วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2564

Review: Bottega Veneta pour Homme Parfum

Bottega Veneta pour Homme Parfum

ก็งงตัวเองอยู่พอสมควรว่า การได้มาเจอน้ำหอมผู้ชายของ Bottega Veneta ดันไม่ได้เริ่มต้นที่รุ่น pour Homme เพราะดันมาเริ่มที่ตัว pour Homme Extreme ก่อน ซึ่งตัวต้นตระกูลเองทำได้แค่เพียงผ่านไปผ่านมาเทสเบาๆ ก็เล็งอยู่ไม่น้อยว่าวันนึงจะต้องได้ใช้เต็มๆ ซะที แต่

มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะดันได้มาเจอกับรุ่นล่าสุดของสายนี้เสียก่อนอย่าง Bottega Veneta pour Homme Parfum ที่มาในความเข้มข้นแบบ Eau de Parfum (คาดว่าน่าจะเป็นรุ่นสุดท้าย เพราะแบรนด์ไปเอาดีกับสาย Illusione แทนแล้ว) เช่นนั้นรุ่นต้นตระกูลไว้ค่อยว่ากันทีหลัง ขอมาเล่ากลิ่นจากการใช้งานรุ่น Parfum กันก่อนว่าจะเพิ่มความเข้มข้นออกมาอย่างไร และต่อยอดมาจาก Extreme มากขนาดไหน ก็ว่ากันได้แบบนี้เลย

เปิดต้นกลิ่นมาโทนสนไพน์ที่ค่อยไปทางยางสนติดเขียวเข้มปร่าจะพุ่งเข้ามาทักทายก่อนพร้อมกับกลิ่นออกทางกึ่งสมุนไพรเขียวใบไม้กึ่งโปร่งๆ ขรึมๆ ที่มีลักษณะแบบกึ่งกลิ่นไม้ซีดาร์ติดเขียวเนียนๆ อยู่ และจะจับต้องได้ถึงกลิ่นเขียวติดปร่ากึ่งเหล้าซ่าเล็กน้อยของจูนิเปอร์รองพื้นอยู่ด้วย ซึ่งมีลักษณะแนวเดียวกับรุ่น Extreme ที่เปิดตัวลักษณะเดียวกัน และเหมือนรุ่นปกติที่เคยลองผ่านๆ ด้วย ซึ่งถือเป็นลายเซ็นหลักของสาย pour Homme เลย แต่สิ่งที่มีสร้างความแตกต่างในช่วงเปิดของรุ่น Parfum คือ กลิ่นออกทางเครื่องเทศเย้าๆ หวานเผ็ดกึ่งเรซิ่นที่มีความกลางๆ ไม่ข้นหรืออุ่นเกินไปของเม็ดกระวาน ที่เข้ามาเสริม เลยทำให้ฉากหน้าที่เป็นกลิ่นสายเซ็นเดิม จะมีความดาร์กเย้าหวานเผ็ดเนียนๆ แบบกลิ่นมีความหนาและเข้มมากขึ้นชัดเจนจนจับต้องได้ ง่ายๆ เป็นกลิ่นแบบลายเซ็นของไลน์ แต่มีความเย้าเข้มขึ้นด้วยเครื่องเทศนั่นเอง

การเปลี่ยนแปลงในช่วงกลางจะชัดขึ้นเมื่อกลิ่นเริ่มมีโทนเขียวที่แน่นขึ้นแกมหวานเนียนๆ แบบปลายกลิ่น ที่น่าจะมาจากตัวยางสน Fir เนื้อกลิ่นเลยจะไม่ได้แตกต่างจากช่วงแรกมาก เพียงแต่จะรู้สึกเขียวแน่นขึ้นมาอีกสเต็ป แต่กลิ่นก็ไม่ได้หนักจนเกินไปเพราะมีความอะโรม่าตามสไตล์กลิ่นยางสนและไม้สนไพน์ที่กำลังดี Evergreen ชะอุ่มเข้มที่มีความปร่ามีเสน่ห์ได้ลงตัวมาก ที่สำคัญจะมีกลิ่นปร่าเผ็ดคลออยู่ตลอดเวลาแบบติดนุ่ม แต่มันจะมีอะไรซ้อนลงไปอีกให้รู้สึกได้ถึงโทนติด Animalic หน่อยๆ เป็นพื้นหลังของกลิ่นอยู่ และนี่แหละก็จะเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ จนจับต้องได้เลยว่าเป็นกลิ่นหนังที่เป็นอีกหนึ่งลายเซ็นสำคัญของน้ำหอมไลน์นี้ ที่จะมีความเข้ม ห่าม และดิบแบบที่ไม่ได้ดุดัน แต่ให้ความแมนมีเสน่ห์แบบติดเท่ห์ดาร์กแบบ Classic เข้ามาร่วมด้วย และกลิ่นโทนหนังนี่แหละที่จะปูทางไปสู่ช่วงท้าย

