วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2565

Review: Maison Incens - Santal Tislit

Maison Incens - Santal Tislit

การตีความในเรื่องความรักผ่านกลิ่นลงมาสู่ขวดน้ำหอมในแต่ละแบรนด์ ต่างก็มีความเฉพาะเจาะกันกันไปในการนำเสนอกรุ่นกลิ่นความรัก หลายๆ แบรนด์ว่ากันที่กลิ่นโทนหวานล้ำลึกต่างๆ หรือโทนออกทางขนม หลายๆ แบรนด์เจาะจงที่ความเป็น Floral โดยเน้นที่กุหลาบหรือโบตั๋นเป็นตัวแปรสำคัญ หรืออาจจะแนวไปเลยในการนำเสนอกลิ่นอายไม้หอมในสไตล์อาระเบียนเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งเมื่อได้ผ่านกลิ่นอายที่ Tribute ความรักต่างๆ ก็มีอยู่ 1 โทนที่เจออยู่บ้าง แต่ก็เป็นเสมือนตัวเสริมเสียมากในกับความเป็นโทนหวานนั่นคือ โทนแป้งแบบตรงๆ ที่ยังไม่ค่อยได้เห็นความโดดเด่นในเรื่องของการสื่อความกลิ่นอายด้านความรักเท่าไหร่ 

และก็ได้มาถึงเวลาของการได้เจอแบรนด์ที่เอาความเป็นโทนแป้งมานำเสนอกลิ่นอายในความเป็นไม้หอมซักทีกับแบรนด์ Niche Perfume จากฝรั่งเศสอย่าง Maison Incens กับการเอาเรื่องของความเย้ายวนและเกี่ยวของกับความปรารถนาลึกล้ำทั้งทางกายและทางใจเข้ามาผนวกกันจน Tribute ให้กับความรักแบบไม่ยั้ง เช่นนั้น มาเจอกันหน่อยว่าจะเย้ายวนชวนจินตนาการได้มากขนาดไหน กับกลิ่นนี้เลย Santal Tislit

การเปิดตัวทางกลิ่นจะยังไม่ได้ถึงกับมีความโดดเด่นอะไรออกมาชัดเจนมากนัก นอกจากโทนขมติดเปรี้ยวปร่าสว่างๆ ของมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) ที่จะวูบขึ้นมาโดยมีกลิ่นไม้จันทน์หอมเป็นตัวรองพื้น ให้ความครีมมี่ที่ตัดทอนกับโทนสดชื่นกำลังดี และมีกลิ่นไม้หอมหน่อยๆ ที่มาเป็นโทนโปร่งๆ แฝงอยู่ ซึ่งเหมือนจะไม่ได้มีความหวานหรืออะไรออกทางเป็น Fresh Woody สว่างๆ ที่วางสมดุลย์กลิ่นได้กำลังดีระหว่าง Citrus และไม้จันทน์หอม แต่เพียงไม่เกิน 5 นาที ก็จะเริ่มเห็นความซับซ้อนบางอย่างเข้ามามากขึ้นนั่นก็คือ กลิ่นออกทางน้ำผึ้งที่มาแบบกึ่งข้นกึ่งใสกำลังดี ไม่ได้มีโทน Animalic ที่ออกทางกลิ่นยูรีนหน่อยๆ แต่อย่างใด ทำให้เนื้อกลิ่นเริ่มปูทางไปสู่การเป็นโทนหวานที่มีไม้หอมเป็นฐานกลิ่นมากขึ้นตามลำดับ

แต่การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง ต้องยกให้ช่วงกลางเขาล่ะ เพราะตอนนี้จะมีความชัดเจนมากกับกลิ่นอายที่เป็นลักษณะโทนแป้งกึ่งอัลมอนด์กึ่งดอกไม้ของดอกเฮลิโทรเป้แกมแป้งวานิลลาที่จะดันขึ้นมาแบบไวพอสมควร ทำให้เนื้อกลิ่นหลักเปลี่ยนจากไม้หอมมากลายเป็นโทนแป้งที่ติดหวานแกมอบอุ่นแทน โดยที่กลิ่นไม้จันทน์หอมก็ยังไม่ได้ถูกด้อยค่าลงไปเป็นตัวสำรองที่ไหน แต่ร่วมไม้ร่วมมือกันในการผสมผสานกลายเป็นโทนแป้งอบอุ่นกึ่งครีมมี่ไม้จันทน์หอมแทน ซึ่งในเนื้อกลิ่นจะมีกลิ่นออกทางน้ำผึ้งที่ให้ความหวานเคล้ากับกลิ่นอบเชยที่ให้ความหวานเผ็ดอุ่นเย้ายวนและดึงดูด โดยมีตัวเสริมที่ดีอย่างโทนดอกไม้คือกุหลาบที่ให้ความโรแมนติคหวานนวลๆ และความระเรื่อดอกมะลิหน่อยๆ สร้างมิติของโทนดอกไม้ แต่ภาพรวมของกลิ่นไม่ได้เป็นสายข้นนวลหนักนัก แม้จะมีความเป็นแป้งที่เย้ายวนดึงดูดและหวานก็จริง แต่มีตัวตัดทอนที่ดีอย่างไม้ซีดาร์ที่มาให้ความปร่าและโปร่งไม้หน่อยๆ เลยทำให้เนื้อกลิ่นมีความเป็นโทนแป้งหวานอบอุ่นอวลๆ กำลังดี มีความครีมมี่หรูหราก็ได้ และมีความเซ็กซี่เย้ายวนชวนซุกแบบปล่อย Sex Appeal เต็มที่ โดยที่ไม่ได้ดูโฉ่งฉ่างหรือโจ่งแจ้ง ซึ่งอันนี้สร้างมิติและอารมณ์ทางกลิ่นได้ไม่ธรรมดาเลย

