วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2565

Review: Parfum Prissana - Natsumeku (夏めく)

Parfum Prissana - Natsumeku (夏めく)

จากที่มาที่ไปในการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อนแล้วเกิดการหลงในเขตชนบทของญี่ปุ่น จนได้สัมผัสบรรยากาศกลิ่นอายต่างๆ รอบตัว ที่มีองค์ประกอบต่างๆ ที่สร้างความรื่นรมย์ ทั้งท้องฟ้า เมฆ ต้นไม้ และศาลเจ้าที่อยู่ในป่าท่ามกลางต้นการบูรและต้นไม้ต่างๆ ที่ทำให้สุคนธกรนึกถึงการ์ตูนของ Studio Jibli เรื่อง Totoro เพื่อนรัก ที่เป็นสัตว์วิเศษผู้พิทักษ์ป่า จนเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจและกลายเป็นภาพยนตร์ Animation ที่เหนือกาลเวลาในทุกวันนี้

ซึ่งเมื่อทุกอย่างประกอบรวมเข้าด้วยกัน และนำมา Match กับการสร้างสรรค์กลิ่นให้มาเป็นหนึ่งใน Collection - Thammachatr (ธรรมชาติ) ของแบรนด์ Parfum Prissana ที่สร้างสรรค์จากส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติแบบ 100% จึงได้ออกมาเป็นรุ่น Natsumeku หรือแปลออกมาได้ว่า “จุดเริ่มต้นของฤดูร้อน” ที่จะสร้างความรู้สึกออกมาแบบไหนมาว่ากัน

ความฟุ้งของกลิ่นในช่วงเปิดทำให้นึกถึงกลิ่นส้มยูซุที่มีความหวานผสมเปรี้ยวติดขมหอมที่ฟุ้งขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติ ผสมผสานกับกลิ่นอายโทน Citrus ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส้มใสๆ และมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) ที่ทำให้ได้กลิ่นโทน Citrus สดชื่น แต่ไม่ได้จงใจให้เนื้อกลิ่นมีความจัดจ้าน เพราะว่าการผสมผสานของโทนออกทางสมุนไพรที่มีความติดเขียวชัดๆ ของโกฐจุฬาลัมพา (Artemisia) กลิ่นดอกส้มที่ติดเขียวสไตล์ Neroli และกลิ่นโทนลาเวนเดอร์ที่เข้าโทนสมุนไพรติดเขียว แซมด้วยความปร่าฟุ้งๆ ของการบูรที่มีโทนไม้หอมออกทางไม้สนเขียวปร่าชะอุ่มหน่อยๆ เลยทำให้ได้มิติความลึก 2 โทนนั่นคือโทนเขียวบรรยากาศที่มีกลิ่นพืชสมุนไพรล้มลุกต่างๆ และกลิ่นที่ติดออกทางสบู่กึ่งไม้หอมฟุ้งๆ ที่มาทำให้ให้เนื้อกลิ่นมีมิติความเป็นธรรมชาติและบรรยากาศที่รวมอยู่ในนั้นได้อย่างงดงามกันตั้งเริ่มต้น ซึ่งบอกเลยว่าช่วงนี้ทำให้นึกถึงบรรยากาศเดินเที่ยวชายป่าหรือเดินท่องป่าในญี่ปุ่นได้เลย     

เมื่อเนื้อกลิ่นเริ่มมีความเปลี่ยนแปลง เพราะกลิ่นไม้หอมอย่างไม้สนที่น่าจะเป็นไม้ Hinoki ที่จะวูบขึ้นมาให้เสน่ห์กลิ่นอายแบบที่ใช่เลย กลิ่นไม้แบบญี่ปุ่นจริงๆ โดยมีลูกเอื้อนกลิ่นที่ติดกุหลาบแกมมินต์หน่อยๆ รวมถึงยังมีดอกส้มที่เข้ามาเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญ เสริมด้วยความปร่าของการบูร เลยทำให้อารมณ์กลิ่นจะแบ่งออกมาเป็น 2 ส่วน คือให้อารมณ์แบบสไตล์ Soapy Scent ที่เป็นกลิ่นอายแบบไม้หอมแกมกลิ่นดอกไม้ระเรื่อๆ หรือจะให้อารมณ์แบบกลิ่นสดชื่นที่มีความเขียวธรรมชาติแบบฟุ้งๆ ให้จับต้องได้ชัดๆ ก็ย่อมได้ ซึ่งแน่นอนว่ากลิ่นโทนสมุนไพรและ Citrus ที่เด่นกับความเป็นยูซุก็ยังตามมาในช่วงนี้เช่นเดิม และลดทอนความชัดเจนลงมาเป็นสายสนับสนุนที่สร้างความสดชื่นแบบเป็นธรรมชาติในเนื้อกลิ่นแทน ซึ่งต้องบอกเลยว่ากลิ่นมีความมินิมัลมาก แต่เอาเข้าจริงมีความซับซ้อนในการผสมผสานอยู่ไม่น้อยเพราะบางครั้งก็จับต้องได้ว่ามีกลิ่นติดแป้งทึบหน่อยๆ ที่เป็นตัวเสริมให้กลิ่นมีความเป็นสบู่อยู่ด้วยอย่างหัวเหง้าออริส บางทีก็มีวูบกลิ่นโทนสะอาดกำลังดีแบบบรรยากาศโปร่งๆ และบางครั้งก็ได้กลิ่นติดเขียวเข้มแปร่งกึ่งหมึกเล็กๆ ที่เป็นสไตล์ของ Oak Moss เข้ามาร่วมด้วย ซึ่งพอรวมกันมันเลยได้อารมณ์กลิ่นแบบบรรยากาศเดินป่า หรืออยู่ในเขตศาลเจ้าที่เรือนรายรอบต่างๆ ทำด้วยไม้ Hinoki ที่รื่นรมย์แฝงความขลังหน่อยๆ ก็ดี นี่แหละที่เรียกว่าไม่ธรรมดาในการผสมผสานกลิ่นล่ะ

