Elizabeth and James - Nirvana French Grey
จุดเริ่มต้นจากความโด่งดังของคู่แฝดอย่าง Mary-Kate และ Ashley Olsen จากการเล่นซิทคอมอย่าง Full House ตั้งแต่เป็นเด็กทารกในปี 1987 จนกระทั่งเป็นเด็กสาวใน Season สุดท้ายในปี 1995 แล้วก็ต่อยอดทางด้านสาย Series และ TV Movie มาอย่างยาวนานจนถึงปี 2004 จนกลายเป็นหนึ่งใน Celebrities ที่โด่งดังมาก แต่เพราะการต่อยอดของ Celebrities ไปทางสายแฟชั่นเรียกว่าก็เรียกว่าเป็นเรื่องปกติอยู่เดิม แต่เพิ่มเติมสำหรับทั้งคู่ คือ ถ้ามีเซนส์ทางนี้ได้ดี จะไปได้อย่างยาวนาน และแน่นอนว่าไปได้ดีมากๆ จนถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะแบรนด์สาย High Fashion อย่าง The Row
และในปี 2017 ทั้ง 2 สาวก็สร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมาที่เน้นแฟชั่นสไตล์ Contemporary ที่เอาความเก๋ในสไตล์ Vintage มาประยุกต์กับความเรียบโก้ ซึ่งนั่นก็คือ Elizabeth and James ที่เป็นตัวแทนทั้งฝั่งผู้หญิงและผู้ชายในแบรนด์นี้ แต่แบรนด์เองก็ไม่ได้มีแค่แฟชั่น แต่มีน้ำหอมรวมอยู่ด้วย ซึ่งแม้ว่าแบรนด์นี้จะสิ้นสุดไปแล้ว แต่สิ่งที่รับรู้มาตลอดเลยคือ น้ำหอมของแบรนด์นี้ไม่ธรรมดา ก็ขอได้มาเจอกันซักหน่อยก่อนที่จะเริ่มหายไปจากตลาดและกลายเป็นของ Rare Items ในอนาคต เช่นนั้นเลยเอากลิ่นแรกที่มีโอกาสได้ลอง (ที่ไม่ใช่กลิ่นแรกของแบรนด์) มาเล่าต่อว่ากลิ่นจะมาในทิศทางไหน นั่นก็คือ Nirvana French Grey
เปิดตัวด้วยการเป็นโทนสดชื่นติดเขียวที่มีความคมกำลังดี ไม่บาดไป ไม่พุ่งปรี๊ดไป เนื้อกลิ่นให้อารมณ์ลูกผสม 3 โทนหลักๆ คือ เขียว Citrus และดอกไม้ขาวเบาๆ ซึ่งเลเยอร์กลิ่นจะไล่จากเขียวออกทางใบไม้ติดคมหน่อยๆ ที่มีความเปรี้ยวคลอ และมีกลิ่นดอกไม้ขาวนวลบางๆ รองพื้น ซึ่งเป็นการผสมผสานจากโทนเขียวใบไม้ กิ่งก้านส้ม และดอกส้มที่สกัดแบบไอน้ำหรือ Neroli ที่เป็นลูกครึ่ง Citrus กึ่งดอกไม้ขาว ซึ่งไล่เลเยอร์ได้มีความสดชื่น โดยไม่ต้องมีความซับซ้อนอะไรมาก ให้ต้องปีนบันไดดมแต่อย่างใด
การเปลี่ยนแปลงของกลิ่นจะลดทอนความคมลงมาเรื่อยๆ จนได้ความเขียวสดชื่นอ่อนๆ คลอ ก็จะเป็นการเข้าสู่ช่วงกลางที่ตอนนี้แก่นหลักของกลิ่นคือลาเวนเดอร์ ที่จะให้ความนวลสะอาด เนื้อกลิ่นจะไม่ได้ลาเวนเดอร์ที่ออกมาเขียวแปร่งสมุนไพรแบบดมจากดอก แต่ให้ความหอมนวลสะอาดๆ นุ่มๆ สบายๆ ไม่หนักไม่ข้น ที่มีความเขียวสดชื่นเจือปนจากดอกส้มแบบ Neroli และกลิ่นใบไม้เขียวๆ ติดเปรี้ยวอ่อนๆ ที่ตามมาจากช่วงต้น และไม่พอยังมีความสะอาดอ่อนๆ ที่น่าจะมาจากดอกส้มที่สกัดแบบตัวทำละลายหรือ Orange Blossom ที่มาเสริมให้พื้นกลิ่นมีความสะอาดนวลติดเปรี้ยวบางๆ รวมถึงมีความปร่าหน่อยๆ ที่น่าจะมาสายเครื่องเทศแกมสมุนไพรเบาๆ ที่ทำให้กลิ่นมีมีมิติที่สบายๆ ร่วมด้วย สร้างความรู้สึกแบบสดชื่นแกมนุ่มนวลผ่อนคลายได้กำลังดี
