วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

Review: Mancera - Amber Fever

Mancera - Amber Fever

หลังจากเกิดกระแสความฮิตติดลมบนกับกลิ่นอายหวานลึกมีเสน่ห์เย้ายวนของ MFK - Baccarat Rouge 540 (จะเรียกว่า BR540 หลังจากนี้) หลังจากนั้นก็จะมีน้ำหอมในสไตล์เดียวกันออกตามๆ กันมาเยอะมาก บางทีก็เป็นการต่อยอดให้มีอะไรมากขึ้นและมีความเป็นสไตล์ของแบรนด์นั้นๆ รวมถึงก็ไม่ได้ออกมาตามเขาหรอก แต่โทนกลิ่นดันไปใกล้เคียงบางส่วน คนก็จับมาเทียบกันให้วุ่นวายกันไปหมด ซึ่งหนึ่งในแบรนด์ที่โดนไปจับเทียบหลายรุ่นไม่น้อยว่ามีโทนคล้ายคลึงมากนั่นก็คือ Mancera ซึ่งก็เรียกว่า โดนไป 3 รุ่นกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Precious Oud, Instant Crush และ Amber Fever

เช่นนั้น ทยอยๆ จับมาเล่ากลิ่น เลยขอมาเปิดกันก่อนกับรุ่นที่มีโอกาสได้จับต้องก่อนเลยจาก 3 กลิ่นที่กล่าวไว้ข้างต้น นั่นก็คือ Amber Fever มาดูกันหน่อยซิ ว่าจะเป็นอย่างไร

เปิดตัวด้วยวิสกี้มาชัดเจนมาเลย ซึ่งกลิ่นจะหอมออกทางเหล้าวิสกี้ที่ฟุ้งออกมาแกมโทนหวานคาราเมลกึ่งไซรัปฮาเซลนัทหอมที่ซ้อนอยู่อย่างชัดเจน เพียงแต่กลิ่นไม่ได้ไปสายหวานข้น ยังมีความโปร่ง และมีโทนที่มีมิติให้จับต้องได้ว่าไม่ได้ใสโหวง มีความลึกในกลิ่นในสไตล์ของเหล้าวิสกี้พอสมควร และในวูบถัดมาจะมีกลิ่นออกทางติดโทนคล้ายหญ้าแห้งปลายหวานเจือเขียวนิดๆ ที่พอมาจับกับคาราเมล มันคล้ายถั่วตองก้าเข้ามาเสริมด้วยทำให้กลิ่นมีความหนาอวลในเนื้อกลิ่นขึ้นมาหน่อยนึง จนเมื่อดมเข้าไปใกล้ผิวจะจับได้ถึงโทนออกทางคล้ายไม้หอมกึ่งถั่วที่รองพื้นกลิ่นอยู่ เรียกว่ากลิ่นเปิดมามีมิติที่น่าสนใจมาก ในการเล่นโทนออกทางเจ้าเสน่ห์ดึงดูดของวิสกี้ที่มีความลุ่มลึกกำลังดีเสริมด้วยโทนหวานหอมต่างๆ และเพิ่มความอวลหนาของกลิ่นทีละหน่อยๆ ซึ่งบอกตรงๆ ว่า ช่วงนี้ถ้าดมเผินๆ อาจจะไพล่ไปเหมือนกับ BR540 ได้ แต่ถ้าพินิจพิเคราะห์จริงๆ เนื้อกลิ่นมันไม่ได้เหมือนขนาดนั้น มันมีโทนเย้าและเจ้าเสน่ห์แนวสมาร์ทเจือหวานเรียกแขก โดยไม่ได้ไปทางโทนสีแดงชาดผลึกลึกกึ่งน้ำตาลไหม้แบบรุ่นดังที่ว่าแต่อย่างใด 

การเปลี่ยนแปลงจะเริ่มชัดขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าโทนกลิ่นวิสกี้แกมคาราเมลยังคงเด่นเป็นสง่าในการเดินกลิ่นหลัก แต่เนื้อกลิ่นจะมีความแห้งเข้าทางโทนแป้งกึ่งไม้หอมแกมอบอุ่นมากขึ้นตามลำดับ ซึ่งตัวที่มาแบ่งเค้กโชว์ซีนเด่นอีกหนึ่งนั่นก็คือ กุหลาบที่มีลูกผสมแบบโทนแป้งหอมดอกไม้มาสนับสนุน ทำให้กลิ่นในช่วงนี้มีความหนาและอวลแบบที่ไล่เลเยอร์ได้น่าสนใจเริ่มจากวิสกี้หวาน ตามด้วยแป้งกุหลาบหอมสนับสนุน ก่อนจะจับความหนาของกลิ่นในสเต็ปรองพื้นกลิ่นของไม้หอมติดแน่นปนอบอุ่นแกมโทนแอมเบอร์ที่เข้าทางวานิลลาหน่อยๆ ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นช่วงที่กลิ่นมีพลังในการปล่อยของได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้ช่วงแรกที่เปิดตัวมาก็เรียกแรกเจ้าเสน่ห์เลย แต่อารมณ์กลิ่นในช่วงนี้จะเปลี่ยนมาเป็นอบอวลแทน โดยที่จะได้ทั้งความเจ้าเสน่ห์แกมหวานเช่นเดิม เพิ่มเติมความเย้ายวน และความมีพลังที่ชัดเจนในพื้นฐานกลิ่นไม้หอมที่ตรึงให้กลิ่นไม่ลดราวาศอกในการสร้างบาเรียกลิ่นหุ้มรอบกายแบบสายสตรองและเป็นระดับ 1 เมตร กันเลย

