วันพุธที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2565

Review: Pierre Cardin - Rose Cardin

Pierre Cardin - Rose Cardin

ในความเป็นโทน Chypre Rose ที่มีความเป็นกุหลาบแกมพิมเสนเป็นแกนกลางของกลิ่น โดยมีความเป็นโทน Citrus เป็นตัวเรียกแขก สู่ความอบอุ่นลุ่มลึกของยางไม้ที่ให้โทนกึ่งแอมเบอร์อย่าง Labdanum ก่อนจะปิดท้ายด้วยความกรุยกรายมีเสน่ห์ที่คาบเกี่ยวทั้งสไตล์ Classic ที่มีความน่าค้นหาและมีพลังของ Oak Moss ต้องบอกเลยว่ามีกลิ่นอายแบบนี้เยอะมากมาตั้งแต่ช่วงยุค 70 จนถึงปัจจุบัน และมีหลายกลิ่นมากๆ ที่เรียกว่าเป็น Top Class ของน้ำหอมสายนี้

และซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ รุ่น Rose Cardin จากแบรนด์ Pierre Cardin ที่เปิดตัวมาในช่วงปี 1990 ที่ถือเป็นช่วงรอยต่อของน้ำหอมยุค 80 สู่ 90 พอดิบพอดี และที่สำคัญกลิ่นนี้ยังคงความเหนือกาลเวลามาอยู่เสมอจนถึงปัจจุบันแบบที่มีเสน่ห์ในความไม่ธรรมดาให้จับต้องได้ตลอด จนหลายๆ สำนักก็ถือว่ากลิ่นนี้เป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่อย่างน้อยคนที่ชอบน้ำหอมกลิ่นกุหลาบต้องได้สัมผัส เช่นนั้น อยากรู้ว่าจะถ่ายทอดกลิ่นอย่างไร ก็ขอมาสัมผัสให้รู้ ดมให้สุดกันหน่อย ผลที่ได้ก็คือ

Rose Cardin เปิดตัวมาด้วยเนื้อกลิ่นที่มีความเป็นโทนเม็ดผักชีเด่นวูบมาก่อนพร้อมกับกลิ่นไม้หอมติดกุหลาบที่มีความปร่า Spicy สอดรับกับเม็ดผักชี โดยที่มีกลิ่นออกทางกึ่งสบู่คมๆ ฟุ้งๆ ของ Aldehydes เป็นตัวที่ทำให้กลิ่นมีความอวลพุ่งตามแบบฉบับน้ำหอมช่วงยุค 80 ที่มีโทน Classic อวลๆ แต่เนื้อกลิ่นมีโทนกึ่ง Citrus กึ่งผลไม้เข้ามาผสมผสานไปกับกลิ่นของเม็ดกระวานที่ให้ความหวานเย้าร่วมด้วยเลยทำให้ช่วงต้นมีความเป็นกลิ่นที่เข้าโทนสีแดงแบบกุหลาบติดปร่าแกมไม้หอมปนสบู่ที่มีความสดชื่นแบบฟุ้งๆ หอมเย็นๆ ได้ลงตัวมาก ซึ่งจะมีอยู่นิดหน่อยตรงที่จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นดอกไม้แนวดอกไม้หอมเย็นๆ แต่ไม่ได้ฉ่ำ เลยทำให้บางวูบนึกถึงกลิ่นน้ำดอกไม้เทศ (น้ำกระสายยาไทยที่ใช้ดอกไม้ทำ) + กลิ่นยาอุทัยทิพย์แบบที่สกัดจากสมุนไพรจริงๆ กำลังดี (อิงจากประสบการณ์ส่วนตัว) เลยทำให้รู้สึกถึงความหอมที่ค่อนข้างครอบคลุมแตะความรู้สึกทั้งเทศและไทยได้มีเสน่ห์แบบ Classic จริงๆ

ในการเปลี่ยนสถานะเข้าสู่ช่วงกลาง พื้นฐานกลิ่นแนวฟุ้งๆ แกมสบู่กุหลาบไม้หอมติดปร่ายังคงอยู่ แต่จะจับต้องได้ชัดเจนมากขึ้นว่ากุหลาบจะเป็นตัวหลักในการเดินกลิ่น โดยมีความปร่าระเรื่อของพิมเสนที่ให้ความหรูหราติด Earthy กรุยกรายน่าค้นหากำลังดี ซึ่งนอกจากกุหลาบที่ชัดเจนพอสมควรแบบไม่ได้ไปทาง Classic แบบกุหลาบแดงจ๋า ก็จะยังมีตัวเสริมที่ให้ความปร่านวลติดพริกไทยแกมเขียวของคาร์เนชั่นที่เป็นตัวเสริมให้กลิ่นมีความนิ่งหรูมากขึ้น โดยที่จะมีกลิ่นดอกไม้ขาวคลอๆ แบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ สร้างอารมณ์แบบสบู่ปร่าฟุ้งดอกไม้หน่อยๆ เป็นพื้นกลิ่นให้ความรู้สึกผ่อนคลายร่วมด้วย และสิ่งหนึ่งที่จับได้แบบเนียนๆ ก็คือ พื้นหลังของกลิ่นที่นอกจากจะมีโทนสบู่ดอกไม้แล้วยังมีโทนอบอุ่นติดแอมเบอร์เคล้า Musk แกมไม้จันทน์หอมครีมนวลอ่อนๆ ที่แฝงรวมอยู่ด้วยเลยทำให้กลิ่นมีความสมดุลย์ที่อยู่ตรงกลางพอดีระหว่างความเป็นโทน Classic ที่เชื่อมต่อกับโทนร่วมสมัยได้ลงตัวมาก นี่แหละพื้นฐานของการเป็น Timeless Scent ที่ชัดเจนมาก

