วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

Review: Mancera - Precious Oud

Mancera - Precious Oud

ในปี 2019 แบรนด์ Mancera เองปล่อยน้ำหอมออกมาเยอะเชียว 8 กลิ่นแบบที่มาหมอทั้งโซน Collection ปกติและ Collection ที่วางจำหน่ายเฉพาะที่ ซึ่งแน่นอนว่าในนั้นต้องมี Oud เพราะถ้าไม่มีก็ไม่น่าใช่แบรนด์นี้ ซึ่งก็ไม่ได้ปล่อยความเป็น Oud ออกมาเพียงรุ่นเดียว (ก็เอาดีทางนี้จะมาเม้มแค่ตัวเดียวคงไม่ได้) ซึ่งก็มาถึง 2 รุ่น คือ Crazy for Oud (ผ่านการเล่ากลิ่นไปแล้วก่อนหน้านี้) และ Precious Oud

เช่นนั้นเพื่อให้ครบถ้วนในการเป็นแพ็คคู่ที่ออกมาในปีดังกล่าว เราก็ต้องเล่ากลิ่นให้ครบเพื่อจะได้รู้ว่า Mancera ตีความ Oud แบบสไตล์ล้ำค่าออกมาอย่างไร นอกจากที่หลงละเมอเพ้อพกกับ Oud ใน Crazy for Oud ไปแล้วในก่อนหน้านี้

Precious Oud เปิดต้นกลิ่นมาก็มาสาย Fruity แนวๆ ไซรัปกึ่งวิสกี้ที่พุ่งวูบขึ้นมาได้อารมณ์แนวๆ กลิ่นไซรัปที่ทำลูกอมสีแดงหอมหวานแนวฮาร์ทบีทหรือโอเล่ที่มีโทนเปรี้ยสติดขมเล็กๆ ของมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) เสริมอยู่ด้วย ซึ่งมาพอมาเคล้ากับโทนเหล้าวิสกี้เลยทำให้ได้อารมณ์แบบกึ่งลูกอมกึ่งไซรัปในวิสกี้มาเลย ซึ่งกลิ่นมาสายเย้ายวนแบบเปิดตัวชัดเจนเรียกแขกกันเต็มๆ และสามารถสร้างรอยยิ้มให้คนที่ชอบกลิ่นอายสายหวานเย้าได้ดีมาก แต่ในวูบถัดไปจะเริ่มจับต้องได้ถึงกลิ่นอายกึ่งไม้หอมติดอวลกึ่งโทนออกทางชีสหน่อยๆ ในเนื้อกลิ่นซึ่งเป็นสไตล์ของกลิ่น Laotian Oud ที่เป็นไม้กฤษณาจากลาว จะให้โทนลักษณะชีสซี่แบบนี้ เริ่มเข้ามาแทรกซึมในเนื้อกลิ่น พร้อมกับมีกลิ่นติด Animalic หน่อยๆ ของหนังเข้ามาเสริมด้วย เลยทำให้กลิ่นจะมีความหวานหอมไซรัปเจือวิสกี้แกมกลิ่นตุ่นๆ ที่อาจจะมีความแปร่งบ้าง แต่มันดึงความสนใจจากหนัง และมีความอวลติดชีสที่มีเสน่ห์ซ้อนประปรายสร้างความดึงดูดได้ดีจาก Laotian Oud เข้าไปอีก และยังทำให้ได้ อารมณ์แบบรู้เลยว่ามี Oud อยู่และเป็นตัวแปรที่สร้างอารมณ์ที่ให้ความเป็น Precious Oud ได้ด้วยเพราะความเป็นโทนออกทางไซรัปฟรุตตี้สีแดงแกล้มวิสกี้นี่แหละ ที่ทำให้รู้สึกได้ถึงอารมณ์แบบอัญมณีได้ด้วย ถือว่าเปิดมาก็ชัดตามชื่อรุ่นเลย