เมื่อโทนกลิ่นเริ่มมีความผ่อนตัวลงมาทำให้โทนไม้หอมที่ออกทางแนวไม้ที่มีกลิ่นอวลพอสมควรและแอบมีโทน Smoky หน่อยๆ แบบฝังในเนื้อไม้เคล้าโทนอบอุ่นของแอมเบอร์เริ่มแทรกตัวออกมาแต่ก็ไม่ได้ถึงกับเด่นจนดึงซีนไปหมด เพราะว่ากลิ่นในช่วงกลางยังคงมีอิทธิพลชัดเจนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นวิสกี้แกมหวานที่เบาลงมาพอสมควร กลิ่นแป้งกุหลาบที่ยังมีให้จับต้องได้ แต่กลิ่นจะให้อารมณ์ลักษณะโทนอบอุ่นดึงดูดแทน โดยที่มีโทนแกมนวล Musk มาเสริมให้พื้นกลิ่นแบบติดผิวมีความนุ่มมากขึ้นด้วย โดยภาพรวมมิติกลิ่นไม่ได้แตกต่างจากช่วงกลางมากนัก เพียงแต่ลดทอนความอวลแป้งติดหวานคาราเมลแกมวิสกี้ลงไปพอสมควร ดันให้กลิ่นไม้หอมติดแน่นและมีความนวลปนอบอุ่นหน่อยๆ ขึ้นมาทำหน้าที่คุมโทนหลักเด่นกันยาวๆ ไปแทน อารมณ์กลิ่นเลยให้ความเป็น Woody สายสมาร์ทและเจ้าเสน่ห์ชวนซุกเนียนๆ โดยคุมโทนกลิ่นแบบวางตัวดี ไม่ได้ดูพยายามกันยาวๆ ไป 

เหมาะสำหรับ - Unisex ชัดเจนตอนต้นเลย แล้วช่วงกลางจะไพล่ไปทางผู้หญิงมากกว่าบ้างเล็กน้อยๆ แล้วสลับกลับมาไพล่ไปทางผู้ชายมากกว่าเล็กน้อยอีกทีในช่วงท้าย เลยเรียกว่าใส่เถอะได้หมดทุกเพศ ซึ่งเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบที่จำกัดจำนวนสเปรย์ เพราะถ้าเผลอหนักมือเรียกว่าถึงขั้นตึ้บเอาได้ เพราะกลิ่นมีพลังความแน่นและแผ่กระจายเต็มที่มาก ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับงานทางการจัดๆ นัก แต่ถ้าใส่ทำงาน Office อันนี้ได้อยู่แบบตามความเหมาะสม หรือจะเอาไว้ใส่แบบทั่วๆ ไปก็สบายมาก ยกเว้นใส่เพื่อกิจกรรมลุยๆ หรือว่าออกกำลังกาย ลามไปถึงยามค่ำคืนที่ใส่ออกงาน โรแมนติค หรือท่องราตรีเรียกว่ากวาดหมดและปล่อยเสน่ห์ได้ดีมากด้วย

ความทน - อันนี้แหละสุดติ่งจริงอะไรจริง เพราะว่า 15 ชม. กลิ่นยังตีขึ้นให้รับรู้ แถมอาบน้ำก็แล้ว กลิ่นยังติดผิวพอขยับตัวก็ยังตีขึ้นเป็นกลิ่นไม้อวลๆ อวลแบบไม่หนักมากอยู่ แต่พอตื่นเช้ามาก็จับไม่ค่อยได้แล้ว นี่แหละความสุดของกลิ่นนี้ล่ะ  

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากและคงตัวยาวไปราวๆ 2 ชม. ได้เลย ก่อนที่จะลดลงมาเป็นกระจายดีที่แบบสร้างบาเรียรอบตัวราว 1 เมตรอยู่ดี จนถึงราวๆ 6 ชม. ถึงผ่อนลงมาเป็นปานกลาง แล้วเป็นออร่ารอบๆ ตัวเมื่อผ่านไปซัก 12 ชม. แล้ว ซึ่งนี่ก็เรียกว่าเป็นความสุดติ่งอีกหนึ่งได้เลย

สรุป - ถ้าจะมีติดก็มีนิดหน่อยที่ชื่อรุ่นว่า Amber Fever ก็จริง แต่ความเป็น Amber มันแค่เป็นตัวสนับสนุนชั้นดีแนวแทรกซึมเสียมากก็เท่านั้นเอง แล้วเหมือน BR540 ไหม? มันก็มีลูกเอื้อนอยู่บ้าง แต่ไม่ได้มากเลยถ้าเทียบกับความเป็นโทนที่ฉีกออกไปเป็นไม้หอมอวลฉาบด้วยวิสกี้เคล้าคาราเมล แล้วรองรับด้วยโทนแป้งที่มีเสน่ห์ ซึ่งถือว่าเป็นเอกเทศเลยก็ว่าได้ แถมมีความดีงามในความทรงพลังและการกระจายที่ยอดเยี่ยมมากเสียด้วย

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.fragrantica.com/news/Mancera-Amber-Fever-12968.html

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น