วันศุกร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2564

Review: Strangers Parfumerie - Scotch Peat

Strangers Parfumerie - Scotch Peat

ว่ากันด้วยเรื่อง “วิสกี้” ที่ดีที่สุดในโลก แน่นอนในหลายๆ ภูมิภาคจะเคลมกันสุดฤทธิ์ว่าของตัวเองเจ๋งขนาดไหน แต่ถ้าให้พูดถึงวิสกี้ที่ครองใจนักดื่มทั่วโลกมาอย่างยาวนาน ก็คงต้องยกให้ “สก๊อตวิสกี้” ที่เป็นหนึ่งในใต้หล้าเรื่องนี้มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่ผลิตออกมาทั้งแบบสาย Single เน้นแบบเพียวๆ บ่มจากโรงกลั่นเดียวไม่มีผสมวิสกี้อื่น กับ Blended เน้นผสมมากกว่า 1 ประเภทของวิสกี้ ซึ่งวิสกี้ประเภทนี้คนไทยจะรู้จักดี ก็พวก Chivas Regal หรือ Johnny Walker นั่นไง

และแน่นอนเสน่ห์ของการดื่มวิสกี้แบบแท้ๆ ที่ไม่ได้มี Mixer ทั้งหลายมาเกี่ยวข้องมันให้ความอะโรม่าและกลิ่นหอมที่สร้างความรื่นรมย์ได้อย่างงดงามในความรู้สึก ซึ่งกว่าจะได้วิสกี้มา 1 ขวด เรียกว่าต้องผ่านกระบวนการต่างๆ มากมายและ Strangers Parfumerie ก็ได้เอาความหอมกระบวนการที่ว่ามาแปลงร่างในการเป็นน้ำหอม โดยมี Concept ในการเล่ากลิ่นที่สื่อถึงโรงกลั่นวิสกี้และพื้นที่รายรอบที่มีวัตถุดิบสำคัญในการนำมาสร้างความหอมเฉพาะของวิสกี้อย่าง Peat หรือถ่านหินเลน ที่มาจากการย่อยสลายและทับถมกันของซากพืชที่มีมากเลยทีเดียวในแถบ Highland ของ Scotland เช่นนั้นจบการเกริ่นแต่เพียงเท่านี้ เข้าสู่กลิ่นกันเลยดีกว่ากับรุ่นนี้ Scotch Peat

ถ้าให้คำจำกัดความภาพรวมของกลิ่นจะเป็นการเจาะจงเฉพาะสภาพแวดล้อมที่มีกลิ่นวิสกี้ อารมณ์แบบทัวร์โรงงานกลั่นวิสกี้แบบเดินย้อนจากปลายสู่ต้นทาง โดยสิ่งที่เป็นการเปิดตัวกันอย่างชัดเจนในวูบแรกเลยคือ กลิ่นเหล้าวิสกี้บ่มที่ส่งกลิ่นหอมลอยออกมาทักทายก่อนอย่างแรก ซึ่งในเนื้อกลิ่นจะมีความซับซ้อนมากเลยทีเดียว เพราะจะมีลูกผสมของกลิ่นที่มีกลิ่นแนวผลไม้แห้ง น้ำผึ้งหน่อยๆ กลิ่นติดชอคโกแลตที่ไม่ดาร์ก แอบมีกลิ่นเครื่องเทศหวานแนวชะเอมหน่อยๆ เคล้ากับกลิ่นออกทางเปรี้ยวหมัก Malt ที่มีความ Smoky แต่อะโรม่านุ่มนวลสไตล์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แกมกลิ่นถังไม้โอ๊คที่มีความลุ่มลึกเข้ามาร่วมด้วย แบบที่เปิดมาถ้าไม่มาเจาะจงความซับซ้อนของกลิ่น ยังไงก็บอกได้เลยว่านี่คือกลิ่นวิสกี้หมักชั้นดีในถังบ่มได้ไม่ยาก แต่แค่นี้เป็นเพียงแค่มิติแรกของการดมเท่านั้นเอง เพราะว่ามิติกลิ่นต่อมาจะเป็นกลิ่นอายแบบ Earthy ติดชื้นๆ แบบโคลนหรือดินที่มีความอับหน่อยๆ เคล้ากลิ่นออกทางดินที่มีกลิ่นเขียวทึบแนวๆ Oak Moss กับพวกแนวพืชสมุนไพรที่มีมาจากการทับถมกันทำให้กลิ่นมีความเฉพาะออกมา ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวของกลิ่น Peat หรือถ่านหินเลนที่เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของการทำวิสกี้เนียนซ้อนลงไป ทำให้ช่วงต้นจะได้ความรู้สึกเหมือนเดินเล่นในโรงบ่มที่ได้กลิ่นวิสกี้กับถังไม้บ่ม เคล้ากลิ่นอับหน่อยๆ แบบกลิ่น Peat ที่มีเสน่ห์ตามธรรมชาติได้ดีมากจริงๆ