ในช่วงท้ายความเย้ายวนที่นอกจากโทนแป้งหวานมีความหนักลึกกำลังดีแล้ว ยังจะมีตัวเสริมชั้นดีอย่างยางไม้ที่ให้ความ Smoky แกมหวานติดขมหน่อยๆ ของ Myrrh เข้ามาร่วมด้วย เลยทำให้เนื้อกลิ่นจะมีความน่าค้นหาแกมอวลมีมิติยางไม้ซ้อนอยู่ในความเป็นโทนวานิลลาแบบแป้งอบอุ่นแกมไม้จันทน์หอมครีมมี่ที่ตามมาจากช่วงกลาง เลยทำให้เนื้อกลิ่นมีความลึกมากขึ้นในโทนหวานเพราะมียางไม้แกม Smoky มาเสริม + กับความเป็นอบเชยแกมน้ำผึ้งจากช่วงกลางที่ยังมาหวานอยู่ แต่กลิ่นก็ไม่ได้หนักมากให้ความนวลกลางๆ กำลังดี เพราะมีความเป็น Musk มาเสริมความนุ่มนวลและเข้าทางโทนแป้งไปอีกสเต็ปอีกด้วยทำให้ภาพรวมของช่วงท้ายทั้งหมดกลิ่นจะข้นขึ้นอีกสเต็ปแต่ไม่หนักหน่วงเกินไปจนดูพยายามโชว์ออฟ แต่ให้ความเป็นแป้งกึ่งไม้หอมอวลหวานเย้าที่มีความดึงดูดแกมอบอุ่นที่ชวนอยู่ใกล้ๆ ดมไปเรื่อยๆ แบบที่สร้างความประทับใจได้ไม่ยากเลย

เหมาะสำหรับ - Unisex ที่ค่อนไปทางผู้หญิงมากกว่าราวๆ 70% เพราะพื้นฐานกลิ่นมีความ Feminine ค่อนข้างเด่นกับโทนแป้งแกมดอกไม้ที่มีความหวานต่างๆ แต่ผู้ชายใช้งานได้สบายมากแบบจำนวนสเปรย์เหมาะสม กลิ่นจะให้เสน่ห์ดึงดูดแบบที่เหมือนเป็นแป้งแกมไม้หอมเคลือบหวานปกติ แต่มันจะค่อยๆ ซึมลึกจนมีความเย้ายวนรัญจวนจิตให้คนรับกลิ่นได้ไม่ยาก ซึ่งเข้าได้กับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะเป็นทางการ (แบบดูความเหมาะสมนิดนึงว่าใส่โทนหวานได้หรือไม่) หรือทั่วไป รวมถึงการใส่ยามค่ำคืนไม่ว่าจะออกงานหรือโรแมนติคต่างๆ แต่ที่ควรตัดออกไปได้เลยคือ การใส่ออกกิจกรรมลุยๆ กลางแจ้งหรือว่าออกกำลังกาย มันไม่ใช่เลย และกลิ่นตีขึ้นเอาตึ้บได้

ความทน - กลิ่นทนได้ลงตัวมากกับพื้นฐานราวๆ 8 - 10 ชม. ซึ่งก็ว่ากันที่จำนวนสเปรย์และสภาพผิวด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งส่วนตัวเจอที่ 12 ชม. เป็นเรื่องปกติในการใช้งาน

การกระจาย - กลิ่นกระจายปานกลาง ค่อนไปทางออร่ารอบๆ ตัวในตอนต้น ซึ่งอาจจะทำให้เข้าใจไปว่ากลิ่นมันเบา จนเพิ่มสเปรย์ไม่รู้ตัวเอาได้ แล้วกลิ่นจะขยับมากระจายดีในช่วงกลางแบบเสถียรกันยาวๆ พอสมควรตีไปจนถึงราวๆ ชั่วโมงที่ 5 ได้เลย ก่อนที่จะค่อยๆ ลดลงตามลำดับไปอยู่ที่ออร่ารอบๆ ตัวอีกทีจนเมื่อผ่านราวๆ 8 ชม. ไปแล้วถึงเป็น Skin Scent ปิดท้าย

สรุป - ในความรู้สึก เข้าทางการ Tribute เรื่องความรักในระดับที่กำลังดีเลยทีเดียว เพราะมาสายหวานแกมอบอุ่นที่แฝงความเย้ายวนในเรื่องความปรารถนาในการเข้ามาดมกลิ่นกันยาวๆ อยู่ไม่น้อย โดยเอาโทนแป้งแกมไม้หอมครีมมี่เป็นพื้นฐาน ซึ่งแน่นอนมีความแตกต่างจากเนื้อกลิ่นสายความรักต่างๆ อยู่พอสมควร ถือว่าเป็นการสร้างสรรค์ที่น่าสนใจและลงตัวในการเอาไม้จันทน์หอม แป้งวานิลลา และโทน Smoky มาสร้างความลงตัวได้แบบหวานก็ดี น่ารักก็ได้ เย้ายวนอวล Sex Appeal ก็สามารถ นี่แหละ Santal Tislit ล่ะ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.maison-incens.com/products/eau-de-parfum-santal-tislit

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น