วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

Review: Aedes de Venustas - Palissandre d’Or

Aedes de Venustas - Palissandre d’Or

ความน่าสนใจในการสร้างสรรค์น้ำหอมเป็นแบรนด์ของตัวเองอย่าง Aedes de Venustas ที่เป็น Boutique น้ำหอม Niche ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ทำให้เกิดการสร้างสรรค์กลิ่นอายที่น่าสนใจและเจาะตลาดความไม่เหมือนใครได้ดี โดยการดึงเอา Note กลิ่นต่างๆ มาสร้างสรรค์ โดยไม่เน้นวัตถุดิบที่เป็น Mainstream หรือมาจาดแหล่งยอดฮิต แต่เอาความยากด้วยการไปเอาวัตถุดิบชนิดเดียวกันแต่ต่างพันธุ์ที่ให้พื้นฐานกลิ่นแบบเดียวกันก็จริง แต่มีความแตกต่างที่เป็นเสน่ห์เฉพาะออกมาให้จับต้องได้ร่วมด้วย โดยยังคุมโทนความหรูหรา Luxury ได้ครบถ้วน

และในกลิ่นที่จะมาเล่าในครั้งนี้ จะมาเจาะกับ Palisander ที่เป็น Rosewood อีกชนิดในการเอามาต่อยอดสร้างความแตกต่างเพื่อนำเสนอเนื้อกลิ่นที่นำเสนอถึงความพลิ้วไหว โปร่ง แต่มีพลัง จากฝีมือของสุคนธกรระดับปรมาจารย์อย่าง Alberto Morillas เช่นนั้นจะออกมาในรูปแบบไหนว่ากันได้เลยกับกลิ่นนี้ Palissandre d’Or

เปิดต้นกลิ่นจะจับได้ถึงความเป็นโทนเครื่องเทศทึ่มีลูกเอื้อนทางกลิ่นเป็นโทนไม้หอมหน่อยๆ ซึ่งเนื้อกลิ่นในช่วงแรกอารมณ์จะะเป็นลูกผสมระหว่างความเป็นเปลือกอบเชยที่ไม่ได้เข้มข้นเกินไป ให้ความเป็นเปลือกไม้ที่ติดหวานอ่อนๆ แกมอบอุ่นมาเจอกับโทนพริกไทยที่ติดกลิ่นกุหลาบอ่อนๆ มีลูกฝาดนิดๆ ซึ่งเป็นลักษณะแบบพริกไทยสีชมพู มีความปร่าแต่ไม่เผ็ดฟุ้งมากของเม็ดผักชีเสริม และตัวที่สร้างความเป็นโทนกึ่งไม้หอมนิดๆ แกมเครื่องเทศกลมๆ ต้องยกให้กับเม็ดจันทน์เทศที่เป็นตัวเกลาชั้นดีให้กลิ่นมีความสมดุลย์และกลมกล่อมในการเป็นลูกครึ่งระหว่างเครื่องเทศที่มีความเป็นไม้หอมแกมอบอุ่นเบาๆ ได้พอดี เลยทำให้เนื้อกลิ่นมีความปร่าเผ็ดอบอุ่นโปร่งๆ มีลูกเอื้อนไม้หอมแกมกุหลาบบางๆ ที่มีความนุ่มนวลปลายกลิ่นให้พอรู้่สึกได้ ซึ่งชัดเจนมากเลยว่าเปิดมาก็ให้กลิ่นแนวคล้าย Rosewood ที่มีความปร่านุ่มแกมไม้หอมกุหลาบได้น่าสนใจมาก

การปรับเปลี่ยนโทนกลิ่นเข้าช่วงกลางจะเปลี่ยนแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะช่วงนี้จะสัมผัสกลิ่นกุหลาบอ่อนๆ เข้ามาให้รู้สึกไดเ้ และจะมีโทนไม้หอมที่ติดนวลๆ คล้ายไม้จันทน์หอมมาเป็นอีกหนึ่งโทนที่ค่อนข้างชัด และมีโทนออกทางคล้าย Musk หน่อยๆ ที่มีความเป็นโทนเขียวติดผักเล็กๆ ผสมซึ่งน่าจะเป็น Ambrette มาเป็นตัวรองพื้นเสริมอยู่ โดยที่กลิ่ยในช่วงต้นทั้งหมดจะยกพลมาครบถ้วน เพียงแต่กลิ่นจะมีความนุ่มนวลแกมโปร่งๆ มากขึ้น เนื้อกลิ่นไม่ได้ไปทางหนักแน่นข้นเลย แต่ให้อารมณ์ซีทรูโปร่งๆ ในความเป็นกลิ่นคล้าย Rosewood ที่มีความปร่าระเรื่อกึ่งไม้หอมแกมอบอเชยอ่อนๆ รายล้อมประปรายที่ให้ความเรียบหรูกำลังดี มีความเรื่อยๆ มาเรียงๆ ที่มีระดับแบบไม่ต้องมาสายปล่อยพลังแต่อย่างใด