เมื่อกลิ่นวิสกี้เริ่มเบาตัวลงมาเป็นสายสนับสนุน ก็เดินเข้าสู่ช่วงกลางเต็มตัวที่กลิ่นจะเริ่มจับต้องได้ถึงโทน Earhty แบบติดดินๆ ที่มีความแห้งกึ่งชื้นอารมณ์กลิ่นแบบ Peat ที่ตามมาจากช่วงต้น เพียงแต่โทนติดชื้นๆ จะเบาลงไป มีความแห้งเข้ามาผสมผสายประปรายมากขึ้น แต่ไม่ใช่แค่นั้นเพราะจะมีกลิ่นโทน Smoky ติดควันที่ชัดเจนมาก อารมณ์แบบรมควันอะไรซักอย่างที่มีอะโรม่าเนียนๆ อารมณ์เปลี่ยนถ่ายจากโรงบ่มเดินเข้ามาที่โรง Kilning หรือการทำให้ Malt ไม่มีความชื้นด้วยการรมควันจากการเผา Peat ที่โดยทั่วไปจะมีทั้ง Peat แห้งและ Peat ชื้นในการสร้างอะโรม่าติด Smoky ของ Malt ให้มีความลุ่มลึกแฝงลงไปก่อนที่จะมีการหมักและกลั่น มิติกลิ่นจะคุมโทนด้วยกลิ่นควันไอที่ต้องยอมใจกันเลยว่าขนาดกลิ่นนี้ยังมีความซับซ้อน เพราะจะมีอารมณ์แบบกลิ่นควันเผาไม้ กลิ่นควันคล้ายไอน้ำมันดินแต่ติดเขียว กลิ่นเผาไม้ที่มีความปร่าเขียวแนวไม้สนหน่อยๆ และกลิ่นโทนอบอุ่นอวลลึกแนวยางไม้สายแอมเบอร์ ตามด้วยกลิ่นวิสกี้ที่เป็นสายสนับสนุนคลอในเนื้อกลิ่น แต่ถ้าไม่ได้เจาะอะไรมากนี่คือกลิ่นแนว Aromatic Smoky ที่คลอด้วยความเป็นวิสกี้อ่อนๆ อย่างลงตัวมาก

