วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

Review: Mandarina Duck - Resort Lovers

Mandarina Duck - Resort Lovers

จาก Freedomland ที่เน้นกลิ่นอายการท่องเที่ยวไปยังเทศกาลดนตรีต่างๆ มีความเป็นฟรุตตี้ค็อกเทลที่เข้าทางกลิ่นอายสายปาร์ตี้ ก็ได้เวลาของการเข้าสู่การท่องเที่ยวในรูปแบบอื่นๆ ที่แบรนด์ Mandirina Duck จะมานำเสนอใน Collection - The Duckers เพิ่มเติมซึ่งคราวนี้เราจะไม่เน้นที่ท่องปาร์ตี้ เพราะเอาจริงๆ การไปเที่ยวไม่ใช่ก็เอะอะก็ออก Activities แต่จะมาเน้นการพักผ่อนและความผ่อนคลายอยู่ในแต่ Resort เข้าสปา รับความอะโรม่า และชมนกชมไม้นอนนิ่งๆ อ่านหนังสือแทน

เช่นนั้น กลิ่นอายที่มีแรงบันดาลใจจากการไปท่องเที่ยวแล้วพักผ่อนอยู่กับ Resort ในการทำสปา การชิลล์นอนเล่นท่ามกลางต้นไม้ดอกไม้ในที่พักในบาฮามาสอย่าง Resort Lovers ที่แบรนด์ได้สร้างสรรค์ขึ้น จึงได้มาเป็นหนึ่งใน Collection - The Duckers ที่พร้อมจะเล่ากลิ่นในครั้งนี้นั่นเอง

Resort Lovers เปิดตัวมาในแบบที่ชัดเจนตั้งแต่แรกเริ่มในการเป็นกลิ่นโทน Woody Floral Musk ที่มีพื้นฐานกลิ่นในการเป็นโทน Powdery - แป้ง Soapy - สบู่ และ Musky - สายนุ่ม ชัดเจนมากตั้งแต่แรกเริ่มอารมณ์แบบสบู่อบอวลกึ่งโลชั่นกึ่งแป้งหอมนวลฟุ้งจะเข้ามาทักทายก่อนเลยและจะเป็นโทนกลิ่นที่อยู่กันอย่างยาวๆ ยั้งยืนยงตั้งแต่ต้นยันจบ ซึ่งในช่วงเปิดแน่นอนความเป็นโทนกึ่งสบู่แกมโลชั่นกลิ่นชัดๆ ที่ฟุ้งออกมาก่อนเลย กับการเป็นโทนแนว Aldehydes แต่โดนเกลากลิ่นจากใบไวโอเล็ตให้มีความเขียวติดหวานกึ่งแตงกวาที่มีความเป็นโทนค่อนไปทาง Aquatic หน่อยๆ เสริมด้วยกลิ่นออกทางสร้างบรรยากาศเปรี้ยวเจือขมของมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) เลยจะได้อารมณ์แบบสบู่ฟุ้งอวลกึ่งโลชั่นแนวเขียวเจือน้ำแตงกวาเล็กๆ ติดขมหอมที่สว่างๆ รองพื้นด้วยความนวลแบบโลชั่นที่กลิ่นชัดๆ พอสมควร ซึ่งช่วงนี้อาจจะไม่ได้ถึงกับนุ่มจมูกนัก เพราะยังมีความประดังประเดดันอยู่พอสมควรแบบอารมณ์คล้ายเราได้กลิ่นวูบแรกจากพวกโลชั่นทาตัวครั้งแรกเวลาเรากดมาใช้แล้วลูบไล้ตามตัวกลิ่นมันจะฟุ้งชัดกว่าปกติ แล้วซักพักเราจะปรับจมูกได้แล้วชินกับมันประมาณนั้น

ช่วงกลางเนื้อกลิ่นจะเริ่มเปลี่ยนลดทอนความประดังประเดลง โทนกลิ่นติด Aquatic ของใบไวโอเล็ตจะเหลือประปรายที่ยังให้โทนสว่างแกมสดชื่นติดชื้นๆ เล็กๆ ซึ่งภาพรวมกลิ่นจะมาสาย Powdery แป้งหอมนวลมากขึ้น ซึ่งจะมีความหวานของโทนดอกไม้เข้ามาสอดรับพอดีซึ่งมีกลิ่นออกทางกึ่งมะลิใสๆ ของดอกกระดิ่งหรือ (lily-of-the-valley) เคล้ากับกลิ่นติดหวานหอมปร่ารื่นจมูกนิดๆ มีความอวลกำลังดีที่เป็นลูกผสมระหว่างกลิ่นออกทางกุหลาบและดอกไม้เหลืองหน่อย ซึ่งแน่นอนว่าช่วงนี้กลิ่นจะมีโทนขาวสว่างรื่นรมย์นุ่มเจือหวานให้ความเป็นโทนที่เรียบง่ายไม่ได้จัดจ้านนัก และยังมีลักษณะแบบกึ่งสบู่กึ่งโลชั่นอยู่บ้าง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลในช่วงนี้ได้อารมณ์แนวๆ สปากลิ่นดอกไม้ผ่อนคลายแบบที่ลดความชัดเจนจากช่วงต้นลงมาให้เราจับความหอมนวลหวานแกมกลิ่นแป้งที่สร้างความละมุนจมูกที่กำลังดี แน่นอนไม่ได้หวือหวาแต่มีความรอดและหอมอวลที่กำลังดีไปตลอดแบบที่คนที่ชอบโทนออกทางแป้งและโลชั่นหอมดอกไม้กึ่งสปาโดยตกได้ไม่ยากเลย