และเมื่อความเป็นโทนไม้หอมเริ่มจะชัดเจนขึ้นตามลำดับ โดยที่โทนกุหลาบเริ่มผันตัวลงเป็นสายสนับสนุน ก็เป็นการเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอมเต็มตัว ซึ่งช่วงนี้ถือว่าเป็นโทนร่วมสมัยเต็มตัวมากขึ้น เพราะเนื้อกลิ่นจะมีความเป็นไม้หอมติดผ่อนคลายแกมนุ่มของ Musk กำลังดี มีโทนออกทาง Incense ที่ผนวกกับ Oak Moss สร้างความน่าค้นหาเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งทุกอย่างจะเนียนเป็นเนื้อเดียวโดยใน 1 การดมจะจับต้องได้ทั้งความเป็นไม้หอมที่ติดความนุ่มนวลแกมดาร์ก โดยมีปลายกลิ่นเป็นกุหลาบพิมเสนอ่อนๆ ที่มีเสน่ห์ มีระดับแบบกำลังดี และมีความเป็นโทนร่วมสมัยที่ใช้งานได้แบบไม่ต้องใส่ใจว่าจะเป็นปีไหนหรือยุคไหนก็สามารถใช้งานได้ไม่ยากและเป็นการปิดท้ายที่คลอผิวได้อย่างงามๆ กันยาวไปเสียด้วย

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานเป็นต้นไปก็สามารถใช้งานตัวนี้ได้สบายมาก และที่สำคัญเนื้อกลิ่นมีความ Unisex ตั้งแต่ช่วงกลางเป็นต้นไป เพราะกุหลาบไม่ได้ไปสาย Classic ที่บานฉ่ำหรือแห้งกรุยกรายแต่อย่างใด เลยทำให้ผู้ชายสามารถใช้กลิ่นนี้ได้สบายมาก และมีเสน่ห์เทียบเท่าผู้หญิงใช้ได้ไม่ยาก ซึ่งกลิ่นเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป แต่ให้ตัดการใช้งานเพื่อออกกำลังกายหรือออกกิจกรรมลุยๆ กลางแจ้งไปได้เลย ไม่เข้าทาง ส่วนยามค่ำคืนถือว่าลงตัวกับการใส่ออกงานสร้างออร่านางพญาแบบเบาๆ ได้ก็ดี หรือใส่เพื่อสร้างออร่าโรแมนติคที่ไม่เกี่ยงเพศที่ใช้งานได้ก็เหมาะ

ความทน - พื้นฐานแตะที่ 8 ชม. ได้สบายมากและไปต่อได้อีกอิงตามจำนวนสเปรย์และสภาพผิวผู้ใช้ ซึ่งส่วนตัวเจอทุกครั้งที่ 12 - 15 ชม. เรียกว่าคุ้มค่าเลยก็ย่อมได้

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น เรียกว่าสร้างความรู้สึกสีแดงอมชมพูแบบลึกๆ อารมณ์แบบสีน้ำแดงเลย แล้วจะผ่อนลงมาเป็นกระจายดีไปราว 30 นาที - 1 ชม. ถึงเป็นปานกลางไปเรื่อยๆ จนเมื่อผ่านไปราวๆ 4 ชม. แล้ว ถึงกลายเป็นออร่ารอบๆ ตัวซึ่งตอนนี้จะคงตัวและเสถียรกันยาวๆ ไป จนถึงประมาณชั่วโมงที่ 10 ถึงเป็น Skin Scent   

สรุป - อีกหนึ่ง Masterpiece ของแบรนด์ Pierre Cardin เลย ที่สร้างสรรค์กลิ่นแนวกุหลาบพิมเสนออกมาได้ลงตัว สมดุลย์ และมีเสน่ห์ทางกลิ่นแบบที่อาจจะไม่ได้ถึงกับหวือหวาหรือว้าวจัดจ้าน แต่ให้ความมีเสน่ห์และน่าค้นหาแบบที่ก็ลืมไม่ลงในความเป็นโทนร่วมสมัยและเหนือกาลเวลา ซึ่งไม่แปลกใจเลยนี่กลิ่นนี้เป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่รวมเข้าไปอยู่ในกลุ่ม Top Class ในสาย Chypre Rose ที่มีโอกาสควรจะได้ลองและครอบครอง 

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.walmart.com/ip/Pierre-Cardin-Rose-Cardin-by-Pierre-Cardin-Eau-De-Toilette-Spray-1-oz-for-Women/399432217

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น