วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2564

My Favorite Newcomer Fragrances of 2020

My Favorite Newcomer Fragrances of 2020

เมื่อได้เวลาของการเลือกน้ำหอม 10 ตัวที่ได้สอยมาตลอดปี 2020 ที่สร้างความประทับใจและปลื้มปริ่ม ก็ทำให้รู้ว่า “พระเจ้าาาาา! เงินข้าหายไปกับพวกนี้ทั้งนั้นเลย” แน่นอนว่าสะเทือนใจกระเป๋าเงินและวงเงินบัตรเครดิตอยู่ซักครู่ แล้วก็บอกกับตัวเองว่า “ช่างแม่ม” 

ซึ่งก่อนที่จะเข้าเรื่องการเลือกในรอบปีที่ผ่านมา เรียกว่าจะยากไปไหน จำใจต้องเทียบกลิ่นและยอมที่จะเอาออกจาก List ไปหลายตัวมาก ซึ่งก็ขอให้เครดิตโดยการระบุชื่อไว้ที่นี้เลย

Guerlain Homme EDP, Francesca Bianchi - Sex & the Sea Neroli, Aesop - Marrakech Intense, Bottega Veneta for Women, Tobali - Iron Wind, Diptyque - Eau Duelle, Acca Kappa - Tilia Cordata, TokyoMilk - Let Them Eat Cake, Montale - Patchouli Leaves และ The Different Company - Rose Poivree เป็นต้น

เช่นนั้นก็เข้าสู่ 10 รุ่น/กลิ่น ที่เป็นน้ำหอมที่ได้มาแล้วประทับใจในปี 2020 ที่ไม่ได้เรียงลำดับตามความชอบและไม่ได้สนใจว่าจะผลิตหรือวางจำหน่ายปีไหนเน้นเฉพาะที่ได้มาในปี 2020 เพียงอย่างเดียว ก็เริ่มที่

Tauer Perfumes - Lonesome Rider

“โคตรเท่ห์” ถือเป็นคำจำกัดความของน้ำหอมรุ่นนี้ได้เลย ซึ่งพื้นฐานกลิ่นจะเป็น Smoky Leather ที่ได้อารมณ์เท่ห์ๆ แห้งๆ แต่จะไล่เรียงอารมณ์จากเครื่องเทศที่มีความสดชื่นอารมณ์ปร่าๆ แล้วจะต่อเนื่องด้วยความเป็นโทนหนังเจือแป้งไอริสที่เข้มเท่ห์กำลังดีมีกลิ่นไม้หอมมาเจือๆ สร้างเสน่ห์ ก่อนที่จะเริ่มเป็นโทนติดควันน่าค้นหาและมีความสาบปลุกเร้าใจสาย Animalic ติดอวลอุ่นเข้ามาแบบมีระดับและแกมเซ็กซี่เนียนๆ พูดง่ายๆ กลิ่นนี้ให้นึกภาพตามได้เลยว่าเหมือนเข้าใกล้ Biker หล่อเท่ห์ที่ใส่แจ็คเกตหนังเคล้ากลิ่นกายอวลมีเสน่ห์ชวนคลุกวงในซบให้รู้แล้วรู้รอดนั่นแล    

Frederic Malle - French Lover 

“สุภาพบุรุษ” มากันแบบนี้เลย เพราะเนื้อกลิ่นสื่อสารถึงโทน Herbal หรือสมุนไพรเจือไม้หอมแห้งๆ โดยมีลักษณะกลิ่นอายสาย Timeless ที่จะเป็นโทนติด Classic ก็ได้ Modern ก็ดี กับพื้นฐานภาพรวมของกลิ่นที่เป็นโทนไม้หอม (Woody) เป็นเมนหลัก แต่จะคลอด้วยกลิ่นสมุนไพรที่ให้ความปร่า Spicy ตามด้วยไม้หอมแห้งๆ ของหญ้าแฝกติดยางไม้กึ่งโทนธูปน่าค้นหาและแอบหวานนิดๆ เนียนๆ จากสมุนไพร แล้วถึงกลายเป็นกลิ่นอวลอุ่นไม้หอมที่มีเสน่ห์แบบสุขุมสไตล์มินิมัล ใส่แล้วจะเป็นคนรักใครไหม ไม่รู้ แต่ใส่แล้ว Cool อันนี้กดเลิฟ 

