วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2565

Review: Memo Paris - Inlé

Memo Paris - Inlé

ทะเลสาบอินเล ถือเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศพม่า และเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ทำให้เราได้พักผ่อนกายใจกับสายน้ำ ท้องฟ้า และวิถีชีวิตของชาวอินตากับการทำประมงและแปลงเกษตรลอยน้ำ แบบอารมณ์หยุดเวลาไว้และบำบัดโดยธรรมชาติเน้นๆ ให้กับชีวิต ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของเจ้าของแบรนด์ Memo Paris ที่ได้มาท่องเที่ยวและเก็บเอาความประทับใจไปสู่การสร้างสรรค์น้ำหอมตามแบบฉบับถอดกลิ่นการท่องเที่ยวจากสถานที่ต่างๆ ของแบรนด์ในที่สุด

ในจุดเริ่มต้นของกลิ่นอายทะเลสาบอินเล เริ่มด้วยการไปอยู่ใน Collection - Les Echappees ที่เป็นการเจาะจงสถานที่พิเศษเฉพาะที่เหมาะกับการไปเยือนเพื่อลบลี้หนีหายไปจากโลกปัจจุบัน ก่อนแล้วเมื่อมีการปรับปรุงใหม่จึงได้มี Concept ที่ชัดเจนมากขึ้นโดยเอามารวมกับการชูโรงความเป็นดอกไม้กับสถานที่ท่องเที่ยวใน Collection - Fleurs Bohèmes ในที่สุด เพราะมีมะลิกับหอมหมื่นลี้เป็นตัวเดินกลิ่นหลัก ซึ่งในเนื้อกลิ่นจะมีตัวแทนที่จะเล่าความรู้สึกทางกลิ่นเชื่อมโยงกับการได้ไปอยู่ที่ทะเลสาบอินเลด้วย Notes ต่างๆ เช่นนั้น ไม่ร่ายยาว ไปเรื่องกลิ่นกันเลยดีกว่า

ต้องสปอยกันก่อนเลยว่า เนื้อกลิ่นไม่ได้เอาความเป็นธรรมชาติแบบกลิ่นทะเลสาบและสภาพแวดล้อมที่มีกลิ่นน้ำ พืชพันธ์ กลิ่นปลา มานำเสนอแต่อย่างใด แต่ไล่เรียงเอา Notes กลิ่นต่างๆ เป็นตัวแทนในแต่ละช่วงในการสร้างความประทับใจที่อยู่ในความทรงจำในการไปเที่ยวที่สถานที่แห่งนี้แล้วถอดออกมาเป็นกลิ่นหอมที่มีเสน่ห์แทน อารมณ์สร้างโทนกลิ่นออกมาจากภาพในความทรงจำมากกว่าที่จะเป็นกลิ่นในความทรงจำ ซึ่งจุดเริ่มต้นจะมาจากมะกรูดฝรั่งหรือ Bergamot ที่ให้ความปร่าชื้นๆ ขมแกมเปรี้ยวอ่อนๆ สร้างบรรยากาศสดชื่น โดยมีกลิ่นของโกฐจุฬาลัมพาหรือ Artemisia มาให้ความรู้สึกติดเขียวอารมณ์แบบแปลงเกษตรลอยน้ำ ซึ่งทั้ง 2 จะมาแท็คทีมกับมินต์ที่ให้ความปร่าสดชื่น ซึ่งนี่จะเป็นเพียงวูบแรกไม่ถึว 1 นาที ก่อนที่จะมีกลิ่นออกทางติดหวานอมเปรี้ยวที่มีลูกผสมของผลไม้ของแอปริคอตแกมกลิ่นหนังบางๆ ซึ่งเป็นลักษณะกลิ่นของดอกหอมหมื่นลี้ เข้ามาทำให้เนื้อกลิ่นมีโทนสว่างสีเหลือนวลแกมหวาเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งถ้าตีความออกมาเป็นภาพจากเนื้อกลิ่นก็บรรยากาศสดชื่นที่มีกลิ่นปร่าเขียวที่มีความชื้นๆ กลิ่นน้ำ เคล้าความหอมหวานอมเปรี้ยวแกมสว่างยามเช้า ซึ่งถือว่าเข้าทางอยู่ไม่น้อยในการสร้างภาพผ่านกลิ่นในลักษณะนี้

รอยต่อในการเข้าสู่ช่วงกลางจะชัดเจนมากขึ้นเมื่อกลิ่นหอมหมื่นลี้จะเด่นขึ้นมาแต่ไม่ได้ยืนหนึ่ง เพราะว่ามีมะลิเข้ามาเสริมเป็นยืนคู่เคียงเสียมาก ซึ่งทำให้ได้อารมณ์กลิ่นสดชื่นนวลๆ และที่สำคัญตัวดึงเข้าช่วงกลางเต็มตัวเลยต้องยกให้กลิ่นชามาเตที่ทำให้กลิ่นมีความหอมหวานอมเปรี้ยวแกมนวลที่สร้างอารมณ์แบบชาเขียวที่มีความลุ่มลึกแกมชาดำหน่อยๆ เข้ามาร่วมด้วยแต่ไม่ได้เด่นจ๋ามากจนกลกลิ่นดอกไม้ ซึ่งทำให้ช่วงกลางจะได้ความเป็นชามะลิที่มีความหอมหวานอมเปรี้ยวระเรื่อของหอมหมื่นลี้เป็นจุดเด่นในการสร้างความรู้สึกผ่อนคลายกันยาวๆ อารมณ์โทนสว่างหวานโปร่งระเรื่อ แบบนั่งมองท้องฟ้าสดใสกับก้อนเมฆล่องลอยเคล้ากลิ่นสดชื่นจากช่วงต้นที่ยังตามมาในช่วงนี้แบบกำลังดี เพียงแต่เนื้อกลิ่นจะไม่ได้สดชื่อนหรือฉ่ำแล้ว ออกจะเข้าทางโทนแป้งนวลๆ รองพื้นเสียมากกว่า ซึ่งนี่แหละปูทางไปในช่วงถัดไปชัดเจน

