วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2564

Review: Nez - 1+1 Hongkong Oolong

Nez - 1+1 Hongkong Oolong 

ถ้าจะหาคลังความรู้ทางด้านน้ำหอมที่เจาะลึก เปิดโลก และเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับน้ำหอมแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือ Nez เพราะว่านี่คือหนึ่งในแมกกาซีนที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับน้ำหอมโดยตรง มีบทสัมภาษณ์ Perfumer ต่างๆ มีบทวิจัยและการวิเคราะห์กลิ่น รวมถึงวิธีการใช้งาน ตลอดจนเจาะลึกไปที่ Note กลิ่นที่มีอิทธิพลต่อโลกน้ำหอมต่างๆ ซึ่งแมกกาซีนนี้ถือว่าเป็นแหล่งวิชาด้านน้ำหอมที่ยอดเยี่ยมมากๆ ของโลกเลยทีเดียว โดยทำการตีพิมพ์ออกมา 2 ภาษา นั่นคือฝรั่งเศสและอังกฤษ

แต่เราไม่ได้มาว่ากันเรื่องแมกกาซีน ซึ่งอันนี้ถ้าใครหาได้แล้วแต่ผู้นั้น แต่สิ่งที่เราจะมาเล่าคือ น้ำหอมแบบ Limited Edition ที่แมกกาซีนฉบับนี้ได้ทำขึ้นเป็น Project พิเศษ โดยการเอาแรงบันดาลใจและปรมาจารย์ทางด้านกลิ่นที่ต่างสายวิชามาเจอกันในการสร้างสรรค์น้ำหอม ซึ่งในกลิ่นแรกของ Nez ก็เป็นการเอาปรมาจารย์ด้าน Interior Designer ที่สร้างสรรค์บ้านชาต่างๆ ของ Hong Kong อย่าง Alan Chang มาเจอกับปรมาจารย์ทางด้านสร้างสรรค์น้ำหอมอย่าง Maurice Roucel ที่สร้างสรรค์น้ำหอมมากมาย เช่น Frederic Malle - Musc Ravageur, Kenzo Air, Rochas Man และอื่นๆ อีกมาก มาเจอกันใน Theme 1+1 และมาเจาะกันที่กลิ่น “ชา”  ในการเป็น “ชาอู่หลง” ในสไตล์แบบฮ่องกงเสียด้วย เช่นนั้น เกริ่นมาพอแล้ว มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าว่าชาขวดนี้จะเป็นอย่างไร

Hongkong Oolong เปิดตัวมากับกลิ่นอายเครื่องเทศที่ชัดเจนเลยทีเดียว แต่จะมาแบบกำลังดีไม่หนักหน่วงเกินไป ความเป็นชาจะยังไม่ได้มีให้รู้สึกแบบชัดๆ เท่าไหร่ แต่จะได้อารมณ์กลิ่นชาแบบประปราย โดยจะเน้นเครื่องเทศมากกว่า และก็ไม่ใช่แบบกลิ่นแบบ Chai Tea ที่เป็นชารวมเครื่องเทศด้วย แต่จะเป็นกลิ่นเครื่องเทศที่มีความโดดเด่นชัดเจนโดยเกลาอย่างสมดุลย์รื่นจมูกเสียมากกว่า ซึ่งจะจับต้องได้เต็มๆ เลย คือ อบเชยที่จะมาแบบหวานติดเปลือกต้นกำลังดี มีความปร่าซ่าปลายกลิ่นของกานพลูหน่อยๆ แถมมีความเผ็ดเจือหวานของขิงแบบแห้งๆ ให้รู้สึกได้ ซึ่งกลิ่นจะมีความอวลเย้าหวานไม่ข้นของเม็ดกระวานเข้ามาร่วมด้วย แต่ทั้งหมดจะมีกลิ่นหนึ่งที่แฝงตัวตัวแบบกึ่งชาดำและมีโทนเขียวหน่อยๆ แบบชาเขียวเนียนๆ ประปรายซึ่งเป็นลักษณะของชาอู่หลง โดยที่กลิ่นจะออกแนวเป็น Background เสียมาก ซึ่งเป็นการเปิดตัวกลิ่นที่อาจจะทำให้คนที่คาดหวังความเป็นชามาเต็มๆ อาจจะงงๆ แต่เอาจริงๆ ในโทนกลิ่นโดยรวมไม่ธรรมดาเลยในการเอากลิ่นชามาเป็นแค่สายสนับสนุนแต่มีตัวตนให้จับต้องได้ท่ามกลางเครื่องเทศ แถมมีความซับซ้อนที่เล่นโทนเด่น โทนเสริมกันได้เป็นอย่างดี

