My Favorite Newcomer Fragrances of 2023
ปี 2023 ที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีที่น่าจะเข้าช่วงอิ่มตัว เลยไม่ค่อยได้ซื้อหาน้ำหอมเท่าไหร่นัก ทำให้ตัวเลือกต่างๆ ที่จะเป็น 10 กลิ่นที่สร้างความประทับใจ ลดลงไปเยอะมาก และก็เลือกมาจนได้ แต่ก่อนที่จะเข้าเรื่องก็มีกลิ่นที่จำใจต้องยอมที่จะเอาออกจาก List ไปอยู่ ซึ่งก็ขอให้เครดิตโดยการระบุชื่อบางส่วนไว้ที่นี้เลย
Di-Ser - Kazehikaru, Orientica - Amber Rouge, Azzaro - Aqua Verde, 4711 - Acqua Colonia: Matcha & Frangipani, Liberta Perfume - Cha-Ba และ Sarah Jessica Parker - Stash SJP เป็นต้น
เช่นนั้นก็ขอเข้าสู่ 10 กลิ่นน้ำหอมโดยไม่ได้เรียงลำดับตามความชอบและไม่ได้สนใจว่าจะผลิตหรือวางจำหน่ายปีไหนเน้นเฉพาะที่ได้มาในปี 2023 เพียงอย่างเดียวของเข็มขัดสั้น เริ่มที่
Hugo
Boss - Boss the Collection: Silk & Jasmine
“สุภาพบุรุษที่อบอุ่นและมีความหวานโรแมนติคเป็นออร่าออกมาให้รับรู้ได้” ถือเป็นคำจำกัดความชัดเจนของกลิ่นนี้เลย ซึ่งส่วนตัวน้อยครั้งจริงๆ ที่จะเจอน้ำหอมกลิ่นน้ำผึ้งที่เข้ากับเคมีตัวเองได้ดี โดยไม่มีกลิ่นโทนติด Animalic เกินไปจนทำให้อึดอัด และกลิ่นนี้ก็ทำได้ดีในการผสมสานกลิ่นมะลิที่นวลๆ อวลกลิ่นน้ำผึ้งหอมหวานโปร่งแต่ไม่หนัก เพราะมีโทนปร่าเครื่องเทศเกลาไว้ และมีกลิ่นโทนอบอุ่นของวานิลลาดึงให้เนื้อกลิ่นมีความอบอุ่นสุขุมนุ่มลึก ที่สำคัญเป็นครั้งที่ 2 ที่เจอกลิ่นมะลิในน้ำหอมชายที่ทำได้ดีมากและมีเสน่ห์จริงๆ
The
Body Shop - Full Orange Blossom
“ดอกส้มที่ให้ความเป็นธรรมชาติ สดชื่น สะอาด และผ่อนคลาย” นี่แหละคือกลิ่นที่ให้ความรู้สึกออกมายามเมื่อได้ใช้ เพราะเนื้อกลิ่นจะให้อารมณ์สดชื่นไปสู่นวลสะอาดสไตล์ Soapy แบบสบู่ที่มีกลิ่นดอกส้ม แน่นอนว่าทั้ง Neroli และ Orange Blossom ต่างปล่อยของได้อย่างเป็นธรรมชาติ จากเขียวเปรี้ยวหอมสดชื่นสู่ความเป็นสบู่หอมระเรื่อเปรี้ยวอมนวลหวาน ก่อนปิดด้วยกลิ่นสบายๆ ของไม้หอมแห้งๆ แกม Earthy อ่อนๆ ของหญ้าแฝกรองพื้น คลอความสะอาดที่มาแบบเรื่อๆ ไล่เรียงจากสดชื่นสู่สบายๆ ผ่อนคลายได้ลงตัว
House
of Mammoth - Voices
“ข้าวเหนียวมะม่วง สมูธตี้มะม่วง ไอศครีมมะม่วง หรือของหวานครีมมี่ที่มีมะม่วง” คือกลิ่นนี้เลย เพราะทุกสโตรกกลิ่นคือการถ่ายทอดเอาความเป็นมะม่วงสุกเป็นตัวตั้ง ตามด้วยกะทิ ใบเตย และข้าวเหมียวมูนหน่อยๆ ก่อนที่กลิ่นจะปรับเป็นสมูธตี้มะม่วงเข้มข้นที่มีความครีมมี่มะพร้าวกำลังดี ตามด้วยกลิ่นครีมมี่ที่มะม่วงเด่นแบบราดไซรัปมะม่วงแท้ๆ คลออยู่ในนั้น เรียกว่าใส่แล้วออร่ามะม่วงสุกชัดเสียยิ่งกว่าชัด และที่สำคัญไม่ใช่แบรนด์ไทย แต่เป็นแบรนด์อินดี้จาก USA ที่พากลิ่นนี้ชนะรางวัล 2023 The Art & Olfaction Awards - Artisan Category เสียด้วย ธรรมดาเสียที่ไหนกัน
