วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

Review: Goutal - Bois d’Hadrien

Goutal - Bois d’Hadrien

เมื่อ Annick Goutal ได้มีการ Re-Branding ใหม่ เปลี่ยนชื่อแบรนด์มาเป็น Goutal เพียงอย่างเดียวพร้อมเปลี่ยนรูปลักษณ์ขวดแบบเดิมๆ เป็น Luxury มากขึ้น โดยที่กลิ่นต่างๆ ก็ยังคงเดิม แถมหลายๆ กลิ่นที่เหมือนจะเริ่มเลิกผลิตก็ได้กลับมาประจำการเช่นเดิมด้วยเช่นกัน

แต่รอบนี้จะไม่ได้พูดถึงกลิ่นเดิม แต่จะมาว่ากันในกลิ่นที่เกิดขึ้นหลังมีการ Re-Branding ใหม่แทน ซึ่งนั่นก็คือ Bois d’Hadrien ที่จะเป็นการต่อยอดจากน้ำหอมชายที่เหนือกาลเวลาของแบรนด์อย่าง Eau d’Hadrien มาสู่การเป็นโทนสดชื่นในรูปแบบใหม่กับการจับคู่ระหว่างกลิ่นอายสายไม้สนต่างๆ กับโทน Citrus เช่นนั้น ขอพิสูจน์กันหน่อยว่าเนื้อกลิ่นจะออกมาในรูปแบบไหน

Bois d’Hadrien เปิดตัวได้สดชื่นกับการเป็นกลิ่นมะนาวที่ติดเขียวเคล้ากับกลิ่นสนไพน์ที่ให้ความเขียวแกมออกทางยางไม้สนที่มีเขียวปร่าอะโรม่า + กับกลิ่นออกทางเขียวชะอุ่มหน่อยๆ ของใบสนของแนวสนคริสต์มาส เสริมด้วยกลิ่นออกทางอากาศเย็นๆ มีประปรายอยู่ในเนื้อกลิ่น ซึ่งเพียงแค่นี้ก็ทำให้เราเหมือนไปอยู่ในป่าสนท่ามกลางอากาศเย็นๆ ได้ทั้งความสดชื่นแกมเขียวของกลิ่นชะอุ่มๆ ได้แล้ว เพียงแต่สิ่งที่เด่นจริงๆ ต้องยกให้มะนาวที่ให้ความเปรี้ยววูบสดชื่นได้ดีและเข้ากับกลิ่นสนได้อย่างน่าสนใจมาก ที่สำคัญทำให้รู้สึกได้เลยว่านี่จะเป็นกลิ่น Citrus Woody ที่สบายๆ เรียบหรูแน่นอน แต่

เมื่อเนื้อกลิ่นช่วงกลางเสริมขึ้นมา เนื้อกลิ่นลดบทบาทความเป็นมะนาวออกเป็นเหลือเพียงเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ให้ความสดชื่นอยู่ แต่จะดันความเป็นกลิ่นสนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสนไพน์ที่ให้ความเป็นกลิ่นแนวยางสนที่ปร่าแกมติดหวานอะโรม่า ผสานกับสน Fir ที่ให้ความเป็นไม้สนกลิ่นปร่าระเรื่อกึ่งการบูรหน่อยๆ และมีกลิ่นของสนไซเปรสที่ให้ความเป็นกลิ่นไม้สนแห้งๆ แกมเขียวชะอุ่มมาเป็นตัวเด่นในการเดินกลิ่น เสริมด้วยความเขียวเจือหวานของใบไอวี่หรือตำลึงฝรั่งอยู่ประปราย แต่ที่ต้องกล่าวถึงให้ได้ คือกลิ่นโทนเครื่องเทศที่ทำให้เนื้อกลิ่นในช่วงนี้เปลี่ยนจากสดชื่นสบายๆ ในช่วงต้น มาเป็นกลิ่นที่มีน้ำหนักให้จับต้องและมีความเข้มข้นมากขึ้น ซึ่งเท่าที่สัมผัสได้เลยคือกลิ่นเปลือกอบเชยที่ให้ความหวานเย้าและกลิ่นของพริกไทยที่ให้กลิ่นมีความเผ็ดนวลแฝง ซึ่งทำให้เนื้อกลิ่นมีความหนาขึ้นจากช่วงต้นมาเยอะกว่าที่คิด แต่ก็ให้ความเป็นกลิ่นอายแบบป่าสนในบรรยากาศช่วงกลางวันที่มีไอแดดแกมสดชื่นได้ชัดเจนมากเช่นกัน เรียกว่าจัดเต็มความเป็นสนจริงๆ