การเข้าสู่ช่วงท้ายจะลดทอนกลิ่นโทนแป้งกึ่งโลชั่นในช่วงกลางลงไปมากเลยทีเดียว จนกลายเป็นกลิ่นอายโทน Musky กับ Woody เป็นตัวเดินกลิ่นแบบที่ไม่ได้ซับซ้อนมาก เนื้อกลิ่นจะมีพื้นฐานของการเป็นโทน Musk ที่สะอาดรองพื้นชัดเจน แต่มีมิติกลิ่นที่ออกทางกึ่งนวลครีมมี่แกมกลิ่นกึ่งแป้งวานิลลาอ่อนๆ ที่เป็นสไตล์ของถั่วตองก้าเข้ามาร่วมด้วย แต่จะมีไม้หอมแห้งๆ มาตัดทอนให้กลายเป็นโทน Woody แบบตีคู่กันไป เรียกว่าคุมสมดุลย์ตรงกลางพอดีที่จะได้โทนไม้หอมแกมกลิ่นพิมเสนหน่อยๆ เคล้าโทนแป้งหอมอ่อนๆ และ Musk ที่นุ่มนวลสะอาดกำลังดี กลิ่นจะให้ความตรงไปตรงมาแบบที่ให้ความเรียบง่ายและผ่อนคลายแบบที่มีระดับและเรียบหรูในทีอยู่ด้วย ถือเป็นการปิดท้ายกลิ่นอายสไตล์พักผ่อนชิลล์ๆ ไม่ต้องเยอะสิ่งได้อย่างลงตัว  

เหมาะสำหรับ - กลิ่นลงไว้ว่า Unisex ซึ่งก็ใช่เลย แต่จะค่อนไปทางผู้หญิงมากกว่าหน่อยนึงเพราะโทนแป้งที่ออกทางกลิ่นติดหวานอวล แต่ยังไงผู้ชายก็ใช้ได้สบายมาก เพราะช่วงท้ายมันคืความเป็นกลางอย่างมากที่สุดจริงๆ ซึ่งกลิ่นเข้ากับแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป เพราะเป็นกลิ่นสายนวลอวล้อมกรอบรอบตัวแบบไม่หนักหน่วง แต่ให้ตัดการใส่แบบกิจกรรมลุยๆ และออกกำลังกายจะดีที่สุด เพราะว่ากลิ่นไม่ได้เข้าทางกิจกรรมพวกนี้ (ก็มาสายพักผ่อนทำสปาชิลล์ๆ นี่นะ) ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่ทั่วๆ ไปจะดีที่สุด รวมถึงใส่ออกงานพอได้อยู่

ความทน - กลิ่นทนราวๆ 8 ชม. มีบวกลบราว 2 ชม. อิงตามจำนวนสเปรย์และสภาพผิวกายผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งส่วนเจอเป็นเรื่องปกติกับ 8 ชม.

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะผ่อนลงมากระจายปานกลางราวๆ 2 ชม. ที่เหลือคือมุ้งมิ้งกับตัวเองแบบออร่ารอบๆ ตัวไปเรื่องๆ จนเมือ่ผ่านชั่วโมงที่ 6 ไปแล้ว คือ Skin Scent ชัดเจน 

สรุป - การใช้กลิ่นนี้ต้องตัดความรู้สึกแนวสปาแบบไทยหรือแบบพวกบาหลีไปเสียก่อน เพราะมันจะไม่ได้ออกแนวอัดยัดดอกไม้ขาวและมีพวกมะพร้าวซันแทนมาก่อกวนอะไรเลย แต่จะออกทางกลิ่นอวลๆ ติดแป้งกึ่งโลชั่นดอกไม้เสียมากกว่าที่อารมณ์แบบนวดตัวด้วยโลชั่น หรือน้ำมันหอมระเหยที่ไม่ได้แรงมากแนวๆ นั้น และเอาจริงๆ กลิ่นนี้มันไม่ได้หวือหวานะออกแนวจะเรียบง่าย ซึ่งเป็นเรื่องดีมากกับการจับเอากลิ่นนี้เข้าในโซน #ของดีเทคนิคไม่ต้อง ในการเป็นน้ำหอมโทนแป้งแกมโลชั่นหอมนวลหวานได้เลยล่ะ  

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.fragrantica.com/news/Mandarina-Duck-The-Duckers-Into-The-Jungle-Resort-Lovers-and-Freedomland-13704.html

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น