วันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Review: by Kilian - Black Phantom

by Kilian - Black Phantom : Memento Mori 

Memento Mori หลายๆ คนอ่านอาจจะคิดว่าน่าจะเป็นอะไรที่เกี่ยวกับญี่ปุ่น แต่จริงๆ แล้วเป็นภาษาละตินที่เป็นเหมือนสุภาษิตเตือนใจที่หมายความว่า พึงระลึกไว้ว่า เราต่างหนีความตายกันไม่พ้นในอดีตเป็นประโยคกระซิบนักรบโรมันที่ได้ชัยชนะมาจากการรบ เวลาได้รับเสียงโห่ชื่นชมยินดี ไม่ให้เหลิงไปกับคำสรรเสริญให้พึงระลึกไว้ว่าตนเองก็ไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า เมื่อมา
คล้องจองกับคำว่า Black Phantom กับปีศาจแห่งความมืดที่เสมือนมาจากโลกแห่งความตาย กับการเป็นหนึ่งในน้ำหอมที่พึ่งออกมาในปี 2017 นี้ ของ by Kilian เช่นนั้นกลิ่นอายจะมาในลักษณะเช่นไร ก็ขอสัมผัสความดำมืดทางด้านกลิ่นกันซะหน่อย ผลออกมาก็คือ

เรียกว่าเป็นความรู้สึกที่ชัดเจนมากในแง่ของการเป็นกลิ่นอายแบบ Bittersweet เริ่มจากมืดขมสู่การเป็นโทนหวานปลาย เริ่มต้นกับความเป็นกลิ่นอายของรัมที่พุ่งออกมากับกลิ่นโทนกาแฟแบบติดขมที่ใส่ดาร์กชอคโกแลตเยอะๆ ออกแนวมอคค่าที่ไม่ใส่นม อารมณ์ที่ได้เลยจะได้ความรู้สึกดาร์ก ดำมืด และดุกันในระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้ถึงกับหนักหน่วงจนน่ากลัว เพราะว่าในเนื้อกลิ่นที่พุ่งขึ้นมานั้นความรู้สึกที่มีความหวานรองพื้นมันจะมีให้จับต้องได้อยู่เพียงแต่ยังไม่ได้เปิดตัวเต็มตัวนัก ให้อารมณ์เหมือนขมดำมืดดาร์กติดหวานปลายเสียมาก แล้วกลิ่นจะเริ่มมีโทนไม้หอมดันขึ้นมาให้รู้สึกได้มากขึ้น จนเข้าสู่ช่วงกลางที่กลิ่นของดาร์กชอคโกแลตจะเริ่มเป็นตัวเด่นสุดเลย โดยพ่วงเอากลิ่นกาแฟที่อยู่ในช่วงแรกมาเคล้ากับกลิ่นอายไม้หอมแห้งๆ แนวๆ ซีดาร์กึ่งหญ้าแฝกแห้งๆ ที่ติด Smoky นิดๆ กลิ่นอายจะยังคงดาร์กอยู่ในระดับหนึ่ง แต่เพราะมีกลิ่นอายของไม้จันทน์หอมที่เริ่มขึ้นมาตีคู่ แบบไม่ได้แย่งซีน แต่มาผสมผสานเสียมากจนให้ความครีมมี่ติดไม้หอมนวลในความดาร์ก ลดทอนความเข้มขมลงมาให้กลิ่นเริ่มรื่นไหลมากขึ้น ที่แน่ๆ ตัวแย่งซีนอย่างโทนหวานปลายๆ ที่โดนกดเอาไว้ในช่วงต้นก็ได้เวลาเฉิดฉายออกมาในลักษณะแบบกลิ่นคาราเมลในระดับที่กำลังดี อารมณ์ที่ได้ยังคงมีความ Bittersweet อยู่ในรูปแบบที่นุ่มมากขึ้นนั่นเอง แต่ไม่ได้จบแค่นี้เพราะ