Stora
Skuggan - Silphium
“เครื่องเทศเผ็ดปร่าฟุ้งเย้า ที่มีความขรึมขลังอะโรม่าอย่างมีมิติและชั้นเชิง” บ่งบอกถึงความเป็นกลิ่นนี้ได้ทั้งหมด เพราะแม้ว่ากลิ่นโทนเครื่องเทศสายเผ็ดปร่าทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นกานพลู พริกไทยดำ ขิง ที่เสริมด้วยความเผ็ดอวลหวานของอบเชยที่พุ่งออกมาชัดเจน แต่ก็มีความอะโรม่าที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวจากกลิ่นแนวกุหลาบแกมเขียวของเจอราเนียม เสริมด้วยความเป็นโทนอบอุ่นกึ่งไม้หอมที่มีความเป็นยางไม้ Incense เป็นฉากหลัง ทำให้กลิ่นมีมิติที่น่าค้นหาแทรกซึมอยู่ในเนื้อกลิ่นตลอด ใช่ ใส่ครั้งแรกอารมณ์กลิ่นยาที่มีเครื่องเทศมาเลย แต่กลิ่นดีมีมิติจริงจัง กด Love ให้เลย
Estée
Lauder - Tender Light
“ชาดำมะลิ กับบรรยากาศเย็นๆ ยามเช้าห่อล้อมรอบกาย” ซึ่งใช่เลยตั้งแต่แรกฉีดความเป็นชาดำ สไตล์ชาจีนที่อบกับมะลิจะพุ่งตรงมาทักทายจมูกก่อนใครเพื่อน ก่อนจะได้ความรู้สึกสดชื่นรายล้อมแบบรรยากาศที่มีโทน Citrus กับโทน Airy สบายๆ เข้ามาเสริม แล้วจะกลายเป็นกลิ่นชาดำที่มีลูกเอื้อนมะลิหน่อยๆ ให้ความอะโรม่าแกมหวานโปร่งแต่น่าค้นหาที่สร้างความผ่อนคลายและความสุขในการรับกลิ่นแบบชัดเจน ก่อนจะทิ้งท้ายอารมณ์แบบแป้งแกมชาดำที่คลอผิว ซึ่งบอกได้คำเดียวในการเป็นคนที่ชอบกลิ่นชาอยู่ทุนเดิมเลยว่า “ฟิน”
imp.
7 Herbal Mint
“กลิ่นแห่งความสุขที่สดชื่นและสร้างรอยยิ้ม” เพราะนี่คือกลิ่นมินต์ที่ใสกระจ่าง มีลูกเล่นการผสมผสานระหว่างสเปียร์มินต์ที่ให้ความปร่าเขียวติดหวานโปร่ง + เพพเพอร์มินต์ ที่ให้ความปร่าแน่นกว่านิดหน่อยแต่มีความ Cooling ให้จับต้องได้ เสริมด้วยกลิ่นชาและเลมอนที่ทำให้ได้อารมณ์สดชื่นเย็นๆ ของบรรยากาศยามเช้า ที่มีความ Sparkling หน่อยๆ ได้ลูกผสมแบบค็อกเทล Mojito อ่อนๆ ให้รู้สึกได้ด้วย โดยที่ Background จะเป็นไม้หอมโปร่งๆ กับ Musk นวลบางๆ สบายๆ เรียกว่าเหมือนอยู่ญี่ปุ่นเดินเล่นในโซนใกล้พื้นที่สีเขียวที่อากาศสดชื่นเย็นๆ Love at 1st Sniff เต็มๆ
Dior
Sauvage Parfum
“เท่ห์ อบอุ่น และมีเสน่ห์ สไตล์ Mass ที่คุณภาพจัดเต็ม” กับ Sauvage Parfum ที่ส่วนตัวถือเป็น 1 ใน 4 ของสาย Dior Sauvage ที่ชอบที่สุด เพราะพื้นเพเดิมไม่ได้อินกับ EDT และ EDP เท่าไหร่ ส่วน Elixir อันนี้ยอมรับว่าดีมากในแง่ความเข้มข้นและกลิ่นที่มีมิติ แต่สำหรับ Parfum สิ่งที่ประทับใจเลยคือการ Balance ระหว่างโทนสดชื่นสู่ไม้หอมและโทนอบอุ่นที่มีเสน่ห์ดึงดูดแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้ตรงตามความเข้าใจว่าพอเป็น Parfum ต้องเข้มมากเสมอไป และที่สำคัญชอบกลิ่นนี้เพราะ Ambroxan ไม่ได้ตูมตามเยอะจนมึนนี่แหละ ใช้กันยาวๆ ก็งานนี้
