วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

Review: Issey Miyake - Fusion d’Issey

Issey Miyake - Fusion d’Issey

ถ้าไม่นับไลน์ที่อยู่มาอย่างยาวนานในสายน้ำหอมชายอย่าง L’Eau d’Issey pour Homme ที่ยังเป็นตัว Top ของแบรนด์ Issye Miyake มาเสมอ ไลน์น้ำหอมชายอื่นๆ ก็ทำได้ดีและได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น Nuit d’Issey จนติดลมบน และก็มาเป็นแฟลชไลท์ของ L’Eau Majeure d’Issey คราวนี้ก็ได้เวลาเปิดตัวใหม่ในปี 2020 อย่าง Fusion d’Issey  ที่ต้องมาดูกันว่าจะได้ต่อยอดในการเป็นอีกไลน์ของน้ำหอมชายของแบรนด์ที่จะอยู่ยืนยงกับเขาด้วยหรือไม่ 

แต่เพื่อไม่ให้เสียเวลารอเพราะของแบบนี้ต้องดูกันนานๆ ว่าจะเป็นยังไง ก็มาว่ากันที่เรื่องกลิ่นก่อนดีกว่าว่ากลิ่นนี้พอจะเป็นทิศทางใหม่ของแบรนด์ได้ดีมากน้อยแค่ไหน

Fusion d’Issey เปิดตัวมาได้โดดเด่นมากกับกลิ่นน้ำมะพร้าวเจือความเปรี้ยวติดสดชื่นของเลมอนที่ให้ความเปรี้ยวเนียนๆ ในเนื้อกลิ่น แต่ไม่ได้มีเพียงแค่นี้เพราะว่ารุ่นนี้พกมะเดื่อฝรั่งมาด้วย ซึ่งจะให้โทน Milky ติดปร่าเขียวกำลังดีให้อารมณ์น้ำมะพร้าวติดนมๆ เขียวทึบเนียนๆ ได้อย่างน่าสนใจมาก และเปิดตัวได้เป็นเอกเทศของตัวเองแบบที่ไม่เอาลายเซ็นสาย Citrus เดิมๆ มาเด่นให้เกินหน้าแต่อย่างใด เน้นเป็นสายสนับสนุนที่ให้ความสดชื่นติดเปรี้ยวให้จับต้องได้แทน และในวูบถัดมาจะจับต้องได้เลยถึงกลิ่นเครื่องเทศสาย Fresh Spicy ที่ให้ความาปร่าสมุนไพรติดเขียวอย่างโรสแมรี่เสริมขึ้นมาชัดเจนมากขึ้น เลยทำให้กลิ่นในช่วงต้นเปิดตัวด้วยความเป็นน้ำมะพร้าวติดเขียวมะเดื่อแน่นๆ ให้ความ Tropical ติดโทนแมนชัด และมีความสดชื่นติดเลมอนเจือชัดเจนและกระจายตัวรอบทิศกันได้เลยทีเดียว

แน่นอนว่ากลิ่นน้ำมะพร้าวกับเขียวนมของมะเดื่อยังคงตามมาเด่นในช่วงกลางด้วย โดยจะมาตีคู่กับกลิ่นโทนไม้หอมที่มีความอวลติดครีมมี่นวลๆ อย่างไม้จันทน์หอมที่กลิ่นจะสอดรับกันได้อย่างลงตัวมาก เพราะกลิ่นไปในทิศทางเดียวกันและส่งเสริมกันได้เป็นอย่างดีจริงๆ ซึ่งเนื้อกลิ่นจะเป็นน้ำะพร้าวติดเขียวปร่านมที่หวานปลายกลิ่นเสริมด้วยกลิ่นไม้นวลๆ และมีกลิ่นติดเค็มๆ กึ่งจะอบอุ่นก็จะได้อารมณ์ติดอวลเสียมาก ซึ่งเดาไว้ก่อนเลยว่าเป็นกลิ่นแนวสารหอมอย่าง Ambroxan ที่จะมาแบบนี้เพียงแต่ไม่ได้มาเข้มหนักเกินไป เพราะมาแบบสร้างความอวลอย่างสมดุลย์รองพื้นเสียมากกว่า โดยมีกลิ่นสายสมุนไพรอย่างโรสแมรี่ที่สร้างโทน Aromatic ติดสมุนไพรและมีกลิ่นออกทางคล้ายน้ำแช่ก้านกุหลาบของเจอราเนียมมาเสริม รวมถึงกลิ่นออกทางหินแร่ธาตุสร้างโทนกลิ่นสไตล์ผู้ชายแมนๆ มีความอวลกำลังดีเสริมได้อย่างพอเหมาะ เลยทำให้ช่วงกลางเรียกว่าเป็นช่วงที่เป็นไฮไลท์ที่สร้างโทนกลิ่นผู้ชายที่เอาโทนลายเซ็นแบบ Issey Miyake ค่อนไปทางโทน L’Eau Bleue d’Issey ที่เด่นกับโทนสมุนไพรรองพื้นด้วยไม้หอม เพิ่มเติมกลิ่นมะพร้าวผสมมะเดื่อให้ความ Tropical ติด Milky เขียวๆ ตามด้วยใส่ความ Modern ทันสมัยในเนื้อกลิ่นเข้าไปด้วยจาก Ambroxan ยอดฮิตของยุค 2010 - 2020 ที่ดึงดูดเย้ายวนเนียนๆ เรียกว่าแตะความโดดเด่นทุกทางในการใช้งานน้ำหอมของแบรนด์นี้ได้เลย