Lubin - Epidor

“แป้งหอมรื่นรมย์” เพราะ Epidor แม้จะให้เป็นโทนกลิ่นที่สื่อถึงสภาพแวดล้อมที่มีความสว่างเหลืองนวลสมกับที่มาของน้ำหอมที่สื่อถึงทุ่งข้าวสาลีและฤดูกาลเก็บเกี่ยว แต่เอาจริงๆ พื้นฐานคือโทนแป้งหอมนวลระเรื่อที่แตะได้ทั้งกลิ่นอายหอมสะอาดเจือหวานที่มาจากดอกส้มและลูกพลัม และกลิ่นหอมนวลอบอุ่นแบบที่ไม่หนักหน่วงที่มาจากวานิลลาและถั่วตองก้า ทุกอย่างคุมโทนสมดุลย์ได้ดีไล่เรียงจากสดชื่นสู่หอมรื่นจมูกปนอบอุ่นได้อย่างพลิ้วไหว ซึ่งกลิ่นมันอาจจะดูไพล่ไปทางผู้หญิง แต่มาอยู่บนตัวผู้ชายมันหอมรื่นรมย์มากกว่าที่คิด

J-Scent - Ramune

“น้ำอัดลมกลิ่นครีมโซดา” นี่แหละใช่เลยกับ Ramune (Japanese Soda) ซึ่งกลิ่นจะให้อารมณ์หอมสชื่นซาบซ่าแบบที่ไม่ได้โฉ่งฉ่าง เพราะแรกฉีดอารมณ์กลิ่นเขียวหอมหวานเจือซ่าปร่าจะมาชัดเจนแบบที่ดมแล้วต้องนึกถึงน้ำอัดลมเลย ซึ่งต้องชื่นชมกันตรงนี้ว่าเป็นการผสมผสานกลิ่นมินต์ กลิ่นโทน Citrus กลิ่นโทนดอกไม้หวาน และกลิ่นผลไม้ มาเจอกับโทนปร่าอวลฟุ้งที่เสริมให้กลิ่นมีน้ำหนักกำลังดี หอมสดชื่น และเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญกลิ่นสายสนับสนุนจะให้ความนวลสะอาดเรียบง่ายสนับสนุนจนได้อารมณ์สไตล์ญี่ปุ่นออกมาชัด รวมกันแล้วสร้างความสุขในการดมได้ครบมาก 

Van Cleef & Arples - Neroli Amara

“ดอกส้มใสกระจ่าง” คือความเป็น Neroli Amara ที่ชัดเจน เพราะผ่านการใช้น้ำหอมดอกส้มมาก็มาก แต่ไม่เคยเจอกลิ่นดอกส้มที่ใสแบบน้ำลอยดอกส้มได้มากขนาดนี้ ไม่พอกลิ่นยังทนดีงาม และฉีกตัวเองออกมาจากน้ำหอมดอกส้มสาย Traditional Cologne ได้อย่างงดงาม ทุกอย่างคุมโทนการเป็นกลิ่นอายของดอกส้มที่สกัดด้วยไอน้ำจนได้ลักษณะกลิ่นออกทางดอกส้มที่ติดเขียว Citrus สดชื่นรื่นรมย์ด้วยการผสมผสาน Note กลิ่นอย่างยอดเยี่ยม และให้เสน่ห์ของดอกส้มที่ควรจะเป็นรองพื้นด้วยความสะอาดเรียบหรูสไตล์มินิมัลที่ให้ความรื่นรมย์ในการใช้งานสูงมาก ยกดาวให้ทั้งฟ้าเลย   

Acca Kappa - Black Pepper & Sandalwood 

“เกินคาด” เพราะสิ่งที่เห็นครั้งแรกจาก Notes กลิ่น ก็คาดการณ์ไปก่อนเลยว่ามันจะหนักและแน่นแน่นอน แต่กลายเป็นพลิกเกมไปเลย เพราะเนื้อกลิ่นสายเครื่องเทศปร่าโปร่งอย่างกานพลูและพริกไทยต่างให้ความสมดุลย์กำลังดี ไม่ได้มาเพื่อฆ่าและแย่งซีนโทนไม้หอมที่นำทีมโดยไม้จันทน์หอมที่สร้างความสุขุมปนนวลแต่อย่างใด แต่กลับเสริมกันอย่างลงตัวโดยมีตัวเชื่อมสำคัญอย่างพิมเสน กุหลาบ หญ้าฝรั่น และอบเชย ที่ให้ความระเรื่อ หวาน ลุ่มลึก และอบอุ่น ทุกอย่างสอดรับและผสมผสานกันอย่างสมดุลย์ สร้างกลิ่นอายสุขุมนุ่มลึกเป็นออร่ารอบตัวได้อย่างงดงาม    

