วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

Review: Tada Parfumeur - Rose & Thorns

Tada Parfumeur - Rose & Thorns

ดอกไม้ที่มักจะเป็นตัวแทนของผู้หญิงแบบที่เป็นสากลโลกเลย คงหนีไม่พ้น “กุหลาบ” แน่นอน ซึ่งกุหลาบก็เป็นหนึ่งใน Note อมตะนิรันดร์กาลของโลกน้ำหอมเลยก็ว่าได้ และก็ผ่านการตีความลงสู่กลิ่นน้ำหอมกันมามากมายหลากหลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

และจากเดิมที่เคยติดตามผลงานของสุคนธกรกับการปล่อยของกลิ่นกุหลาบในตอนเป็น Natural Teller ก็ได้เห็นความน่าทึ่งและน่าสนใจในการใส่เต็มกับงานศิลปะที่เอาความเป็นกุหลาบมาเจอกับหนังเข้มๆ ดิบห่ามแบบใส่เต็ม สื่อถึงการเป็นตัวแทนการพบเจอกันระหว่างหญิงและชาย และเมื่อเขากลับมากับการเป็นแบรนด์ Tada Parfumeur และนำเสนอความเป็นกุหลาบ สิ่งที่น่าลุ้นต่อคือ จะทำออกมาในลักษณะไหน และสื่อความออกมาอย่างไร ก็ขอสัมผัสกันซักหน่อยกับกุหลาบที่มีหนามแหลมคมกลิ่นนี้ Rose & Thorns

สิ่งที่มาทักทายก่อนใครเพื่อนเลยนั่นคือโทนแป้ง ที่มีลูกเอื้อนของความเป็นโทน Buttery แบบลิปสติกตีคู่กัน เนื้อกลิ่นค่อนข้างมีเลเยอร์ที่น่าสนใจมากเลย 3 โทนหลักๆ คือ แป้งติดหวานโปร่งของไวโอเล็ตที่มีโทนออกทางติดหวานแบบกลางๆ กำลังดีแกมกลิ่นแป้งฝุ่นหน่อยๆ ที่จะเป็นโทนเด่น ตามด้วยกลิ่นของลิปสติกที่เป็นแนวๆ ติดทึบเนื้อครีมกึ่งเนย (แต่ไม่ใช่กลิ่นเนย) ซึ่งอันนี้เดาไม่ยากว่ามาจากหัวเหง้า Orris  ที่แอบมีความปร่า Spicy คล้ายพริกไทยหน่อยๆ และปิดท้ายด้วยตัวแทรกซึมสำคัญอย่างกุหลาบที่มาแบบเป็นสายสนับสนุนให้เนื้อกลิ่นทั้งโทนแป้งและโทนลิปสติกต่างก็มีความเป็นกุหลาบเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของกลิ่นทั้งคู่ โดยที่กุหลาบจะไม่ได้โดดเด่นออกมาแบบบอกทั้งโลกให้รู้ แต่มาแบบเอื้อนๆ ให้เห็นถึงความลุ่มลึกทางกลิ่นที่เข้าได้กับทั้งแป้งและลิปสติก รวมถึงเป็นตัวเชื่อมโทนที่สร้างออร่าความ Feminine แบบซึมลึกราวกับไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนมากแต่เสน่ห์มันเด่นชัดออกมาให้รู้สึกเอง โดยที่เนื้อกลิ่นไม่ได้มาในโทนสว่างแต่ดาร์กแบบน่าค้นหาเสียมากในการเป็นจุดเริ่มต้น

ถ้าคิดว่าเนื้อกลิ่นจะมาแบบกลิ่นแนวแป้งและลิปสติกกุหลาบ อันนี้คงไม่ใช่ เพราะในช่วงกลางแม้ว่าโทนลิปสติกกับความเป็นแป้งฝุ่นแกมแป้งหวานโปร่งกุหลาบลึกๆ จะยังเป็นแกนหลักในการเดินกลิ่นอยู่ก็จริง แต่จะมีตัวแปรสำคัญเข้ามานั่นคือโทนหนังที่จะมาแบบติดห่ามหน่อยๆ อย่างสมดุลย์ และมีโทนเครื่องเทศที่ให้ความเผ็ดปร่านวลติดหวานเย้าซ่อนเนียนรวมอยู่ด้วย เลยทำให้เนื้อกลิ่นเริ่มมีอะไรมากกว่าเดิมด้วยการเพิ่มอารมณ์ความมั่นใจในตัวเอง เซ็กซี่และเย้ายวนเนียนๆ เข้ามาให้จับต้องได้ ซึ่งช่วงนี้เนื้อกลิ่นมีความชัดเจนมากกับการสร้างภาพให้เห็นถึงผู้หญิงในชุดสีดำและทาปากด้วยลิปสติกสีแดงกุหลาบที่สวยในสไตล์ของตนเอง และมี Sex Appeal ที่แฝงความมั่นใจออกมาให้ชวนมอง และรับรู้ได้เลยว่าคนนี้ไม่ธรรมดา มีของในตัว โดยไม่จำเป็นต้องโปรยความเป็นนางพญาออกมาแต่อย่างใด ถือเป็นไฮไลท์ที่ชัดเจนและบ่งบอกเปรียบเปรยถึงความเป็น Rose & Thorns กับความเป็นสตรีเพศได้ชัดเจนมาก 