และเมื่อกลิ่นดำเนินไปเรื่อยๆ ความเป็นโทนมะพร้าวกับมะเดื่อจะลดลงเรื่อยเหลือเพียงปลายกลิ่นเนียนๆ ไปกับไม้จันทน์หอมแทน และมีความนุ่มติดเค็มกำลังดีคล้ายผิวกายเจือกลิ่นไม้หอมติดโปร่งๆ ที่แน่นอนว่า Ambroxan ชัดเจน เพียงแต่กลิ่นจะนุ่ม ไม่ได้ออกทางไม้หอมอบอวลอุ่นหนักๆ หรือติดเค็มจนติดคาวแต่อย่างใด กลิ่นโดนเกลาอย่างงามๆ เพราะ Effect ของมะพร้าวและมะเดื่อที่ยังให้ความครีมมี่นวลอยู่ รวมถึงมีโทนไม้หอมติดโปร่งๆ กำลังดีเคล้าความปร่าหวานอ่อนๆ ของพิมเสนที่มาเป็นสายสนับสนุนประปรายในเนื้อกลิ่น เลยทำให้ช่วงท้ายเป็นโทนกลิ่นที่สบายๆ หอมติดนวลๆ อบอุ่นกำลังดี ได้อารมณ์ Nice Guy ผ่อนคลายหอมแบบเข้าถึงได้ง่ายลงตัว

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใช้งานตัวนี้ได้สบายมาก กลิ่นให้ความทันสมัยมากได้ทั้งความสดชื่น ความอวลมีเสน่ห์ และความเย้ายวนของไม้หอมในการเป็นน้ำหอมผู้ชายที่ลงตัว ซึ่งได้หมดกับทุกสถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป และได้กับทุกสภาพอากาศอีกด้วย เพียงแต่ลดหลั่นกันไปถ้าร้อนก็คุมให้กำลังดี ถ้าเย็นก็เพิ่มสเปรย์ได้ รวมถึงกลิ่นนี้ใช้ท่องราตรีก็ได้ด้วยเพียงแต่ต้องเพิ่มสเปรย์หน่อย ยังไงก็รอดได้สบายมาก แต่ถ้าไปเจอกลิ่นแน่นๆ แอมเบอร์หนักๆ หรือสายหวานเรียกร้องความสนใจก็เหนื่อยหน่อย

ความทน - เกินคาดที่ 12 ชม. กลิ่นยังอยู่ เรียกว่าความทนทำได้ดีมากจริงๆ ซึ่งถ้าตีค่าเฉลี่ยยังไงก็เกิน 8 ชม. สบายมาก

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมาในตอนต้นแล้วจะค่อยๆ ลดลงมากระจายดีประมาณ 2 -3 ชม. แล้วจะค่อยๆ ลดลงมาปานกลาง ไปพอพ้นซัก 6 - 8 ชม. ก็จะกลายเป็นออร่ารอบๆ ตัวไปเรื่อยๆ ส่วนจะจางตอนไหนขึ้นอยู่กับผิวผู้ใช้เป็นสำคัญด้วย

สรุป - เรียกว่ามาใหม่กับอีกทิศทางของกลิ่นที่มีความทันสมัยและตอบโจทย์การใช้งานน้ำหอมชายในยุค 2020 มาก แถมยังเข้าถึงได้ง่ายเกินคาดอีกด้วย ถือว่าสร้างสรรค์ออกมาได้ลงตัวอีกหนึ่งกลิ่น ที่คาดหวังว่าจะอยู่กันไปนานๆ เช่นเดียวกับต้นตระกูล L’Eau d’Issey pour Homme ซึ่งก็ขอให้เป็นเช่นนั้น

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.fragrantica.com/news/Issey-Miyake-Fusion-d-Issey-13809.html

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น