Jo Malone - Pomegranate Noir 

“มีชั้นเชิงและไม่ธรรมดา” โดยจะให้อารมณ์สีแดงน้ำทับทิมที่มีเสน่ห์และมีความน้ำนิ่งไหลลึกที่ซับซ้อนเกินคาดแบบที่ไม่คิดว่าจะเจอจาก Jo Malone ซึ่งกลิ่นจะไล่เรียงความเป็นโทน Fruity ที่สร้างอารมณ์สีแดงลุ่มลึกปนเมทัลลิคเสริมด้วยโทนเครื่องเทศปร่าคมนิดๆ ที่ให้ความรู้สึกว่าคาแรคเตอร์กลิ่นไม่ธรรมดา เสริมด้วยกลิ่นโทนยางไม้และดอกไม้คลอสร้างความระเรื่อมีเสน่ห์ รองพื้นด้วยความหนากำลังดีของกลิ่นจากโทนไม้หอมและพิมเสนที่น่าค้นหาและซับซ้อน แต่ก็ยังคุมโทนเป็นสไตล์ Cologne ที่เรียบหรูมีระดับตามลายเซ็นเดิมได้ดี อารมณ์ Last Boss สไตล์ Jo Malone ชัดเจน   

Akro - Awake 

“กรุ่นกลิ่นกาแฟ” ที่เป็นการผสมผสานเอาความดีงามของ Jo Malone - Black Vetiver Cafe มารวมกับ Armani - Attitude ใส่เสน่ห์เย้าๆ แบบ by Kilian - Intoxicated ลงไป ครีเอทจนเป็นกลิ่นกาแฟที่หอมชวนหลงมากกับการเปิดด้วยกลิ่นกาแฟดำใส่เลมอนฝาน ตามด้วยกาแฟดำหอมกรุ่นติดเครื่องเทศเย้าๆ ของกระวานที่มีเสน่ห์มาก แล้วปิดท้ายด้วยกาแฟไม้หอมแห้งๆ สะอาดๆ แบบกลิ่นกาแฟดำกรุ่นรอบกายสร้างความอะโรม่าที่รื่นรมย์และพลิ้วไหว ทุกอย่างต้องให้เครดิตสุคนธกรและเจ้าของแบรนด์อย่าง Olivier Cresp เลยที่สร้างสรรค์ออกมาได้อย่างลงตัวและชวนหลงมาก

Parfum Prissana - Mandarava  

“ดอกไม้แห่งสรวงสวรรค์” กับกลิ่นอายที่มีความเป็นศาสนาพุทธกับการนำเสนอกลิ่นดอกมณฑาที่ไม่ได้ไทยจ๋า แต่มีลูกเล่นกลิ่นที่ซับซ้อนอย่างหาตัวจับไม่ได้ ซึ่งกลิ่นจะให้อารมณ์กลิ่นสีเหลืองต่างเฉดกันจากเหลืองสว่างดอกไม้ เหลืองฝาดปร่าไม้หอมปนควันธูป Incense เหลืองทองอบอุ่นจากเครื่องเทศเจือยางไม้สายแอมเบอร์ ที่รองพื้นด้วยโทน Animalic แบบ Vintage ลุ่มลึก ซึ่งบางวูบได้อารมณ์กลิ่นคล้ายช่วงการย้อมจีวรสีกรักแบบพระป่าท่านทำเอง (อิงจากประสบการณ์ส่วนตัว) แบบว่า เฮ้ย! นี่คืองานศิลปะที่ถ่ายทอดอารมณ์กลิ่นสไตล์ Oriental Floral ที่เหนือชั้นจริงๆ   

Hermes - Twilly d’Hermes

Modern Tuberose” เวลาเห็น Note กลิ่นที่ชูโรงความเป็นกลิ่น Tuberose หรือดอกซ่อนกลิ่น มักจะกลัวว่าครีมมี่ข้นๆ อวลหนักจัดจ้านจนใช้ยาก แต่กับการประยุกต์โทนกลิ่นที่ฉีกขนบของ Hermes เดิมๆ มาเป็นทิศทางใหม่ของแบรนด์ ที่ให้อารมณ์ซ่อนกลิ่นนวลครีมอ่อนๆ เจือขิง ที่มีกลิ่นดอกส้มกับส้มขมใสๆ มาตัด แล้วรองพื้นด้วยความนวลอ่อนๆ ของโทนแป้งเจือไม้จันทน์หอม รวมกันชูโรงกลิ่นออกมาได้ดีเพราะได้ทั้งความสดชื่น ความนุ่มนวล ที่มีลูกเล่นกลิ่นที่มีเสน่ห์และมั่นใจ ให้ความทันสมัยบนพื้นฐานความเป็นกลิ่นอ่อนที่ทน สุดท้ายผมก็ได้เจอ Tuberose ที่เหมาะกับตัวเองซักที   

ทั้งหมด ถือเป็นสมาชิกใหม่ของผมในปี 2020 ที่ทำให้ชีวิตมีความสุขกับกลิ่นอายความหอมต่างๆ ที่เข้ามา และเป็นหนึ่งในครอบครัวที่จะอยู่กันให้เต็มตู้ต่อไป

สุดท้าย “เงินข้าหายไปไหนหม๊ดดดด” ตามเคย

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น