกลางๆ ซึ่งถือเป็นการปิดท้ายที่คุมโทนการเป็นกลิ่นพริกไทยใช้ง่ายและเข้าถึงง่ายแบบที่ยังไงก็รอดสูงนั่นเอง
เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศตั้งแต่วัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็สามารถใช้งานได้สบายมาก เนื้อกลิ่นมาสไตล์ Daily Scent ใส่แบบแทบจะครอบจักรวาลยามกลางวันได้เลย ไม่ว่าจะเป็นทางการ ทำงาน Office หรือทั่วๆ ไป ลามไปจนถึงใส่ออกกำลังกายก็พอได้อยู่ แบบรอให้เข้าช่วงท้ายก่อนประมาณนี้ เพราะกลิ่นไม่ได้หนักหน่วงมากนัก ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่แบบทั่วๆ ไปหรือออกงานเน้นแบบโทนสุภาพจะดีที่สุด เพราะกลิ่นไม่ได้ไปสายเย้ายวนอวลพลังรอบทิศนัก
ความทน - ราวๆ 6 - 8 ชม. เป็นสำคัญ และสามารถไปต่อได้อีกถ้าสภาพผิวเอื้อมากพอ ซึ่งส่วนตัวเจอไปที่ 8 ชม. กับการใช้งานที่ 6 สเปรย์
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลดลงมาปานกลางซักราวๆ 1 - 2 ชม. ก่อนที่จะเป็นออร่ารอบๆ ตัวไปจนถึงชั่วโมงที่ 6 แล้วก็ Skin Scent กันยาวไปจนกว่าจะจาง
สรุป - เป็นน้ำหอมโทนพริกไทยเด่นที่ใช้ง่ายมาก มีความเป็น Daily Scent สูงแบบที่ใส่ยังไงก็รอด ซึ่งกลิ่นมาสายมินิมัลที่ไม่หวือหวานัก ซึ่งถือเป็น Safe Scent เลยก็ย่อมได้ แบบที่ใส่แล้วก็ไม่ได้ไก่กา แต่ถ้ามองที่ข้อด้อย ก็ไม่ได้แปลกใจนักว่าทำไมกลิ่นนี้ไม่ได้ไปต่อ
หมายเหตุ:
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน
เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo
Credit - https://www.fragrantica.com/perfume/1907/Pepper-43883.html