การเปลี่ยนแปลงในการเข้าสู่ช่วงกลางจะเริ่มจากที่เริ่มมีโทนออกทางขนมที่มีความเป็นครีมคัสตาร์ดวานิลลาปนโกโก้แกมกาแฟแบบสไตล์เค้กทีรามิสุ ซึ่งเลยมีความเอ๊ะ! ขึ้นมาก่อนว่าคุ้นๆ ว่าเคยสัมผัสกลิ่นแบบนี้ของ Mancera มาก่อน แต่ยังไม่ปักใจฟันธงว่าเป็นรุ่นไหน ซึ่งกลิ่นทีรามิสุเองก็จะได้ตัวเสริมที่ดีอย่าง Laotian Oud ที่มีโทนชีสซี่อยู่แล้วมาทำให้กลายเป็นโทนออกทางขนมหวานที่มีความเย้าลึกของ Oud มากขึ้นไปอีก ซึ่งเนื้อกลิ่นจะมีโทนออกทางแป้งหอมกุหลาบเข้ามาเสริมด้วย เพราะเป็นการผนึกกำลังเข้าด้วยกันของกุหลาบและไวโอเล็ต เลยทำให้ได้อารมณ์แป้งหอมกุหลาบโปร่งหวานอ่อนๆ มาเสริม แถมสอดรับไปได้ดีกับโทนหนังที่เริ่มจะมีความอบอุ่นติดละมุนมากขึ้น ตลอดจนกลิ่นโทนหวานไซรัปในช่วงแรกก็ยังตามมาอยู่ เลยทำให้กลิ่นจะมีเลเยอร์ที่น่าสนใจจากหวานไซรัปสีแดงที่อ่อนลงมานิดนึง สู่กลิ่นอวลกึ่งขนมหวานกึ่งแป้งหอมดอกไมที่เย้ายวนและมีเสน่ห์แกมดึงดูดของ Oud และหนัง ซึ่งตอนนี้แหละ ฟันธงได้เลย ว่านี้คือ Crazy for Oud ในรูปแบที่มีความหวานหมติดแหลมไซรัปที่ฉาบหน้าชัดเจน และไม่พอเมื่อไปดู Notes ให้เคลียร์ ก็ตึ่งโป๊ะ! เลย Notes เหมือนกันแทบทั้งหมด และออกมาแบบแพ็คคู่ด้วย เลยเข้าใจได้ไม่ยากว่าเป็นการเล่นโทนกลิ่นเด่นที่ต่างกันในพื้นฐาน Notes กลิ่นที่เหมือนกันแทบจะทั้งหมดนั่นเอง

ในช่วงท้ายชัดเจนมากกับกลิ่นอายโทนหนังและ Oud ที่จะเริ่มเซทตัวเป็นลักษณะกลิ่นหนังกึ่ง Oud ที่มีความ Smoky แกมดาร์กกำลังดีจะเป็นแกนนำหลัก โดยที่กลิ่นอายสายหวานไซรัปเหลือเพียงเบาบางจนจางไปตอนไหนก็ไม่รู้ แต่มีจะมีกลิ่นโทนไม้หอมและโทนอบอุ่นแนวกึ่งแอมเบอร์และแป้งวานิลลามาเสริมแบบกำลังดีแทน ซึ่งกลิ่นทีรามิสุกับแป้งกุหลายก็ยังมีอยู่บ้างแต่มาแบบประปรายอ่อนๆ ซึ่งทำให้อารมณ์กลิ่นจะไม่ได้ Animalic จ๋าไป แต่ให้ลูกเย้าในโทนหนังที่ลงตัวในการเป็นกลิ่นอายอวลๆ รุมๆ แกมกลิ่นออกทางแป้งวานิลลาอ่อนๆ ที่มีกลิ่นไม้จันทน์หอมนวลๆ และกลิ่นโทนแอมเบอร์ที่เน้นออกทางเสริม Effect ความอบอุ่นติดอวลในเนื้อกลิ่นแทน ซึ่งถือเป็นการปิดท้ายที่แน่นอนว่ากลิ่นใกล้เคียงลักษณะเดียวกันกับรุ่น Crazy for Oud เพียงแต่จะไม่ได้ถึงกับดิบเท่ห์มากเท่า ถือเป็นการปิดท้ายที่แน่นอนคุมโทนได้ดีและมีสมดุลย์ในการผสมผสานกลิ่นที่ยังไงก็ผ่านในการเป็นสไตล์ของ Mancera 

