วันจันทร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2567

Review: Zara - Zara Olfactive: Gracefully Madrid

Zara - Zara Olfactive: Gracefully Madrid

เชื่อว่ามันเป็นไปได้เพราะมันก็จะเป็นเช่นนั้น”

คำโปรยที่เป็นตราประทับให้กับ Gracefully Madrid ที่เป็น 1 ใน 8 กลิ่นของ Collection - Zara Olfactive ที่ Jo Malone (ในนามของ Jo Loves) ได้สร้างสรรค์โดยอ้างอิงเมืองต่างๆ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับแบรนด์ Zara ในการสร้างสรรค์งานด้านแฟชั่น ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการต่อยอดจากหลาก Collection น้ำหอมที่ Jo Malone ได้มาจับมือร่วมด้วย จนกลายเป็นกลุ่มน้ำหอมยอดนิยมที่ทั้งกวาดความชื่นชอบจากแฟนๆ ของ Zara เอง + กับแฟนๆ ของ Jo Malone เองด้วยเช่นกัน

และ Gracefully Madrid ก็เป็นหนึ่งในกลิ่นที่ได้รับความนิยมสูงมากในหลายๆ ประการ เช่นนั้นมาพิจารณาเนื้อกลิ่นกันซักหน่อยว่าจะออกมาเป็นเช่นไร

เปิดต้นกลิ่นมาก็อดไม่ได้ที่จะเหลียวไปมองที่ขวดอีกครั้งว่า “หยิบกลิ่นผิดมาฉีดหรือเปล่าหว่า?” เพราะเนื้อกลิ่นคล้ายคลึงกับกลิ่นยอดนิยมกลิ่นหนึ่งจากแบรนด์อื่น แต่ยังติดสินไม่ได้ต้องตามกันไปให้สุดก่อนที่จะฟันธงในความเห็นส่วนตัว ซึ่งในช่วงต้นความเป็น Citrus จะมาแบบกึ่งโทนสะอาดใสๆ แบบมีความฉ่ำน้ำเนียนๆ ซึ่งตัวที่โดดออกมาเลยจะเป็นมะนาว ที่มีความสแปลชฉ่ำๆ ของเลมอนผสม แต่จะมีความหวานติดส้มที่แทรกเข้ามาร่วมด้วยตลอด นอกจากนี้สิ่งที่โดดเด่นมากคือ โทนกลิ่นจะมีความซ่าๆ Sparkling ในเนื้อกลิ่นให้จับต้องได้ซึ่งน่าจะมาจากมินต์ รวมถึงมีความปร่าเขียวแกมนวลหน่อยๆ ของดอกส้มที่สกัดแบบไอน้ำหรือ Neroli รวมอยู่ด้วย ซึ่งทำให้เนื้อกลิ่นช่วงต้น อารมณ์กลิ่นจะแบบกึ่งโซดาที่มีกลิ่นส้ม มะนาว มินต์ และความเขียวปร่าคลอเป็นแกนหลัก ซึ่งกลิ่นจะมีความคมพอสมควร แต่ไม่นานก็จะได้อารมณ์หวานเข้ามามากขึ้นตามลำดับ จนปรับเนื้อกลิ่นเข้าสู่ช่วงถัดไป

ช่วงกลางความหวานใสๆ จะเสริมเข้ามาแบบเต็มที่มากขึ้น โดยเนื้อกลิ่นจะยังคงพื้นฐานความปร่าอ่อนๆ และเพิ่มชัดเจนมากขึ้นว่าเป็นโทนสะอาดกึ่งสดชื่นใสๆ รองพื้นอยู่ด้านหลังเต็มตัว ซึ่งแน่นอนว่าความคุ้นของกลิ่นก็ยังเต็มที่มากๆ แต่สิ่งที่ค่อนข้างโดดเด่นเลยคือ โทนเขียวที่แตกต่างไปจากกลิ่นที่คิดว่าคุ้นเคย นั่นคือ กลิ่นโทนเขียวเจอกุหลาบ อารมณ์แบบน้ำในแจกันกุหลาบในสไตล์ของเจอราเนียมที่โดยเกลาให้มีความสะอาด โดยที่มีความปร่าของมินต์ที่ตามมาจากช่วงต้น และมีกลิ่นออกทางหวานใสๆ ของโทนดอมไม้ขาวแกมเขียวกึ่งมะลิของดอกกระดิ่ง (lily-of-the-valley) ที่น่าจะมีกลิ่นหวานของดอกกระถินเทศ (Mimosa) มาเสริมร่วมด้วย + มีความหวานของส้มมาด้วย เลยทำให้ช่วงกลางคือ ความหวานใสๆ ติดคม ให้ความรู้สึกโปร่ง โดยให้ความรู้สึกเป็นโทนสีฟ้าสดชื่นแกมโทนสีขาวโปร่งๆ คลออยู่ตลอด 

