วันอังคารที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

Review: Agonist - White Lies

Agonist - White Lies

Agonist เป็นหนึ่งแบรนด์ Niche Perfume จากสวีเดน ที่มีเอกลักษณ์ในการสร้างสรรค์กลิ่นอายน้ำหอมโดยเอาการเป็นรากเหง้าวัฒนธรรมเป็นแถบเชื้อชาติ Nordic Region (สแกนดิเนวียทั้งหมด เดนมาร์ก ไอซ์แลนด์ กรีนแลนด์ และหมู่เกาะต่างๆ ที่ใกล้กับขั้วโลกเหนือ) โดยเอาเข้ามาผนวกกับความงดงามและโศกนาฏกรรมต่างๆ ของภาพยนตร์ บทกวี และนิยายต่างๆ ที่มาจากการสร้างสรรค์โดยบุคคลสำคัญที่เป็น Icon ของวัฒนธรรมแบบสวีเดน

เมื่อได้มีโอกาสมาเจอกับแบรนด์นี้ สิ่งที่ดึงดูดและอยากจับต้องอย่างมากเลย คือ การสร้างสรรค์กลิ่นแบบสไตล์ Nordic Fragrance โดยเราต้องนึกภาพกันก่อนว่า ดินแดนในแถบนั้นมันมีความขาวโพลนและหนาวเย็น ซึ่งมันมีอะไรที่ไม่หวือหวาแสงสีจัดจ้าน เช่นนั้น สิ่งที่น่าจะชัดในการนำเสนอ นั่นก็คือ ความเป็นสไตล์น้อยแต่มากหรือมินิมัลที่จะชัดเจนพอสมควร ทั้งมีความซับซ้อนและเรียบง่ายทั่วไป และที่สำคัญแบรนด์นี้ถือว่าเป็นแบรนด์ที่สร้างสรรค์ขวดแบบ Exclusive ออกมาได้งามงดมากซึ่งก็ราคาสูงที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน เช่นนั้น มาว่ากันในเรื่องกลิ่นที่ได้มีโอกาสสัมผัสจนมาบอกต่อดีกว่าว่าจะออกมาเป็นอย่างไรบ้างกับกลิ่นนี้ White Lies

เปิดต้นมาความเป็นโทนกึ่งผลไม้หวานแต่เจือความฉ่ำหน่อยๆ ติดเปรี้ยวหอมซึ่งถือว่าเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความเป็นลิ้นจี่ที่มีความฉ่ำเปรี้ยวหอมกับราสเบอร์รี่ที่ให้ความหวานหอม ที่ปลายกลิ่นมีลักษณะติดโทน Citrus หน่อยๆ ให้ความรู้สึกเย็นๆ แต่กลิ่นเหล่านี้จะมาแค่วูบแรกจริงๆ เพราะดอกไม้ขาวอย่างมะลิกับซ่อนกลิ่นจะแทคทีมขึ้นมาไวมาก แย่งซีนกลิ่นโทนผลไม้และ Citrus ไปเลย และดันให้ 2 โทนนี้เป็นกลิ่นสายสนับสนุนแทน ซึ่งช่วงต้นจะอยู่กับเราไม่นานเท่าไหร่ เพราะดอกไม้ขาวแพ็คคู่นี่แหละที่จะนำเข้าสู่ช่วงกลาง โดยที่กลิ่นจะเริ่มลดทอนความฉ่ำของช่วงต้นลง แต่เหลือความรู้สึกหวานหอมอ่อนๆ ปลายกลิ่นของผลไม้ที่มีอยู่ประปราย แต่ตัวเด่นเต็มๆ เลยคือ ดอกไม้ขาวที่จะมีโทนออกทางแป้งหอมคลออยู่ ไล่เลเยอร์ความเด่นกันได้โดยเริ่มจากมะลิก่อนเพิ่นเลย เพราะกลิ่นดอกไม้ขาวที่มีลูกโทนใสๆ กึ่งนวลหน่อยๆ แอบมีโทน Indolic ตุ่ยๆ อ่อนๆ ตามธรรมชาติที่วูบขึ้นมา ตามติดด้วยซ่อนกลิ่นที่มห้ความครีมมี่ข้นในระดับกำลังดี มีความหวานเย้าแบบไม่ได้ถึงกับจัดจ้าน แต่ให้ความนวลละมุนปนเย้าลึกเนียนๆ ปิดท้ายด้วยโทนแป้งกึ่งอัลมอนด์หน่อย ซึ่งเนื้อกลิ่นจะมีโทนเย็นๆ อ่อนๆ ไม่ได้ค่อนไปทางอบอุ่น แต่ให้อารมณ์แบบแป้งหอมดอกไม้ขาวในอากาศเย็นๆ ที่ให้ความเรื่อยๆ มาเรียงๆ ไม่ได้ข้นอวลจนหนักและตึ้บ รวมถึงไม่ได้เบาจนใสโหวง เรียกว่าให้ความสว่างขาวนวลปนเย้ายวนเนียนๆ ที่มีความเรียบง่าย แต่ไม่ธรรมดาได้เลย

การพัฒนาเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอมจะเริ่มอย่างค่อยไปค่อยไป โดยที่กลิ่นโทนดอกไม้ขาวจะแผ่วลงมาตามลำดับแต่กไม่ได้หายไป ผิดกับโซนกลิ่นผลไม้ตอนต้นที่ตอนนี้จางไปหมดแล้ว แล้วจะมีกลิ่นออกทางอบอุ่นเพิ่มขึ้นมาทีละนิดๆ มาแบบเนียนๆ เพราะเนื้อกลิ่นจะจับต้องได้ถึงโทนวานิลลาอ่อนๆ มาแบบไลท์เวอร์ชั่น เคล้ากับกลิ่นออกทางไม้หอมติดอวลเบาๆ และมีกลิ่นปร่าอ่อนๆ ของพิมเสน ซึ่งบางวูบแอบจับได้ถึงกลิ่นสารหอมแนวๆ Ambroxan ที่จะได้อารมณ์แบบผิวกายติดเค็มเคล้ากลิ่นไม้อวลบางๆ เข้ามาร่วมด้วย ซึ่งก็ถือว่าเป็นตัวตรึงให้กลิ่นไม่ได้วูบหายไปไหนนัก แต่จะให้อารมณ์ผิวกายติดเค็มตามธรรมชาติที่มีความอบอุ่นนวลๆ ปนกลิ่นดอกไม้ขาวอ่อนๆ เจือพิมเสนปลายกลิ่นหน่อยๆ ซึ่งกลิ่นจะค่อยๆ เบาลงเรื่อยๆ จนจางไปจากผิวไปตามเวลาและสภาพผิว ซึ่งถ้าเอาตามชื่อรุ่น ก็ถือว่าเล่นโทนแนว White Lies ได้ดี เพราะกลิ่นเหมือนจะอ่อนโยนให้รู้สึกสบายใจ แต่จริงๆ ซ่อนความเย้ายวนไว้ไม่น้อยเลยล่ะ

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็สามารถใช้กลิ่นนี้ได้สบายมาก เพราะกลิ่นไม่ได้ซับซ้อน ให้ความอ่อนโยนแต่แฝงความเย้ายวนเนียนๆ ให้รู้สึกถึง Sex Appeal ตามธรรมชาติที่มาในโทนขาวนวลอะไรประมาณนั้น ซึ่งเข้าได้กับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบที่ไม่ได้ใส่ไปลุยกิจกรรมเหงื่อซ่กที่ไหน แต่เน้นใส่แบบทางการหรือทั่วๆ ไปที่ให้ความเรียบหรูอะไรประมาณนี้ ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่ออกงานหรือว่าโรแมนติคจะดีกว่า เพราะใส่ไปท่องราตรีอาจจะไม่ได้กลิ่นน้ำหอมตัวเองนอกจากน้ำหอมชาวบ้านกลบหมดแน่ๆ ที่สำคัญกลิ่นนี้ผู้ชายใช้ได้อยู่ เพราะไม่ได้เป็นสายปล่อยพลัง อาจจะมีความหวานนวลเย้าหน่อย แต่กลิ่นแบบนี้อยู่บนตัวผู้ชายก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ

ความทน - อยู่ที่ราวๆ 6 - 8 ชม. ประมาณนี้ อาจจะมีไปต่อได้อีกก็ว่ากันที่จำหนวนสเปรย์และสภาพผิวเป็นสำคัญ ส่วนตัวเจอไปที่ 8 - 10 ชม. ในหลายๆ ครั้งที่ใช้งาน แต่บางครั้ง 6 ชม. ก็หายแซ่บหายสอย เลยถือว่ากลางๆ ไม่ได้เด่น และไม่ได้ด้อยนักในเรื่องนี้

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะผ่อนลงมาปานกลางราวๆ 2 ชม. ก่อนจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันยาวๆ ไป ซึ่งมาสายไม่เน้นการกระจาย แต่เน้นเข้ามาใกล้ๆ ได้กลิ่นเสียมาก ซึ่งตัวผู้ใช้เองก็จะมุ้งมิ้งกับกลิ่นที่ตัวเองฉีดไป แต่คนอื่นอาจจะได้กลิ่นเบาๆ ยามเดินสวนอะไรประมาณนี้ 

สรุป - กลิ่นไม่ได้หวือหวา แต่มีความมินิมัลให้ความสว่างขาวปนหวานนวลในสไตล์ดอกไม้ขาวที่มีความเย็นคลอๆ ได้อย่างตรงไปตรงมาและมีความเป็นธรรมชาติ ซึ่งแน่นอน Nordics ก็ควรที่จะเป็นลักษณะกลิ่นแนวๆ นี้ ซึ่งถือว่าตอบโจทย์ทั้ง Concept แบรนด์ และมีความงามในความเรียบง่ายได้ดีมากอีกหนึ่งกลิ่น ซึ่งตรงๆ คือ เสียดายมากที่ตอนนี้แบรนด์นี้ปิดตัวลงไปแล้ว อนาคตจะกลับมาอีกไหม คงต้องรอลุ้นกัน  

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.fragrantica.com/news/Agonist-Exclusive-100-ml-Sizes-11709.html

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น