เหมาะสำหรับ - Unisex เลย เพียงแต่ช่วงต้นจะออกไปทางผู้หญิงนิดนึงเพราะกลิ่นไซรัปกึ่งลูกอมผสมเหล้าวิสกี้ แต่เพียงแค่ชั่วครู่ก็เป็นโทนกลางๆ ไม่แบ่งแยกเพศ ซึ่งถ้าไม่มายด์เรียกว่าใช้ได้หมดอยู่แล้วกับทุกเพศ โดยกลิ่นจะเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันที่ข้ามเรื่องทางการ และการใส่เพื่อกิจกรรมลุยๆ หรืออกกำลังกายไปจะดีกว่า เพราะกลิ่นไม่ได้ตอบโจทย์เรื่องเหล่านี้เลย แต่ถ้าใส่แบบทั่วๆ ไป ใส่ทำงาน Office อ่ะ แบบนี้ได้อยู่มีเสน่ห์เฉพาะตัวอีกด้วยแบบสไตล์กรุ้มกริ่มเย้ายวนอวลน่าซุก ส่วนยามค่ำคืนจัดไปได้หมดทั้งออกงาน ทั้งท่องราตรี และทั่วๆ ไปแกมโรแมนติคที่เน้นเสน่ห์ดึงดูด

ความทน - จัดจ้านอยู่แล้วตามสไตล์ของแบรนด์ที่ยังไงก็เกิน 8 ชม. ได้สบายมาก และไปต่อได้อีกยาว ซึ่งส่วนตัวเจอไปที่ 15 ชม. กลิ่นยังคงอยู่ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้นและลากยาวไปราว 1 ชม. ที่ฟุ้งกระจายรอบตัวแถมทิ้งค้างในห้องที่ฉีดอีกด้วย แล้วจึงค่อยๆ ลดลงมาที่กระจายดีซัก 3 ชม. แล้วจึงเป็นปานกลางไปเรื่อยๆ จนเมื่อผ่านไปราวๆ 8 ชม. ถึงเริ่มเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันยาวๆ  

สรุป - อารมณ์ระหว่าง Precious Oud และ Crazy for Oud มาแนวเดียวกับ MFK - Gentle Fluidity ตัว Silver และ Gold ที่พื้นฐาน Notes กลิ่นเดียวกันหรือใกล้เคียงกันอย่างมาก เพียงแต่สลับ Notes เด่น เลยทำให้กลิ่นจะแตกต่างอารมณ์กันไป โดยที่ Base Notes จะมีความใกล้เคียงกันมากจริงๆ ซึ่งถ้าชอบกลิ่นอายกึ่งขนมแกมดาร์กไปเย้าดึงดูดโดยมี Oud เป็นตัวเสริมที่ดีมาก ไป Crazy for Oud แต่ถ้าชอบหวานกึ่งไซรัปเย้ามีเสน่ห์สไตล์เรียกร้องความสนใจ และมีโทนสีแดงเปล่งประกายเสริมด้วย Oud ที่มีความอวลลึกเซ็กซี่แกมขนม + Baccarat Rouge 540 เนียนๆ มาที่ Precious Oud ได้เลย สามารถเลือกได้ตามใจชอบ 

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://krystalfragrance.com/products/precious-oud-by-mancera-edp-eau-de-parfum

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น