เมื่อกลิ่นหนังเริ่มแทรกตัวออกมาเด่นกว่าโทนกลิ่นไม้หอมติดปร่ายางไม้และเครื่องเทศเผ็ดๆ มากขึ้น และเริ่มมีโทนอวลเย้ากึ่งวานิลลาและมีความติดนวลเคล้าโทนอบอุ่นสไตล์แอมเบอร์เสริมเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ จนสร้างโทนกลิ่นในสไตล์ทันสมัยเนียนๆ ติดเย้ายวนอวลดึงดูดเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งจะมีความซับซ้อนของเนื้อกลิ่นที่สมดุลย์พอสมควรเพราะจะจับต้องได้ถึงกลิ่นหนังที่ติดห่ามแบบมีเสน่ห์ติดอวลแบบแมนๆ ที่มีความอบอุ่น และปลายกลิ่นเป็นกลิ่นออกทางไม้หอมอ่อนๆ ติดพิมเสนปร่าหอมระเรื่อที่เสริมลักษณะกลิ่นให้มีความเท่ห์และมีมิติที่มีชั้นเชิงปล่อย Sex Appeal สไตล์ผู้ชายร่วมสมัยได้อย่างชัดเจนมากในการเป็นช่วงท้ายของน้ำหอมรุ่นนี้ ซึ่งตรงนี้แหละที่ต่อยอดจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Extreme ได้ชัดเจนมากจริงๆ 

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยมหาลัยขึ้นไป จัดได้หมด ได้อารมณ์ผู้ชายเท่ห์ แมน มีระดับ อารมณ์ผู้ชายลุคติดเท่ห์ร้ายเนียนๆ ใส่แจ็คเกตหนังหรูๆ และมี Sex Appeal สูงมาก ประมาณนี้เลย ซึ่งใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบจำนวนสเปรย์เหมาะสม เพราะกลิ่นค่อนข้างหนาและอวลแบบสไตล์หนังกับปร่าไม้หอมเขียวดาร์ก เลยจะไม่ได้ดูเหมือน Nice ตั้งแต่ช่วงเปิดนัก โดยสามารถใส่ทำงานได้ ใส่ทั่วๆ ไปได้แบบเน้นกลิ่นเท่ห์มีเสน่ห์และมีระดับ แต่ให้ตัดการใส่เพื่อออกกำลังกายไปจะดีที่สุด ยกเว้นรอช่วงท้ายๆ อันนี้ได้อยู่ ส่วนยามค่ำคืนบอกเลย จัดไป กลิ่นเท่ห์มีเสน่ห์เฉพาะตัวมาก ยิ่งถ้าแต่งตัวลุคเข้ากับน้ำหอมยิ่งหล่อทางกลิ่นมากขึ้นไปอีกเลยล่ะ   

ความทน - 8 ชม. คือพื้นฐาน และไปต่อได้อีกแบบที่น่าประทับใจได้เลยถึง 12 - 15 ชม. อิงตามจำนวนสเปรย์และสภาพผิวกายผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีช่วงต้น แล้วจะค่อยๆ ลดลงมาเรื่อยๆ จนเมื่อเข้าช่วงท้ายก็จะเป็นออร่ารอบๆ ตัวสร้างเสน่ห์ชวนคลุกวงในกันยาวๆ ไป พอพ้นซัก 8 - 10 ชม. ก็จะค่อยๆ ลงมาติดผิว

สรุป - เป็นการต่อยอดที่เพิ่มความเข้มข้นขึ้นมาอีกสเต็ปจากรุ่น Extreme เพราะเพิ่มความเป็นหนังและความอวลลึกของยางไม้ในสายอบอุ่นมากขึ้นอีกสเต็ป และที่สำคัญตอบโจทย์กลิ่นอายน้ำหอมที่มีความเป็นโทนสมัยใหม่เข้ามาร่วมด้วยที่ต้องมีความเย้ายวนและมีเสน่ห์แทรกอยู่ตลอด ซึ่งจะไล่เรียงจากความ Classic ของไม้หอมกึ่งปร่าเขียวสู่ความเป็นหนังอวลลึกที่ทันสมัย เรียกว่าเป็นการต่อยอดที่ดีและมีเสน่ห์คุมโทนการเป็นกลิ่นหนังและสนไพน์ตามสไตล์ของ Bottega Veneta ได้อย่างไม่มีผิดเพี้ยน 

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.profumeria.com/en/bottega-veneta-bottega-veneta-pour-homme-eau-de-parfum-90-ml.html

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น