Liberta
Perfume - Solterra
“บรรยากาศชนบทญี่ปุ่นกับทุ่งทานตะวันในฤดูร้อนยามเช้าค่อนสาย” นี่เป็นอีก 1 กลิ่นที่เป็นรักแรกดมเลย เพราะภาพบรรยากาศมาแบบเต็มๆ หลังกลิ่นฟุ้งเข้าจมูก เลยทำให้ตัดสินใจซื้อทันที และพอใช้จริง โอย ตายๆๆๆ เนื้อกลิ่นมีความเป็นธรรมชาติและมีความเป็นสไตล์ญี่ปุ่นสูงมาก เพราะกลิ่นไม่ได้ปล่อยพลัง แต่ให้ความสดชื่นสบายๆ ยามเช้าจากโทน Citrus ใสๆ + ดอกส้ม ก่อนจะให้ความเป็นรู้สึกของกลิ่นแบบดอกทานตะวันเวลาเราเดินริมทุ่งทานตะวัน แล้วเป็นกลิ่นสะอาดๆ เบาๆ คลอผิวกาย แม้ว่ากลิ่นจะไม่ได้ทนมาก แต่ “คนมันรักไปแล้ว เปลี่ยนไม่ทันซะแล้ว” ล่ะนะ
Liberta
Perfume - Gin-Jo
“สาเกแบบไดกินโจ ที่รสชาติโดดเด่นเข้มข้น นุ่ม หอมผลไม้ ลุ่มลึก และเพลิดเพลิน” ซึ่งต้องบอกว่ากลิ่นน้ำหอมขวดนี้คือสาเกแบบไดกินโจชัดๆ เพราะกลิ่นเปิดให้ความฟุ้งของนิฮงซู (สาเกญี่ปุ่น) ที่หมักหอมกำลังดีเสริมด้วยกลิ่นโทน Fruity ใสๆ ที่ทำให้รู้สึกหอมเพลิดเพลิน ตามด้วยกลิ่นที่บอกความรู้สึกแบบ Aftertaste หลังจิบสาเกที่มีความอูมามิ แล้วไล่โทนเบาลงมาเป็นหวานละมุน ก่อนเป็นกลิ่นสาเกที่ติดผิวกายอ่อนๆ แบบคนจิบสาเกมา ใช่เลย ยกนิ้วให้แบรนด์เลยที่ทำกลิ่นออกมาได้ชัดเจนและเป็นธรรมชาติแบบสาเกจริงๆ ได้มากขนาดนี้ ยอดเยี่ยมมาก
Liberta
Perfume - Fructus
“Sweet November กับความหอมหวานลุ่มลึกอย่างมีมิติของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น” ซึ่งทุกอย่างของกลิ่นนี้คือสร้างภาพในหัวออกมาเลยว่าเหมือนเดินเล่นกับคนรักท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่นที่ให้ความหวานของเมเปิ้ลไซรัปที่ติดดาร์กหน่อย เลยไม่ดูหวานแหววจนดูเลี่ยนหรือน่าหมั่นไส้ แต่เป็นความหวานที่นิ่งและสุขุมมากขึ้น โดยจะมีกลิ่นใบไม้แห้งที่ติด Smoky กำลังดี และกลิ่นไม้หอมที่มีความดาร์กลุ่มลึก แต่ปลอดโปร่งและไม่หนักหน่วง แม้กลิ่นจะหวานมีเสน่ห์ แต่ก็ยังคุมโทนกลิ่นสไตล์ญี่ปุ่นที่ไม่หนักเกินไป ให้ความกำลังดีและมีเสน่ห์ชวนยิ้มมากจริงๆ
ทั้งหมด ถือเป็นสมาชิกใหม่ของเข็มขัดสั้นในปี 2023 ที่สร้างความประทับใจในเนื้อกลิ่นอย่างมากกับการได้มาครอบครองและสร้างความสุขในการเติมเต็มสีสันของชีวิตในแต่ละวันมาเสมอ และสุดท้าย
Happy New Year ขอให้มีความสุขกับกลิ่นหอมรายล้อมรอบตัวกันตลอดทั้งปีนะครับ 😊
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น