และเมื่อ Musk เริ่มเข้ามา แล้วจับคู่กับลาเวนเดอร์ + โทนเขียวสดชื่นต่างๆ ลดทอนลงไปเกือบหมดเหลือเพียงบางๆ จับได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่หลักๆ จะกลายเป็นกลิ่นสะอาดแบบ Musk + ลาเวนเดอร์ + ดอกส้ม ที่ให้อารมณ์ลูกผสมกึ่งแป้งนวลละมุน และกลิ่นนุ่มสะอาดแบบกลิ่นเสื้อผ้าสะอาด ในเนื้อกลิ่นจะมีโทนไม้หอมบางๆ แฝงอยู่ด้วยหน่อยๆ ซึ่งทำให้บางวูบจะมีกลิ่นคล้ายกระดาษนิดๆ รวมอยู่ด้วย ซึ่งทำให้ช่วงท้ายคือโทนสะอาดเน้นๆ ที่มีมิติแบบไม่ซับซ้อน ที่จะได้ทั้งความสะอาดผ่อนคลาย ความนวล และความเบาในเนื้อกลิ่นที่ครบถ้วนเป็นการปิดท้าย
เหมาะสำหรับ - แม้ว่าแบรนด์จะลงไว้ว่าเป็นน้ำหอมผู้หญิงแต่บอกเลยนี่คือ Unisex ชัดๆ ซึ่งเข้าได้กับทุกสถานการณ์ยามกลางวัน แบบครอบจักรวาลกวาดหมดในการใช้งานแบบที่คนได้กลิ่นก็ไม่ยี้แต่อย่างใด จะมีก็แค่ยามค่ำคืนที่จะใช้ไปท่องราตรี ที่ข้ามไปเถอะ กลิ่นไม่ได้มาสายเรียกแขกเลยแม้แต่นิดเดียว
ความทน - ตอนแรกคิดว่ากลิ่นจะไม่ได้ทนมาก เพราะกลิ่นมีความกลางๆ กึ่งเบา แต่เอาเข้าจริงแล้วแตะ 8 ชม. ได้สบายๆ แต่มีบวกลบราวๆ 2 ชม. เพราะบางครั้งอากาศร้อนจัดๆ กลิ่นก็ไปตั้งแต่ราวๆ 6 ชม. และบางวันที่ฝนตก อากาศชื้นๆ กึ่งสบายๆ กลิ่นก็ยาวไปที่ 10 - 12 ชม. ได้ด้วย
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ก่อนที่จะผ่อนลงมาปานกลางไปราว 1 - 2 ชม. ที่เหลือคือ ออร่ารอบๆ ตัวยาวๆ ไป กลิ่นจะติดผิวจริงๆ เมื่อผ่านไปหลัง 6 ชม. ไปแล้ว แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง โดยส่วนตัวเจอว่าติดผิวราวๆ ชั่วโมงที่ 7 - 8 เป็นต้นไป
สรุป - ถ้าชอบความหวือหวา ซับซ้อน Sexy หรือความเรียบหรูแบบเต็มๆ กลิ่นนี้คงไม่ได้มีให้ เพราะเนื้อกลิ่นมาในสายโทนสะอาดเรียบง่ายและไม่ซับซ้อนเสียมากกว่า ซึ่งให้ความไล่เรียงจากสดชื่น สะอาด นุ่มนวล และผ่อนคลายแบบสบายๆ อารมณ์เสื้อผ้าสะอาดบนผิวกายหอมแกมแป้งนุ่มๆ ที่เข้าถึงได้ง่ายมากๆ และเป็นหนึ่งใน #ของดีเทคนิคไม่ต้อง แบบที่ใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน แบบที่มีเสน่ห์ในตัวเองแบบไม่เยอะสิ่งได้ดี ที่สำคัญส่วนตัวชอบในการเล่นโทนเขียวสดชื่น สู่ลาเวนเดอร์ และ Musk ปิดท้ายได้สมูธมาก ถึงกับถ้าคิดไม่ออกในวันอากาศร้อนๆ หรือวันฝนตก ว่าจะใช้น้ำหอมตัวไหนดี ก็จะหยิบกลิ่นนี้มาใช้ประจำเลย
หมายเหตุ:
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน
เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo
Credit -
https://www.davidjones.com/product/elizabeth-and-james-nirvana-french-grey-edp-50ml-21696458
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น