เมื่อไอความเย็นๆ และความเป็นมะนาวหายไปหมดแล้ว และเนื้อกลิ่นก็แห้งขึ้นตามลำดับ ก็จะเข้าสู่ช่วงท้ายเต็มตัวที่ตอนนี้จะเป็นโทนไม้สนแห้งๆ ที่มีความเขียวปร่าประปรายแกมกลิ่นติดเค็มๆ นิดๆ อารมณ์แบบป่าสนติดทะเลในระดับหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ความเป็นสนไซเปรสจะเด่นชัดที่สุดเคล้ากับกลิ่นแนวไม้แห้งๆ ที่ไม่ได้สว่างไปหรือดาร์กไปที่จะเป็นตัวเมนกันยาวๆ แบบไม่ได้ซับซ้อน แต่มีความเข้มข้นและชัดเจนในความหนาของกลิ่นที่มีพลังอยู่พอตัว แต่ไม่ได้หนักหน่วงมาก ซึ่งมาจากกลิ่นเครื่องเทศที่ยังตามมาในช่วงนี้ ทำให้ได้อารมณ์กลิ่นไม้สนแห้งๆ ที่มีความปร่าติดเค็มๆ ประปรายคลอผิวที่มีความแปร่งเครื่องเทศแบบติดดิบหน่อยๆ สร้างออร่าแบบธรรมชาติที่ควรจะเป็นแบบไม่ต้องดูประดิษฐ์หรือพยายามทำให้สวยทางกลิ่น ถือเป็นการปิดท้ายกลิ่นได้คุมโทนการเป็น Bois หรือ Wood ได้ครบถ้วน

เหมาะสำหรับ - กลิ่นลงไว้ว่า Unisex ซึ่งก็เป็นไปตามนั้น เพียงแต่อย่างน้อยพื้นฐานต้องชอบกลิ่นโทนไม้สนอยู่เป็นทุนเดิมจะอินกับกลิ่นนี้ได้ไม่ยาก ซึ่งเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่น่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป แบบที่มาสายกลิ่นสนที่มีความเป็นไม้หอมแบบที่อาจจะไม่ได้ถึงกับ Nice แต่มีความห่ามกำลังดีแทน ส่วนยามค่ำคืนใส่แบบทั่วไปหรือออกงานได้สบายมาก

ความทน - กลิ่นทนแตะที่ 8 ชม. ได้สบายๆ และไปต่อได้อีกอิงตามจำนวนสเปรย์และสภาพผิวผู้ใช้ ซึ่งส่วนตัวก็เจอไปที่ 12 ชม. เป็นเรื่องปกติ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น และค่อนข้างคงตัวการกระจายดีกันไปยาวๆ จนถึงราวๆ ชั่วโมงที่ 3 จึงลดลงมาเป็นปานกลางแล้วคงที่ต่อเนื่องไปถึงชั่วโมงที่ 6 ถึงลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวไปเรื่อยๆ แล้ว Skin Scent ชัดเจนหลัง 8 ชม. ไปแล้ว

สรุป - บางคนอาจจะรู้สึกคุณหลอกดาวกับกลิ่นนี้ เพราะเปิดมากลิ่นสดชื่นหอม Nice มากกับการเล่นโทนกลิ่นมะนาวกับกลิ่นสนต่างๆ แต่พอเปลี่ยนช่วงที่เหลือคือความเป็นป่าสนที่มาทั้งความชัดเจนและความห่ามที่ควรจะเป็น ซึ่งเรียกว่าให้ปูมาให้เรียนรู้กลิ่นชัดๆ กับการเป็นกลิ่นสนหอมต่างๆ ที่ขมวดมารวมกันเหมือนท่องป่าสนที่มีความห่ามๆ ไล่โทนจากเช้าสู่ยามแดดอบอุ่น ถือเป็นอีกมุมหนึ่งของกลิ่นโทนสนที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://hk.goutalparis.com/product/bois-d-hadrien-eau-de-perfum-1

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น