วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

Review: Diptyque - Eau Duelle (Eau de Toilette)

Diptyque - Eau Duelle Eau de Toilette 

จากที่ได้ผ่านน้ำหอมต่างๆ ของแบรนด์ Diptyque ที่เน้นความอะโรม่าของกลิ่นเป็นที่ตั้งไม่ว่าจะเป็นการชูโรงกลิ่นกุหลาบอย่าง L’Ombre Dans L’Eau ชูโรงกลิ่นไม้จันทน์หอมอย่าง Tam Dao ชูโรงกลิ่นหญ้าแฝกอย่าง Vetiverio หนึ่งในกลิ่นมะเดื่อฝรั่งที่ดีที่สุดในโลกอย่าง Philosykos และอื่นๆ เรียกว่าต่างก็ชูโรงกลิ่นได้อย่างงดงามและน่าสนใจมากทุกกลิ่นโดยคุมโทนความรื่นรมย์ของกลิ่นได้เป็นอย่างดีมาเสมอ แต่

กลับแปลกใจตัวเองเพราะคลาดตลอดกับกลิ่นอายสายวานิลลาของแบรนด์นี้ที่ลองแล้วก็บอกว่า เอาแน่ๆ แต่ก็แถไถไปตัวอื่นก่อนเสมอ เช่นนั้นได้ฤกษ์ซะทีที่จะมาลงหลักปักฐานก็ต้องมาซึมซับกันซักหน่อยว่ากลิ่นวานิลลาของแบรนด์นี้จะเป็นอย่างไร กับรุ่นนี้เลย Eau Duelle

เปิดตัวส่งกลิ่นออกมาก็จับต้องได้ชัดเจนว่า “วานิลลา” คือศูนย์กลางของกลิ่นจริงๆ เพียงแต่จะไม่ได้เป็นวานิลลาสายขนม แต่ให้วานิลลากึ่งอะโรม่าของกลิ่นโทนคล้ายเหล้าจินที่ให้ความปร่าเจือเขียว และแอบมีความติดเผ็ดฝาดหอมเฉพาะของพริกไทยสีชมพูคลอสร้างความอะโรม่าร่วมด้วย แต่ไม่ได้มีแค่นี้ เพราะเนื้อกลิ่นจะมีลักษณะโทนออกทางยางไม้ติดเปรี้ยวกึ่งสนไพน์กึ่งพริกไทยกึ่ง Citrus ที่ปลายกลิ่นจะมีความสดชื่นติดเปรี้ยวที่น่าจะเข้าทางการเป็นลักษณะกลิ่นของยางไม้เรซิ่นที่สร้างโทนลูกควบ 3 ประสานแบบนี้อย่าง Elemi และที่สำคัญสัมผัสได้อีกอย่างคือ มีโทนออกทางเปรี้ยวขมบางๆ อ้อยอิ่งแบบสร้างบรรยากาศเจือสดชื่นอยู่ของมะกรูดฝรั่งอยู่ด้วย ซึ่งจะรวมตัวกันเป็นโทนกลิ่นออกทางวานิลลาติดปร่าอะโรม่าเคล้ายางไม้ที่มาเจือจางความเข้มข้นของวานิลลาที่ควรจะหนักข้นลงจนเป็นสไตล์ Lite Version แต่ยังคงความดีงามด้านความหอมที่ผ่อนคลายติดหวานอยู่ให้รู้สึกตลอด