เมื่อกลิ่นเครื่องเทศเริ่มผ่อนลงมาทีละหน่อยๆ แล้วสลับที่กับกลิ่นที่ที่จะชัดขึ้นมาอีกสเต็ป แต่ก็ไม่ได้ชัดจนกลายเป็นตัวเดินกลิ่นนัก ออกแนวเป็นกลิ่นชาที่พาเพื่อนมาด้วยอย่างกลิ่นอายสายดอกไม้ขาวที่ให้ความเรื่อๆ หอมอะโรม่ากำลังดี มีความหวานและผ่อนคลายแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ ได้อย่างลงตัว ซึ่งจับต้องได้ชัดเจนถึงกลิ่นดอกมะลิที่มาสอดรับกับความเป็นชา เคล้ากลิ่นหอมติดแป้งกึ่งหวานน้ำผึ้งอ่อนๆ และมีโทนติดเขียวหน่อยๆ เป็นธรรมชาติกำลังดีมาเสริมให้เป็นกลิ่นชาอู่หลงปนดอกไม้ขาว แต่ก็ไม่ได้โดดออกมานัก เพราะโทนเครื่องเทศยังชัดเจนอยู่ในระดับหนึ่ง แถมมีกลิ่นออกทางไม้หอมนวลๆ ให้รู้สึกได้ประปรายอีกด้วย จนเมื่อกลิ่นดำเนินไปพอสมควรจะเริ่มจับต้องได้ถึงกลิ่นหนังที่ค่อยๆ เสริมเข้ามา ซึ่งไม่ได้มาแบบ Animalic แบบมีกลิ่นติดสาบปลุกเร้า แต่จะมาแบบหนังที่เกลากลิ่นมาแล้วจะมีอารมณ์กลิ่นอวลแต่มีความเรียบหรูที่มาสอดรับกับกลิ่นชาอู่หลงติดดอกไม้ขาวที่กำลังดีและลงตัวมาก โดยที่กลิ่นเครื่องเทศจะเริ่มลดทอนลงไปเรื่อย จนเมื่อเริ่มไม่ค่อยรู้สึกว่ามีเครื่องเทศแล้ว ก็จะเปลี่ยนช่วงในการเข้าสู่ช่วงท้ายที่คราวนี้กลิ่นหนังที่มีติดกลิ่นโทนยางไม้เคล้าธูปหน่อยๆ ติดปร่านิดๆ อารมณ์แบบธูป Incense ที่สมดุลย์กำลังดี ทำให้หนังมีความเรียบหรู น่าค้นหา แบบอารมณ์แบบโซฟาหนังชั้นดีที่กลิ่นให้อะโรม่าของหนังกึ่งกลิ่นธูปเบาๆ มาคลอ โดยที่กลิ่นชาอู่หลงจะเริ่มมีความครีมมี่ติดไม้หอมนวลๆ แบบไม้จันทน์หอมเข้ามาเสริม และกลิ่นจะมีความหวานอ่อนๆ อย่างมีระดับแกมอยู่ด้วย อารมณ์กลิ่นเลยจะได้เป็นชาเจือกลิ่นครีมมี่ติดหวานหน่อยๆ มีความละเมียดแบบเรียบหรู ผ่อนคลาย และรื่นรมย์กำลังดีไปเรื่อยๆ ที่ถือเป็นการแบ่งภาคกลิ่นที่สอดรับกันได้ดีมากระหว่างโทนหนัง โทนชาอู่หลงติดดอกไม้ และโทนไม้หอมได้อย่างลงตัว

เหมาะสำหรับ - ได้หมดถ้าสดชื่น แลถ้าพื้นฐานชอบกลิ่นชาแนวกึ่งชาดำละมุนและ OK กับกลิ่นเครื่องเทศที่จะชัดหน่อยในตอนต้น ก็จะอินกับกลิ่นนี้ไม่ยาก เพียงแต่กลิ่นชาจะไม่ได้เด่น แต่มีให้จับต้องได้ตลอด เลยทำให้กลิ่นนี้เข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันทั้งทางการและทั่วๆ ไป เพราะกลิ่นสร้างแนวกึ่งชาดำเคล้าชาเขียวสไตล์อู่หลงแบบนี้สร้างออร่าความสงบและสุขุมได้ดีเลย ซึ่งจะใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งก็พอได้ แต่เปลืองไป และตัดการใส่เพื่อออกกำลังกายไปได้เลยไม่เข้าทาง ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่ออกงานหรือโรแมนติคก็ได้ เข้าได้หมด

ความทน - เกินคาดมาก เพราะตอนแรกคาดว่ากลิ่นคงไม่ได้จัดจ้านในเรื่องนี้ แต่ไม่ใช่เลย เพราะกลิ่นทนได้ถึง 15 ชม. เลยทีเจอสูงสุด อันนี้ต้องยกให้เลย ซึ่งถ้าตีเป็นค่าเฉลี่ยก็ 8 ชม. สบายๆ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะผ่อนลงมาปานกลางซักพัก แล้วที่เหลือคือออร่ารอบๆ ตัวยาวไป จนเมื่อพ้นซัก 8 ชม. กลิ่นจะออกทางติดผิวคงตัว

สรุป - ได้อารมณ์แบบเดินเข้า Tea House สไตล์จีนแนวฮ่องกง ที่จะมีตกแต่ด้วยเครื่องเทศที่หอมอะโรม่ามากกว่าจะฉุน เคล้ากลิ่นชาและแสงสว่างนวล ก่อนจะเดินเข้าไปในโซนนั่งดื่มชาที่มีกลิ่นชาติดดอกไม้หอมรุมๆ คลอ ซึมซับบรรยากาศแล้วนั่งลงบนเก้าอี้หนังชั้นดีจิบชาหอม ใส่นมติดครีมมี่ปนหวานเบาๆ ท่ามกลางวิวใน Tea House ที่เป็นสีออกทางเอิร์ธโทน ถือเป็นอีกหนึ่งกลิ่นชาที่น่าจดจำได้ดีมากจริงๆ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.basenotes.net/threads/481264-NEZ-1-1-fragrances-(Hongkong-Oolong-and-Folia)

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น