ช่วงท้ายเอาจริงๆ เรียกว่าไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากช่วงกลางมากนัก แต่จะมีมาเป็น Musk เสริมเข้ามาชัดเจนมากขึ้น แต่ไม่ได้ถึงกับนวลข้นสะอาดนุ่มจัดจ้าน อารมณ์ Musk ที่น่าจะมาจากสารหอมซักอย่างที่ให้โทน Musk แบบเบาๆ มีความเป็นแป้งบางๆ ติดหวานอ่อนๆ (คาดว่าน่าจะเป็น Galaxolide) ที่ทำให้กลิ่นโทนหวานในช่วงกลางยังตรึงอยู่ไม่ได้ลดทอนลง แต่เพิ่มความนวลสะอาดเป็นพื้นหลังของกลิ่นให้ชัดเจน โดยยังคุม Concept ที่แฝงความสดชื่นบางๆ ประปรายและให้โทนกลิ่นออกทางสีฟ้าสว่างๆ แกมโทนสีขาวโปร่งๆ อยู่เช่นเดิม

เหมาะสำหรับ - Unisex ที่อาจจะค่อนไปทางผู้หญิงมากหน่อย เพราะเนื้อกลิ่นมีโทนหวานคม แต่ใสโปร่งชัดเจน แต่ยังไงผู้ชายก็ใส่ได้สบายๆ ถ้าใส่กับเสื้อผ้าสีโทนอ่อนสว่าง เช่น ฟ้าอ่อน ชมพูอ่อน ครีม หรือขาว คือเข้ากันเป็นอย่างดี ซึ่งสามารถใช้ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลย จะมีก็แต่ใส่ออกกำลังกายช่วงแรกๆ ก็ดีอยู่ แต่ที่เหลือกลิ่นหวานไปหน่อย แต่ถ้ารอช่วงท้ายๆ ก็พอได้อยู่ ส่วนยามค่ำคืน เน้นใส่แบบสบายๆ ออกงาน หรือโรแมนติคจะดีกว่า เพราะกลิ่นใสโปร่ง ไปเจอกลิ่นแน่นๆ ทั้งหลาย ก็โดนกลบแน่ๆ

ความทน - อันนี้คือเรื่องที่เกินคาดมากถึงมากที่สุด เพราะคาดไว้ส่วนตัวว่าไม่น่าจะเกิน 6 ชม. แต่ในความเป็นจริง เจอไปที่ 12 - 15 ชม. เป็นเรื่องปกติ เลยยืนยันได้ไม่ยากว่าแตะ 8 ชม. ได้สบายมาก

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น ก่อนจะลดลงมากระจายดีไปยาวๆ จนถึงราวๆ ชั่วโมงที่ 5 ก่อนจะลดลงมากระจายปานกลางไปเรื่อยๆ คงคัวไปจนถึงชั่วโมงที่ 8 จึงผ่อนลงมาที่ออร่ารอบๆ ตัวยาวๆ ไป ซึ่งกว่าจะเป็น Skin Scent ก็เล่นไปชั่วโมงที่ 12 ไปแล้ว เออ ตรงนี้ก็ไม่ธรรมดา

สรุป - ใช่กลิ่นนี้เหมือน Maison Francis Kurkdjian - Aqua Celestia มาก เรียกว่าแทบจะถอดกันมาเลย หรือถ้าวาง Position จริงๆ ก็อยู่ตรงกลางระหว่าง Aqua Celestia กับ Aqua Celestia Forte เพียงแต่มีความแตกต่างคือ ในความเป็น Gracefully Madrid จะเด่นที่ส้มกับเจอราเนียม ผสมกับดอกไม้ขาวที่ให้ความหวานคมๆ มากกว่าจะเป็น Vodka มะนาวกับความหวานดอกไม้ที่โปร่งลอยตามลมและยืนพื้นความสะอาดแบบคริสตัลเคลียร์สีฟ้าคราม เช่นนั้น เอาจริงๆ ทดแทนกันได้ไหม ถ้าไม่ได้ต้องมาแยกกลิ่นให้เยอะสิ่ง “อันนี้ได้” เพียงแต่ความรู้สึกมันจะต่างกันหน่อยตรงที่ความใส ความหวานที่ต่างโทนกันเล็กน้อย รวมถึงความหรูหราในเนื้อกลิ่นที่สู้ได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งก็เข้าใจได้ว่า Jo Malone ทำตาม Concept ที่แบรนด์กำหนดมาด้วย ก็เลยจะยังจับสไตล์แบบที่ควรจะเจอจาก Jo Malone (แบบ Jo Loves) ได้น้อยไปหน่อยยก็เท่านั้นเอง

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.parfumo.com/Perfumes/Zara/zara-olfactive-n-05-gracefully-madrid

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น