การเปลี่ยนแปลงของกลิ่นเริ่มจะมีความหนาขึ้นมาอีกสเต็ปและมีความหวานเย้าของเม็ดกระวานที่เปิดตัวออกมาทีละหน่อย และเปลี่ยนเข้าสู่ช่วงกลางที่ความเป็นวานิลลาปร่ายางไม้อะโรม่าจะยังตามมาครบถ้วน ขาดอย่างเดียวคือความสดชื่นที่เริ่มจางไป กลายเป็นโทนกลิ่นที่แห้งขึ้นโดยที่ทุกอย่างยังคุมโทนความพอดีทั้งความปร่าติดยางไม้สนไพน์ ความปร่าเจือเขียวบางๆ ซ่าแบบเหล้าจิน ซึ่งการมาเสริมของกระวานที่ให้ความหวานเย้าแบบมีชั้นเชิงและพอเหมาะ ก็เปิดทางให้มีความอะโรม่าอื่นๆ ของกลิ่นชาดำเข้ามาสร้างความรื่นรมย์ในกลิ่นที่ให้ความฝาดเจือดาร์กติดซีทรูหอมลุ่มลึกแบบเนียนๆ ด้วย ซึ่งกลิ่นจะดำเนินไปซักพัก จะเริ่มรู้สึกได้เลยว่ากลิ่นมีความ Smoky มากขึ้นและมีไอออกทางควันคล้ายธูปติดเผ็ดนุ่มนวลที่เป็นลักษณะของ Frankincense มาแบบเนียนๆ แต่ไม่แย่งซีนเน้นสนับสนุนกำลังพอเหมาะ และมีกลิ่นกวานติขมเย้าอ่อนๆ ของเครื่องเทศอะไรบางอย่างมาบางๆ สร้างความน่าค้นหารวมอยู่ปลายๆ กลิ่นด้วย เลยทำให้ช่วงนี้กลายเป็นวานิลลาติด Smoky ที่มีความลงตัวให้ทั้งความหอมติดหวานเจือปร่าอะโรม่าเคล้ากลิ่นออกทางชาและธูปที่กำลังดีและให้ความรื่นรมย์มาก เรียกว่าเป็นช่วงที่วานิลลามีลูกผสมทางกลิ่นสนับสนุนต่างๆ ที่ลงตัวเรียบหรู และมีเสน่ห์ ซึ่งเมื่อกลิ่นดำเนินไปพอสมควร ช่วงท้ายก็เริ่มเข้ามาปรากฎเพราะจะจับต้องได้เลยว่ากลิ่นมีความหนามากขึ้นและความเป็นวานิลลาจะชัดขึ้นมากซึ่งคราวนี้แหละที่เป็นตัวเอกกันอย่างแท้จริง เพราะว่า จะให้กลิ่นอายที่ผ่อนคลายเจืออบอุ่น โดยได้ความหวานหอมเกือบจะเข้าโทนขนมที่คุมสมดุลย์ได้อย่างดี หอมติดแป้งอบอุ่นนวลเนียนและยังคุมโทนสะอาดสว่างเพราะมี Musk เข้ามาเสริม หอมอวลนวลอบอุ่นเพราะมีโทนออกทางคล้ายผิวกายติดเค็มอวลเสริมอยู่ เลยทำให้ช่วงท้ายคือวานิลลาที่ได้ครบเกือบจะทุกอารมณ์ แต่แม้ว่าจะขาดกลิ่นอายวานิลลาที่ออกทางขนม (ซึ่งดีแล้วที่ไม่ได้มีโทนนี้เท่าไหร่) แต่บอกเลยว่าทั้งหมดในช่วงนี้คือวานิลลาที่คุมโทนความงามทางกลิ่นที่เรียบหรูมีระดับและกลิ่นมีความอะโรม่าสูงมากจริงๆ

เหมาะสำหรับ - ทุกเพศวัยตั้งแต่มหาลัยขึ้นไปก็ใส่ตัวนี้ได้สบายมาก กลิ่นมีความผ่อนคลายแกมอวลอุ่นเรียบหรูที่ยกระดับผู้ใช้ได้ไม่ยากเลย ซึ่งจะเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป ช่วงแรกกลิ่นอาจจะพุ่งหน่อย แต่ที่เหลือคือความดีงามที่สร้างความหอมที่กำลังดีไม่หนักหน่วงเกินไป และกลิ่นนี้ใส่ยามค่ำคืนก็ได้ด้วยเช่นกันแบบเน้นการสร้างความประทับใจในสายอบอุ่นปนรื่นรมย์ ซึ่งจะใส่ออกงานหรือโรแมนติคก็ได้หมด แต่จะมีอย่างเดียวที่ไม่เข้าทางเท่าไหร่และตัดออกเถิดจะเกิดผลนั่นคือ ใส่เพื่อออกกำลังกาย เพราะมันไม่ได้และไม่ใช่เท่าไหร่ 

ความทน - กลิ่นทนลงตัวที่ 8 ชม. สบายมาก มีบวกลบที่ราวๆ 2 ชม. ตามแต่สภาพผิวและจำนวนสเปรย์ที่ใช้

การกระจาย - กลิ่นช่วงแรกจะกระจายดีพุ่งๆ ก่อน แล้วจะดรอปลงมาปานกลางแบบกำลังดี ก่อนจะลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวที่สร้างโทนสีนวลได้งามๆ และพอพ้นไปซัก 6 - 8 ชม. ก็ติดผิวจนจางไปในที่สุด

สรุป - พื้นฐานกลิ่นให้ความเรียบหรูมีระดับในอะโรม่าของวานิลลาสายสว่างค่อนทางสีครีมนวลแต่มีลูกเล่นกลิ่น Smoky และปร่ายางไม้เคล้ากลิ่นไม้สนไพน์ที่ลงตัวมาก ไม่แปลกใจเลยที่ใครๆ ก็ยกเอากลิ่นนี้มาเป็นอีกหนึ่งกลิ่นวานิลลาสายอะโรม่าผ่อนคลายที่ดีที่สุดในโลกอีก 1 กลิ่น

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.diptyqueparis.com/en_eu/p/eau-duelle-eau-de-toilette.html

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น