ความเปลี่ยนแปลงในโทนกลิ่นก็เริ่มให้รู้สึกได้ชัดขึ้นเรื่อยๆ หลังจากผสมผสานกันในระยะนึง เพราะว่าความขมดาร์กในตอนต้นจะโดนลดบทบาทลงไป เหมือนสลับที่ให้กลิ่นออกทางครีมมี่ของไม้จันทน์หอมกลายเป็นตัวเด่นดึงซีนเรื่อยๆ โดยมีกลิ่นอายของแป้งอัลมอนด์ติดขนมอ่อนๆ เสริมเข้ามาแล้วความหวานเดิมที่จะมาแบบหวานขนมสไตล์คาราเมลกลิ่นจะเปลี่ยนเป็นกลิ่นหวานโปร่งแทน ซึ่งถือว่าเป็นการเข้าสู่ช่วงท้ายแล้ว เพราะกลิ่นครีมมี่นวลๆ จะละมุนหอมหวานโปร่งแบบน้ำตาลบนผิวเคล้าความเป็นกลิ่นขนมชอคโกแลตเบาๆ ที่มีความขมติดปลายเจือในเนื้อกลิ่นแทน

ภาพรวม - อารมณ์ของกลิ่นถือว่าเปิดตัวได้ดีในการสื่อสารถึงคำว่า Black Phantom กับความดาร์กที่มีความดุในระดับหนึ่ง ไม่ได้มากเกินไป และที่สำคัญการเล่นโทนไม้จันทน์หอมในเนื้อกลิ่นมันก็บอกเป็นนัยๆ อยู่แล้วว่ากลิ่นนี้เป็นกลิ่นอายที่เข้ากับพิธีกรรมทางด้านความตายในระดับหนึ่งจึงเข้ากับชื่อรุ่นได้เป๊ะเลยทีเดียว แต่การปรับโทนให้มีความเป็น Gourmand หรือโทนขนมเข้ามา เป็นตัวช่วยให้ไม่ไป Dark จน Dead นัก เพราะมันทำให้มีความใช้ง่ายมากขึ้น ที่แตะความเป็นโทนอบอุ่นได้เป็นอย่างดีที่สำคัญดึงดูดแบบอบอุ่นหอมนวลหวานได้ดี ซึ่งถ้ากลิ่นนี้จะเป็นปีศาจที่ดำมืดจริงๆ ก็ถือว่าเป็นปีศาจที่มีหัวใจที่มีความอบอุ่นและความหวานนวลอยู่ไม่น้อย ดูไม่ได้น่ากลัวแต่เป็นมิตรมากกว่าที่คิด 

เหมาะสำหรับ - Unisex เลย ได้หมดทั้งผู้หญิงและผู้ชายเพราะความเป็นโทนชอคโกแลตเป็นหนึ่งในกลิ่นอบอุ่นที่วางตัวตรงกลางของทั้งทุกเพศอยู่แล้ว โดยสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบจำนวนสเปรย์เหมาะสม ไม่งั้นแทนที่คนจะมองว่าเป็นกลิ่นที่มีความน่าค้นหา ภูมิฐาน และแฝงความดึงดูดแบบไม่โจ่งแจ้ง อาจจะกลายเป็นดาร์กชอคโกแลตเดินได้แทนเสียก่อน ซึ่งใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป กลิ่นจะสร้างออร่าขรึมน่าค้นหาดาร์กไปจนหวานนวลอบอุ่นได้ดีเลย แต่ให้ตัดการใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งและออกกำลังกายไปได้เลย ไม่เข้าทางทุกประการ ส่วนยามค่ำคืนใส่ได้เลย กลิ่นลงตัวไม่โฉ่งฉ่าง แต่ดึงดูดไม่ว่าจะออกงานหรือว่าท่องราตรี 

ความทน - เรียกว่าลงตัวและทำได้ดีกับ 8 ชม. ขึ้นไป ซึ่งก็อิงตามสภาพผิว จำนวนสเปรย์ และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ ส่วนตัวเจอไปที่ 15 ชม. สบายๆ กัยจำนวนสเปรย์ที่ 6 สเปรย์ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลดลงมากระจายปานกลาง จนถึงช่วงท้ายที่เป็นออร่ารอบๆ ตัวชัดเจน พอพ้นซัก 8 ชม. จะเริ่มมาสายออร่าเบาๆ และ Skin Scent ในเวลาต่อมา 

ทิ้งท้าย - ความรู้สึกที่เทสตัวนี้ต่อเนื่องหลายวันเรียกว่าให้อารมณ์ในในทิศทางเดียวกันตลอดเลยว่ากลิ่นนี้เปิดตัวด้วยความเป็น Phantom of the Opera ดำเนินเรื่องมาเรื่อยๆ แล้วมาเปลี่ยนมาเป็น Happy Ending แบบ Beauty & The Beast แบบนี้เลยล่ะ 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ” 

Photo Credithttps://n.nordstrommedia.com/ImageGallery/store/product/Zoom/3/_100561703.jpg



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น