ช่วงท้ายโทนกลิ่นสาย Smoky จะเริ่มเบาลงแต่ยังกลิ่นติกผิวกายอยู่แบบพึ่งเดินออกจากสถานที่ Kilning มาแต่กลิ่นวิสกี้จะจางไปเหลือบางๆ ปลายกลิ่นเท่านั้น ก็จะได้อารมณ์แบบกลิ่นอายแห้งๆ ที่มีความเขียวติดหญ้าแห้งหน่อยๆ มีความ Earthy ติดเขียวเข้มแบบพื้นดินที่มีสมุนไพรแห้งๆ ติดหวานเบาๆ กลิ่นไม้แห้งสะอาดโปร่งๆ แต่จะมีโทนออกทางคล้ายแป้งหรือกลิ่นธัญพืชแซมอยู่หน่อยๆ แต่ก็มีกลิ่นหนังอารมณ์แบบแจ็คเกตหนังนิดๆ กับเขาด้วย ซึ่งภาพรวมกลิ่จะโปร่งขึ้น ไม่ Smoky จัดเท่าช่วงกลางแล้ว อารมณ์เลยจะได้ภาพในหัวแบบออกมานอกโรงกลั่นที่จะได้กลิ่นสภาพแวดล้อมที่มีกลิ่นข้าวบาร์เล่ย์ กลิ่น Peat กลิ่นลานหญ้า กลิ่นสมุนไพรแห้งๆ กลิ่นไม้หอมโปร่ง Flow เคล้ากลิ่นหนังเนียนๆ ซึ่งชัดเจนมากว่ากลิ่นนี้ คือ การนำเราเข้าไปดูงานโรงงานกลั่นวิสกี้ที่ได้ทั้งความเป็นธรรมชาติของกลิ่นที่ควรจะเป็นและได้ความรื่นรมย์อย่างมีชั้นเชิงที่ซับซ้อนอีกด้วย

เหมาะสำหรับ - เพราะเนื้อกลิ่นมาสายการถอดกลิ่นจากสภาพแวดล้อม เช่นนั้นเลยเข้าได้กับทุกเพศ เพียงแต่เนื้อกลิ่นจะมีความแมนอยู่พอสมควร ถ้าผู้หญิงใส่ก็จะดูเท่ห์ๆ หน่อย ซึ่งกลิ่นอาจจะไม่เข้าทางการใส่ยามทางการมากนัก เพราะแม้กลิ่นมันจะธรรมชาติและดู Cool ก็จริง แต่มันก็ไม่ได้ส่งเสริมแบบรับแขกบ้านแขกเมืองเท่าไหร่ เพราะกลิ่นเหล้านี่แหละ แต่ถ้าใส่ทำงาน Office อันนี้ได้อยู่แบบจำนวนสเปรย์เหมาะสม หรือถ้าใส่แบบทั่วๆ ไปอันนี้ได้เลยสบายมาก รวมถึงใส่ท่องราตรียามค่ำคืน ก็สร้างเสน่ห์ไม่เหมือนใครอีกด้วย แต่ให้ตัดได้เลยคือ ใส่ออกกำลังกาย มันไม่ได้และไม่เข้ากันเท่าไหร่ 

ความทน - ดีงามกันเลยทีเดียว กับพื้นฐานที่ 8 ชม. สบายมาก และไปต่อได้อีกถึง 15 ชม. เลยล่ะ เรียกว่าความทนนี่หายห่วงจริงๆ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น เรียกว่าเป็นวิสกี้ในโรงบ่มเหล้าที่มีกลิ่นอับทึบดินชื้นหน่อยๆ ที่มีเสน่ห์เลย แล้วจะลดลงมาปานกลางไปเรื่อยๆ ค่อนข้างเสถียรกันเลยทีเดียวไปจนถึงช่วงท้าย พอพ้นไปซัก 6 ชม. ถึงเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันยาวๆ ไป

สรุป - นี่คืองาน Site Visit โรงกลั่นวิสกี้จาก Malt ที่มีคุณภาพสูงมาก โดยถอดกลิ่นอายแบบย้อนกระบวนการได้อย่างลงตัวและน่าทึ่งมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะช่วงกลางที่ได้อารมณ์แบบกลิ่น Aromatic Smoky ที่เหมือนจะทำให้รู้สึกแบบกลิ่นควันเผาก็จริง แต่มันมีลูกเล่นที่สร้างความรื่นรมย์และมีความซับซ้อนมาเกินคาดจากการผสมผสาน อีกหนึ่งกลิ่นที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ 

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.facebook.com/strangersparfumerie

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น