เนื้อกลิ่นในช่วงท้ายยิ่งตอกย้ำชัดเจนว่ากลิ่นนี้ไม่ได้มาสายปล่อยพลัง เพราะกลิ่นจะลงมาเป็นอวลๆ รุมๆ รอบกายแทบบชัดเจนมาก โดยที่จะมีตัวหลักในการเดินกลิ่นคือ พิมเสนและไม้หอมที่มีลูกผสม 3 โทนคือ ไม้จันทน์หอมที่ให้ความเป็นไม้จืดนวลๆ ไม้ซีดาร์ที่ให้ความเป็นไม้โปร่งๆ ติดปร่าหน่อยๆ และ Ambroxan ที่มาเป็นตัวสร้างความเป็นลูกผสมไม้แห้งกึ่งกลิ่นแอมเบอร์อวลๆ ซึ่งแม้ว่าโทนไม้ 3 ประสานจะชัดเจน แต่กลิ่นก็รุมๆ รอบตัว โดยมีพิมเสนตีขึ้นให้รับรู้เบาๆ ซึ่งอารมณ์กลิ่นให้ความรู้สึกสว่างก็ได้ มีความ Dirty เล็กๆ ที่มีพลังตามสไตล์กลิ่นไม้หอมเลย เพียงแต่แค่ไม่ตูมตาม ออกแนวเรื่อยๆ มีเสน่ห์แบบเรียบหรูไม่เยอะสิ่ง เป็นการปิดท้ายคลอผิวไปเรื่อยๆ นั่นเอง

เหมาะสำหรับ - Unisex เลย กลิ่นค่อนข้างกลางๆ และไม่ได้ปล่อยพลังมาจากไหน เลยเข้าได้หมดทุกเพศที่ชอบกลิ่นแนวน่าค้นหาแบบไม่จงใจและหรูหราแกมเรียบหรูไปในที ซึ่งเข้าได้กับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไปที่เน้นวางตัวดีๆ มีเสน่ห์และสุขุมที่กลิ่นไม่ค่อยเหมือนใคร ส่วนใส่ออกกิจกรรมลุยๆ กับออกกำลังกายก็ได้อยู่เพราะกลิ่นไม่กระจายมาก แต่มันอาจจะไม่ได้เสริมความสดชื่นเท่าไหร่ก็เท่านั้นเอง ส่วนยามค่ำคืนเน้นโรแมนติคกับออกงานเลยเข้าทางที่สุด

ความทน - อยู่ที่ราวๆ 8 ชม. เป็นสำคัญ มีไปต่อได้อีกราวๆ 2 ชม. ขึ้นอยู่กับจำนวนสเปรย์และสภาพผิวกายผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในประมาณ 5 นาที แรก แล้วก็จะลดลงมาปานกลางไม่ถึง 20 นาที แล้วจะคงตัวที่ออร่ารอบๆ ตัวยาวไปจนถึงชั่วโมงที่ 6 - 8 เลย ถึงจะเป็น Skin Scent

สรุป - เนื้อกลิ่นมีความละเมียดและนำเสนอกลิ่นอายที่ให้อารมณ์แบบ Rosewood ก็จริงๆ แต่มีมิติที่แตกต่างในการผสมผสานโดยเอาความเป็นเครื่องเทศและไม้หอมเป็นที่ตั้ง ถือเป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่ไม่ค่อยเหมือนใคร มีความเฉพาะในตัวเองแบบที่ให้ความรู้สึกหรูหราและมีเสน่ห์ตรงตาม Concept พลิ้วไหว โปร่ง แต่มีพลัง ได้เหมาะสมและลงตัว แต่เมื่อหันไปเห็นราคาแล้ว ความลงตัวที่ว่าก็หดไปได้เยอะไม่น้อยอยู่ ก็เข้าใจแหละว่ากลิ่นมาสาย Luxury น่ะนะ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - http://www.parfumdambre.be/marques/aedes-de-venustas/

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น