วันจันทร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2566

Review: Yves Rocher - Voile d’Ocre

Yves Rocher - Voile d’Ocre

หลังเปิดตัว Collection - Eaux de Parfum ถึง 9 กลิ่นในปี 2019 ของ Yves Rocher นอกจากจะเน้นกลิ่นอายธรรมชาติและ Note กลิ่นที่เจาะจงในการนำเสนอมากขึ้น สิ่งหนึ่งที่บอกได้ค่อนข้างชัดเจนว่าในแต่ละรุ่นของ Collection นี้อารมณ์กลิ่นก็จะเหมือนท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ โดยการเอา Note กลิ่นหลักๆ นั้นๆ มาเป็นตัวเดินกลิ่นให้เข้าตาม Concept อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าทำได้ดีมากเลยทีเดียว และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจนคาดว่าน่าจะเป็น Collection หลักของแบรนด์ไปยาวๆ แน่ๆ

และในปีถัดมา (2020 ปลายปี) ก็มีการตอกย้ำความสำเร็จอย่างต่อเนื่องด้วยการปล่อยกลิ่น Voile d’Ocre ออกมาเพิ่มเติม โดยสื่อสารถึงความเป็นกลิ่นไม้จันทน์หอมเป็นตัวหลัก และเขียนอย่างชัดเจนว่าสื่อถึงการไปท่องทะเลทราย โดยการจับ Match ระหว่างสีนวลทองของทรายมาเป็นกลิ่นอายลงขวด เช่นนั้น เมื่อดมแล้วความน่าสนใจมาเต็มก็ต้องให้รู้และบอกต่อได้แบบนี้

Voile d’Ocre เปิดตัวได้ชัดตรงตามการสื่อสารของแบรนด์มากเลยทีเดียว เพราะจะรับรู้ได้ตั้งแต่ต้นเลยว่า “ไม้จันทน์หอม” จะเป็นแก่นหลักของกลิ่นที่อยู่ยั้งยืนยงกันไปยาวๆ ตั้งแต่ต้นยันจบแน่นอน โดยจะให้ความเป็นกลิ่นอายครีมมี่ติดจืดหอมเฉพาะตัวออกมา โดยมีโทนกลิ่นติดเขียวๆ ที่ไม่ได้เขียวคม แต่เป็นเขียวทึบปร่ามิลค์กี้ที่มีความสดชื่นมากกว่า ซึ่งทำให้นึกถึง Fig ขึ้นมาทันที ซึ่งน่าจะเป็นการผสมผสานเอาข้อดีจากความเขียวของใบ +ความปร่ามิลค์กี้ของเนื้อตรงติดเปลือกผล มาทำให้กลิ่นไม้จันทน์หอมมีความสดชื่นแฝงอยู่ให้จับต้องได้

แต่ไม่ใช่แค่นี้เพราะว่าเนื้อกลิ่นจะมีการปรับตัวเข้าสู่ช่วงกลางโดยลดความเขียวที่รู้สึกได้หน่อยๆ ในตอนต้น ให้เริ่มมีโทนกลิ่นออกทางไม้หอมครีมมี่มิลค์กี้ที่ชัดเจนขึ้น ให้อารมณ์แบบไม้ติดปร่าแบบไม้ทำดินสอซึ่งเป็นสไตล์ชัดเจนของไม้ซีดาร์เลยที่มาทำให้เนื้อกลิ่นมีความปร่าปนแห้ง และที่สำคัญมีกลิ่นออกทางมะพร้าวที่ไม่ใช่เป็นโทนกะทิจ๋า แต่มาแบบเบาๆ ครีมมี่กำลังดีที่มาทำให้เนื้อกลิ่นมีมิติอะโรม่าแกมหวานกึ่งเครื่องเทศเนียนๆ เข้ามาเสริมให้จับต้องได้ด้วย รวมถึงมีลูกเล่นกลิ่นโทนดอกไม้ขาวแกมโทนแป้งอบอุ่นมาเป็นฐานกลิ่นเต็มตัว แต่ยังไงก็ตามไม้จันทน์หอมยังคงยืนหนึ่งให้ความครีมมี่นุ่มนวลสบายจมูก และให้ความรู้สึกสีครีมแกมสีน้ำตาลแบบสีของทรายได้เหมาะมาก