ช่วงท้ายอันนี้จะค่อนข้างชัดเจนเพราะ Oak Moss จะกลายเป็นมาเป็นตัวหลักที่ทำให้กลิ่นมีโทนลักษณะแบบ Earthy ที่เป็นกลิ่นเขียวแกมหมึกให้ความรู้สึกแบบป่าก็ได้ หรือค่อนไปทาง Classic สะอาดๆ แกมสบู่ติดดาร์ก แต่ไม่ดำดิ่ง ซึ่งเนื้อกลิ่นจะยังมีไม้ Hinoki เป็นหลักสำคัญอยู่ในการให้โทน Woody ที่ให้ความนิ่งแต่มีเสน่ห์ และมีกลิ่นดอกส้มอ่อนๆ ที่ให้ความรื่นรมย์เรื่อยๆ มาเรียงๆ ที่เสริมโทนผ่อนคลายสะอาดๆ กำลังดีรวมอยู่ด้วย ซึ่งช่วงนี้ถือเป็นอีกหนึ่งในความประทับใจไม่น้อยในความไม่เยอะสิ่งของกลิ่น โดยมีความเป็นธรรมชาติที่เรียบง่ายแต่ชัดเจนในแต่ละอณูกลิ่นที่ได้รับรู้ผ่านจมูกอยู่ตลอด อารมณ์แบบมีกลิ่นสะอาดๆ ที่อยู่บนผิวกายเรารวมเข้ากับกลิ่นของบรรยากาศธรรมชาติที่มีทั้งไม้หอม กลิ่นป่า และกลิ่นบรรยากาศได้พอดิบพอดี สวยงามในความเรียบง่ายชัดเจน

เหมาะสำหรับ - Unisex ที่ไม่ว่าเพศไหนก็จัดได้สบายมาก แต่เนื้อกลิ่นช่วงกึ่งกลางกึ่งท้ายอาจจะมีวูบที่ค่อนข้างเป็นกลิ่นสไตล์คลาสสิคของผู้ชายอยู่บ้าง เลยถือว่าไพล่ไปทาางผู้ชายมากกว่าซัก 65 - 70% แล้วกัน แต่ยังไงผู้หญิงก็สามารถใช้งานได้สบายมาก ซึ่งเข้ากับทุกสถานการณ์ยามกลางวันแบบครอบจักรวาลเลย แต่ถ้าจะใส่ไปออกกำลังกาย แม้ว่าจะไปด้วยกันได้อยู่ แต่ควรข้ามไปจะดีกว่า เพราะเสียดายกลิ่นที่จะเจอเหงื่อกลบหมด ส่วนยามค่ำคืนใส่แบบชิลล์ๆ ทั่วไป หรือใส่ออกงานจะลงตัวสุด

ความทน - ตอนแรกคิดว่าเพราะทุกอย่างมาจากธรรมชาติ 100% ความทนอาจจะไม่ได้โดดเด่นตามประสา Natural Perfumerie แต่กลายเป็น “ไม่ใช่” เพราะกลิ่นทนได้ดีมาก รวมถึงลากยาวความเป็นยูซุที่ธรรมชาติได้ยาวมากด้วยเช่นกัน ซึ่งตีค่าเฉลี่ยที่ 8 ชม. ได้สบายมาก และไปต่อได้อีกขึ้นอยู่กับจำนวนสเปรย์และสภาพผิว ซึ่งส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. เป็นเรื่องปกติในการใช้งาน   

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ก่อนที่จะลดลงมาปานกลางไปราว 4 ชม. ที่เหลือจะก็เป็นออร่ารอบๆ ตัวแบบยาวๆ ไป ซึ่งถือว่าแบรนด์ทำในเรื่องนี้ได้ดีเช่นกัน ทั้งๆ ที่เป็นกลิ่นอายธรรมชาติ 100% ที่ค่อนข้าวแกว่งสูงในเรื่องนี้

สรุป - ถ้าจะเอาความหวือหวา บอกเลยว่าไม่ได้มีความหวือหวาแบบฉาบฉวยดมแล้วต้องแปลกเก๋พุ่งเข้าจมูก แต่มีความหวือหวาในส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติและการปรุงกลิ่นแทนเสียมากกว่าที่สามารถสร้างกลิ่นอายออกมาได้เป็นบรรยากาศจริงๆ โดยที่ยังคงแฝงความ Classic ในเนื้อกลิ่นได้อย่างสวยงามอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่ให้อารมณ์สอดรับกับการใช้ในฤดูร้อนทั้งแบบญี่ปุ่นและที่ไหนๆ บนโลกนี้ได้ไม่ยาก 

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.facebook.com/parfumprissana

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น