วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

Review: Alexandre.J - Altesse Mysore

Alexandre.J - Altesse Mysore

Alexandre.J เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ทำขวดออกมาได้สุดมากจากใจจริง มาสาย More is More เรียกว่าวางตรงไหนก็ตามจะต้องเห็นขวดของแบรนด์นี้ก่อนยิ่งสีสันของขวดในแต่ละรุ่นเรียกว่าพร้อมเรียกร้องความสนใจกันอย่างชัดเจน ยิ่งในไลน์ The Collector ยิ่งชัดเจนมากถึงความโดดเด่นของขวดจริงๆ ในเมื่อมีโอกาสที่ได้มาใช้แบรนด์นี้ เลยต้องหยิบเอารุ่นที่ขวดดึงดูดความสนใจสุดๆ มานำเสนอกันซักหน่อยว่ากลิ่นจะมาในลักษณะไหน 

Altesse Mysore เป็นหนึ่งในไลน์ The Collector ที่รูปร่างขวดจะโดดเด่นสะดุดตารวมถึงสีขวด ซึ่งรุ่นนี้เองก็มากับสีชมพูบานเย็นกันเลย ซึ่งชื่อรุ่นมีความหมายชัดเจนว่า ราชินีแห่งไมเซอร์ซึ่งไมเซอร์เป็นเมืองหนึ่งของอินเดีย ที่เขาเรียกกันว่า “City of Palaces” เพราะมีพระราชวังไมเซอร์ที่สวยงามมาก กลิ่นเลยสื่อสารได้ชัดเจนถึงบรรยากาศและความมีพลังในโทนหวานสว่างๆ แบบมีชั้นเชิง โดยเปิดต้นกลิ่นกับโทนติดฟรุตตี้ออกทางเบอร์รี่เบาๆ เคล้ากลิ่นสไปซี่เครื่องเทศเผ็ดปนหวานโปร่งของพริกไทยสีชมพูที่จะเด่นวูบขึ้นมา โดยจะรองพื้นด้วยกลิ่นอายแบบติดผิวกายสะอาดเค็มจางๆ หน่อยๆ และกลิ่นยางไม้ออกสมุนไพรเบาๆ ที่เจืออยู่ในกลิ่น โดยช่วงนี้กลิ่นจะมาสายสว่างกันอย่างชัดเจน ให้ความรู้สึกโปร่งแบบกลิ่นเครื่องเทศที่ไม่ได้ดูเป็นอินเดียจ๋ามาก แต่มีความรื่นจมูกและนุ่มนวลมากเลยทีเดียว ได้ความรู้สึกอากาศหอมโปร่งซ่าติดหวานนัวหน่อยๆ เพียงไม่นานกลิ่นอายไม้หอมที่ติดขรึมๆ ของไม้ซีดาร์ก็เริ่มดันเข้ามาเรื่อยๆ พร้อมกับนำเพื่อนมาด้วยอย่างกุหลาบ ซึ่งถือว่าได้เดินทางเข้าสู่ช่วงกลางกันอย่างชัดเจน โดยกุหลาบกลั้วไม้ซีดาร์จะเป็นตัวเอกเด่นนำเด้งมาเลย ได้ความรู้สึกแบบสวนกุหลาาบและมีกลิ่นไม้หอมเจือ ทั้งยังมีมิติของความเป็นผลไม้จากลูกพลัมที่มาสายขรึมดึงดูดปนหวาน และยังมีกลิ่นอายเครื่องเทศโทนเผ็ดโปร่งตามมาแบบเบาๆ ซึ่งทำให้โทนสว่างยังคงอยู่ เลยได้ความรู้สึกที่ทั้งขรึมน่าค้นหา แต่มีความนวลหวาน และมีความสว่างแบบยาวไปจนถึงช่วงท้ายของน้ำหอมที่กลิ่นไม้ซีดาร์จะเด่นชัดขึ้นมาเป็นตัวเอก ที่เจือกลิ่นกุหลาบจางๆ นวลๆ โดยที่จะมีกลิ่นอายนุ่มจมูกของอ้อยอิ่งเบาๆ จากพิมเสนที่โดยเกลากลิ่นให้สว่างโปร่งๆ รองพื้นด้วยกลิ่นอายของวานิลลาอบอุ่นกำลังดี มีกำยานบางๆ และMusk นวลๆ กลิ่นจะมีระดับกำลังดี ไม่ดูพยายาม เลยได้ความรู้สึกน่าเข้าใกล้และมีความปลอดภัยในเนื้อกลิ่นได้ลงตัวและรื่นจมูกไปตลอดจนกว่าจะหายไปจากผิว 

เหมาะสำหรับ - กลิ่นนี้ลงเอาไว้ว่าเหมาะกับสาวๆ แต่ในเนื้อกลิ่นมีความเป็น Unisex พอสมควรจากโทนไม้ซีดาร์ ผู้ชายพอใส่ได้อยู่ ซึ่งจะเหมาะกับวัยทำงานเป็นต้นไป เพราะกลิ่นให้ความรู้สึกขรึมแต่อ่อนโยนแบบที่มีความเป็นผู้ใหญ่ในระดับหนึ่ง ไม่ได้กิงก่องแก้วลั่นล้าแต่ประการใด ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป แต่ไม่เหมาะกับการใส่เพื่อกิจกรรมหนักกลางแจ้งหรือว่าออกกำลังกายแต่อย่างใดแน่ๆ ส่วนยามค่ำคืนใส่ได้แบบออกงานหรือโรแมนติคนี่ลงตัวมาก แต่ถ้าใส่ไปท่องราตรีแม้จะพอได้ถ้าอัดสเปรย์ แต่อาจจะสู้กลิ่นเย้ายวนอื่นๆ ที่ชาวบ้านประโคมกันมากลบเสียเปล่าๆ 

ความทน - กลิ่นทนดีงามมากราวๆ 10 ชม. ขึ้นไป ได้สบายๆ อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ ซึ่งส่วนตัวเจอที่ไป 15 ชม. ทีเดียวกับการใช้งาน 6 สเปรย์ 

การกระจาย - กลิ่นนี้ไม่ได้มาสายปล่อยพลังมาก เพราะอิงกับสภาพแวดล้อมและอบอุ่นแบบกำลังดี เลยจะปล่อยของแบบกระจายดีก่อน แล้วจะลดลงไปที่ปานกลาง ก่อนจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย พอผ่านซักราวๆ 8 ชม. กลิ่นจะเริ่มเป็น Skin Scent ตามลำดับ 

ทิ้งท้าย - กลิ่นนี้ดมแล้วได้ความรู้สึกเหมือนเดินในสถานที่สวยๆ หนึ่งที่มีสวนกุหลาบ และเจอใครซักคนที่ดูอบอุ่นมีออร่าความน่าไว้วางใจ เรียกว่าเป็นเรื่องราวในหัวขึ้นมาเลย เรียกว่ามีความสวยงามและละมุนสว่างมากกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก ซึ่งของเขาดีจริงๆ อันนี้ขอชื่นชม 

หมายเหตุ: 

1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ 

Photo Credit by Fragrantica -https://fimgs.net/images/secundar/o.46878.jpg

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น