เมื่อโทนกลิ่นแนวแป้งเครื่องสำอางค์เริ่มเบาลงเป็น Improvise ที่มีให้รับรู้ปลายกลิ่น และกลิ่นลิปสติกเริ่มเบาลงแต่ยังคงกลิ่นโทนเนื้อลิปสติก Buttery อยู่ โดยที่มีความเผ็ดปร่านวลติดเอื้อนหวานนิดๆ ให้รับรู้แบบเบาๆ สิ่งที่จะชัดเจนขึ้นมาในการเป็นช่วงท้ายคือโทน Musky ที่จะมี Musk กับหนังที่ตอนแรกติดห่ามๆ แต่เบาลงมาผสมผสานทำให้ได้ความนวลสะอาดแต่มีความเย้าลึกที่เซ็กซี่เนียนๆ แฝงอยู่ โดยเนื้อกลิ่นจะมีโทนอบอุ่นทำให้ได้ความรู้สึกแบบกลิ่นผิวกายนวลสะอาด แต่มีความ Dirty เซ็กซี่ซ้อนเนียนๆ อารมณ์ไม่ใช่นุ่มนวลอ่อนโยน แต่เป็นนุ่มนวลที่มีความน่าค้นหาแบบไม่โจ่งแจ้ง โดยที่ยังมีความมั่นใจจากความเป็นลิปสติกกึ่งแป้งเป็นเลเยอร์แรกอยู่ เรียกว่าเป็นอีกช่วงที่ให้ความเป็น Sex Appeal ที่ชัดเจนแบบขยับอีก 1 สเต็ปมาเป็นรู้ที่จะผ่อนและรู้ที่จะปล่อยแบบค่อยเป็นค่อยไปให้เห็นถึงความไม่ธรรมดาที่คลอผิวไปเรื่อยๆ อย่างมีเสน่ห์และมีชั้นเชิง

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานเป็นต้นไป จะเข้าทางกับน้ำหอมกลิ่นนี้มาก เพราะมีสเต็ปที่รู้ทิศทางมากพอในการนำเสนอคาแรคเตอร์ตัวเองควบคู่กับกลิ่นได้ไม่ยาก ซึ่งเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป แต่ให้ตัดการใส่เพื่อออกกำลังกายหรือกิจกรรมกลางแจ้งลุยๆ ไปได้เลย ไม่เข้าทางทุกกรณี ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่ออกงานจะดีที่สุด และแม้ว่าจะใส่ท่องราตรีแบบชิลล์เก๋ๆ ได้ แต่กลิ่นไม่ได้มาสายปล่อยพลังคลื่นเต่านัก เช่นนั้นถ้าคิดจะเอาไปปล่อยเสน่ห์ยั่วยวนอาจจะไม่ได้ดังหวังก็เท่านั้นเอง

ความทน - ลงตัวที่ราวๆ 8 ชั่วโมงเป็นสำคัญ แต่ไปต่อได้อีกถ้าจำนวนสเปรย์เหมาะสมหรือสภาพผิวเอื้อได้มากพอ ซึ่งส่วนตัวเจอที่ระหว่าง 8 - 12 ชม. อยู่เสมอ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้นและคงที่ไปราวๆ 1 ชม. ก่อนที่จะลดลงมาที่ปานกลางที่จะยาวไปพอสมควร และเมื่อแตะชั่วโมงที่ 4 - 5 ก็จะเริ่มลดทอนลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัว แล้วติดผิวเอาราวๆ ผ่านไปแล้วประมาณชั่วโมงที่ 6 - 7 เป็นต้นไป

สรุป - “เพราะกุหลาบเป็นดอกไม้ที่ตีความเสมือนเป็นสตรีเพศ และสิ่งที่เราปรามาสไม่ได้เลยนั่นคือ กุหลาบมักจะมีหนามแหลมซ่อนอยู่เสมอ ไม่ระวังจับต้องดีๆ ก็จะเจอหนามทิ่มแทงมือเอาได้” นี่แหละที่เป็นเสมือนภาพรวมของกลิ่นที่ทำออกมาให้เห็น ซึ่งนี่ก็คือ Rose & Thorns แบบที่ไม่จำเป็นต้องยัดความเป็นกุหลาบจ๋าๆ แต่เล่าออกมาแบบเปรียบเปรยให้เห็นถึงผู้ใช้ที่ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายที่มีความมั่นใจ ทันสมัย มีชั้นเชิงที่ซ่อนความแซ่บ และไม่ธรรมดาในความเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งถ้าว่ากันจริงๆ แบบเจาะจงก็ เหมือนเห็นผู้หญิงสวยและมีเสน่ห์ในชุดสีดำทาปากสีแดงกุหลาบ ที่แตะได้ทั้งความมั่นใจที่ใช้อย่างถูกที่ถูกทางและมีมุมที่แซ่บลึกแบบไม่ธรรมดา อันนี่แหละชัดเจนในความรู้สึกจริงๆ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.facebook.com/TadaParfumeur

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น