ช่วงท้ายจะกลายเป็นกลิ่นโทนสายมินิมัลมากขึ้นเพราะว่าจะมาในแบบโทนสะอาดนวลๆ เป็นสำคัญซึ่งจะมีลูกผสมระหว่างโทนแป้งฝุ่นโปร่งๆ ของไอริสมาผสมผสานกับ Musk ที่สร้างความนุ่มนวลสะอาดๆ สบายๆ โดยมีกลิ่นไม้โปร่งๆ ขรึมๆ ของไม้ซีดาร์เข้ามาสร้างโทนไม้หอมสว่างๆ ร่วมด้วย ซึ่งเนื้อกลิ่นในช่วงกลางจะยังตามมาอยู่ในการให้กลิ่นของชามะลิแกมหอมหมื่นลี้แบบกำลังดีเป็นเลเยอร์ชั้นบนสุดก่อนจะไปเจอกลิ่นออกทางแป้งนวลโปร่งสะอาดที่คลอผิว ซึ่งจะให้ความหอมนุ่มนวลกลางๆ แกมหวานอ่อนๆ ที่ปลอดภัยและเรียบง่ายแบบมีเสน่ห์ได้พอเหมาะ ถือเป็นช่วงปิดท้ายที่ไม่ต้องเยอะสิ่งและมีความชิลล์และรื่นรมย์ในเนื้อกลิ่นได้ลงตัว

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศตั้งแต่ ม.ปลาย เป็นต้นไปก็สามารถใช้งานกลิ่นนี้ได้สบายมาก เพราะเป็นกลิ่นที่หอมหวานโปร่งสดชื่นและตอบโจทย์การใช้งานแบบเมืองโคตรร้อนได้สบายมาก ซึ่งเข้าได้กับแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันแบบครบวงจร จะมีก็แต่การใส่เพื่อออกกำลังกายที่รอช่วงท้ายๆ จะดีกว่า ส่วนในยามค่ำคืนใส่แบบออกงานหรือว่าทั่วๆ ไปจะดีที่สุด เพราะว่าเนื้อกลิ่นไม่ได้ไปทางปล่อยเสน่ห์เย้ายวนอวลจัดหนักแบบกลิ่นแนวท่องราตรีแต่อย่างใด นอกจากนี้ถ้าผู้ชายคนไหนไม่มายด์ที่จะใส่น้ำหอมกลิ่นนี้ เอาจริงๆ ก็ใส่ได้สบายมาก เพราะว่าเนื้อกลิ่นค่อนข้างเข้ากับการใส่เสื้อผ้าโทนสีขาวหรือโทนสว่างนวลตา ที่ไม่ได้ถึงกับหนักหน่วงในเรื่องการปล่อยของ เผลอๆ ใส่แล้วมีเสน่ห์แบบกลิ่นสะอาดแกมหวานเสียด้วยซ้ำไป  

ความทน - อยู่ที่ราวๆ 8 ชม. เป็นสำคัญ อาจจะมีบวกลบบ้างราว 1 - 2 ชม. ขึ้นอยู่กับจำนวนสเปรย์และสภาพผิวของผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง ส่วนตัวเจอไปที่ 8 - 10 ชม. ประมาณนี้เสมอ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้นราวๆ 2 นาที ก่อนที่จะลดลงมากระจายดีต่ออีกซักครู่หนึ่งตีไปราวๆ 15 นาที แล้วจะคงตัวที่ปานกลางต่อไปอีกราวๆ 2 - 3 ชม. ถึงลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันยาวไปถึงราวๆ ชั่วโมงที่ 6 จึงลงมาเป็น Skin Scent กันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะจางไปในที่สุด

สรุป - ตามที่บอกไว้ช่วงต้นของการเล่ากลิ่นเลยว่าเป็นการถ่ายทอดกลิ่นด้วย Notes ต่างๆ จนได้ภาพจากความทรงจำที่รื่นรมย์และผ่อนคลายเสียมากกว่า เพราะถ้าเป็นกลิ่นทะเลสาบจริงๆ มันคงไม่น่าใช่ในการใช้งานเป็นน้ำหอม ซึ่งถ้ามองในแง่ของกลิ่นต้องบอกเลยว่าเป็นกลิ่นที่มีความเรียบง่ายในโซนสะอาดแกมหวาน บางคนอาจจะเผลอนึกไปถึงกลิ่นแชมพูเลยก็ได้ แต่ก็มีระดับในตัวสูงมากจากกลิ่นของหอมหมื่นลี้ที่ทำให้เนื้อกลิ่นมีโทนสว่างเหลืองนวลหวานอมเปรี้ยวมีเสน่ห์แกมกลิ่นชามาเตได้อย่างพอเหมาะ ซึ่งถ้าขาดกลิ่นแบบนี้ไปเนื้อกลิ่นจะไม่ได้ยกระดับในความชิลล์และรื่นรมย์ขนาดนี้แน่นอน

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.memoparis.com/fr/products/inle-travel-size

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น