ช่วงท้ายจะเป็นโทนแป้งแกมไม้หอมอบอุ่นที่ชัดเจนมาก และค่อนข้างให้ความอวลๆ แบบกำลังดี ไม่หนัก และไม่เบาเกินไป ความเป็นไม้จันทน์หอมที่มีลูกเอื้อนปร่าไม้ซีดาร์ยังอยู่ครบถ้วน แต่จะเสริมด้วยกลิ่นอายโทนแป้งของวานิลลาที่ให้อความอบอุ่นนุ่มละมุนกำลังดี โดยที่เนื้อกลิ่นคุมโทนได้ลงตัวสมดุลย์ระหว่างการเป็นโทนไม้ครีมมี่มิลค์กี้แห้งๆ กับโทนอบอุ่นเป็นการปิดท้าย

เหมาะสำหรับ - Unisex ชัดเจนมาก จึงจัดได้ทุกเพศเลยในการใช้งาน และเข้ากับการใช้ตั้งแต่วัยเรียนมหาลัยขึ้นไปเลย เพราะพื้นฐานกลิ่นมีเสน่ห์อยู่แบบไม่ต้องเยอะสิ่งหรือเล่นใหญ่อยู่แล้ว ซึ่งกลิ่นเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบ Daily Life ทั้งทางการและทั่วๆ ไป แต่จะมีอย่างหนึ่งที่ไม่ค่อยเข้าทางเท่าไหร่นั่นคือ ใส่ไปออกกำลังกาย เพราะกลิ่นอาจจะตีขึ้นพอตัวจนอาจจะทำให้อึดอัดได้ ยกเว้นรอช่วงท้ายๆ อันนี้ได้อยู่ ส่วนยามค่ำคืนก็จัดไปโดยเฉพาะการใส่แบบออกงาน โรแมนติค หรือว่าใส่แบบทั่วไป แต่ถ้าจะใส่ไปท่องราตรีอาจจะโดนกลบจากกลิ่นแน่นๆ ทั้งหลายได้ง่ายหน่อย

ความทน - พื้นฐานคือ 6 - 8 ชม. แต่ยืดออกไปได้อีก ขึ้นอยู่กับจำนวนสเปรย์และสภาพผิวผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง โดยส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. เป็นเรื่องปกติกับการใช้งานที่ 6 สเปรย์ เรียกว่าเป็นกลิ่นหนึ่งที่ความทนดีงามของ Yves Rocher เลยก็ย่อมได้

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในช่วงต้น แล้วจะลงมาที่ปานกลางไปเรื่อยๆ จนเมื่อผ่านไปราวๆ 5 ชม. กลิ่นจะเริ่มเป็นออร่ารอบๆ ตัวยาวไป และเริ่มติดผิวเมื่อผ่านไปราว 8 ชม. ขึ้นไปตามแต่ละคน

สรุป - ส่วนตัวถ้าต้องเปรียบเทียบกับกลิ่นแนวไม้จันทน์หอมที่ดังในตลาด Voile d’Ocre คือ กลิ่นไม้จันทน์หอมในแบบที่สมดุลย์ ให้ความกำลังดี และมีความอบอุ่นในเนื้อกลิ่น แบบไม่หนักหน่วงเกินไป หรือเบาโหวงเกินไป ซึ่งสื่อสารถึงกลิ่นอายแบบทะเลทรายสวยๆ ตามคำโปรยได้ชัดเจน เพราะให้ทั้งความแห้ง อบอุ่น และนุ่มครีมมี่อย่างมีเสน่ห์ได้ลงตัว และถ้าต้องบ้าจี้เทียบกับกลิ่นดังๆ ตัว Top ของสายนี้อย่าง Santal 33 ก็จะบอกว่า “ใช่มันก็กลิ่นไม้จันทน์หอมเหมือนกันแหล่ะ แต่กลิ่นนี้เบากว่า นุ่มกว่า และอบอุ่นมากกว่า โดยไม่ทรงพลังจนทำให้ตึ้บเกินไป ซึ่งถือว่าเป็นอีกทิศทางหนึ่งที่ออกไปอีกเส้นทาง ไม่ได้เหมือนกันอะไรจนกลายเป็น Duplicate Scent แต่อย่างใด” 

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.yvesrocherusa.com/fragrance/women-s-fragrance/eau-de-parfum/eau-de-parfum-voile-d-ocre/p/84199

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น