วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2561

Review: Cafe de Parfum - Eden

Cafe de Parfum - Eden

“Paradise isn’t a place. It’s a feeling.” – L. Boyer
 

เมื่อเห็นคำโปรยของการเปิดตัวน้ำหอมรุ่น Eden ของ Cafe de Parfum ที่เอาขนมต่างๆ มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์กลิ่นหอมๆ ที่แตกต่าง ความน่าสนใจมันอยู่ที่ว่าขนมอะไรที่ทำให้รู้สึกได้ถึงความฟินราวกับขึ้นสวรรค์ไปยังสวนอีเดนได้บ้าง เมื่อได้ดูข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมมากขึ้น จึงได้รู้ว่า 

Eden เอาความเป็น Fruit Tart มาเป็นหนึ่งในการสร้างสรรค์กลิ่น โดยมีการให้ความรู้สึกแบบทาร์ตผลไม้รวมตั้งแต่ต้นยันจบได้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะกลิ่นอายจะเริ่มจากโทนผลไม้เรียกความสดชื่นและสดใสกันก่อนเลยอย่างสับปะรดที่จะวูบขึ้นมาแบบติดโทนออกทางสับประรดที่แช่น้ำเชื่อมลดโทนเปรี้ยวมาก่อนหน่อยๆ พร้อมกับกลิ่นออกทางติดเปรี้ยวแบบสว่างๆ กำลังดีแนวๆ สายเลมอน เคล้าความเปรี้ยวอมหวานของส้มหน่อยๆ เนื้อกลิ่นมีความชื้นๆ แบบไซรัปหวานเบาๆ ทำให้รู้สึกมีความเป็นกลิ่นอาย Bubble Gum กลิ่นผลไม้ผสมผสานอยู่บ้าง เคล้ากับกลิ่นออกทางเขียวนวลปร่าที่ค่อยเสริมเข้ามา และเป็นการนำเข้าสู่ช่วงกลางที่กลิ่นอายเขียวปร่านวลๆ จะยังคงผสมผสานอยู่ในเนื้อกลิ่นซึ่งชัดเจนเลยว่ากลิ่นอายสไตล์โหระพาที่จะให้ความรู้สึกในลักษณะนี้ และจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นที่หวานกลบโทนเปรี้ยวไปพอสมควรเพราะกลิ่นอายจะมีผลไม้แนวๆ พีช และมีกลิ่นหวานติดเขียวหน่อยๆ ของเมล่อนให้พอจับได้เคล้ากับกลิ่นเบอร์รี่ให้ความรู้สึกชวนยิ้มจางๆ ความสดใสยังมีอยู่ชัดเจนให้ความรู้สึกแบบหวานใส แต่ไม่ดูหวานแบบจัดจ้านเกินไป เลยได้อารมณ์แบบกลิ่นผลไม้ที่เด่นที่โทนหวานลอยมาให้ได้กลิ่นเสียมาก แต่ในเนื้อกลิ่นจะเริ่มมีโทนอบอุ่นแบบกำลังดีค่อยๆ เสริมเข้ามาทีละหน่อยๆกลิ่นจะมีความเป็นกึ่งครีมบางๆ กึ่งวานิลลาที่จะดึงโทนเข้าสู่ช่วงท้ายที่ความเป็นผลไม้จะค่อยๆ จางจนหายไปในที่สุด ปล่อยให้กลิ่นออกทางวานิลลานวลๆ มีความ Smoky เบาๆ ที่ได้อารมณ์แนวๆ คุกกี้หรือตัวฐานที่เป็นถ้วยทาร์ต (ที่กินได้) อารมณ์กลิ่นจะมาลักษณะนั้นที่ออกทางติดผิวกายเรื่อๆ กำลังดีไปตลอด อบอุ่นแบบนวลๆ ไม่ได้ขนมจ๋ามากเกินไปนั่นเอง 

ภาพที่เห็นเชื่อมโยงกับน้ำหอม - กลุ่มเพื่อนชายหญิงที่สนทนากันอย่างออกรสสนุกสนานมีรอยยิ้มอย่างสดใส กับ ฟรุตทาร์ตที่มีผลไม้สีสันพร้อมกลิ่นหอมหวานน่ากินวางตรงหน้า 

เหมาะสำหรับ - กลิ่นนี้มาสายผลไม้แต่ไม่ได้จัดจ้านจนสาวสะพรั่งอะไรขนาดนั้น เลยค่อนมาทาง Unisex ที่อาจจะเบี่ยงมาทางผู้หญิงซัก 60% ได้ ซึ่งผู้ชายก็ใช้ได้สบายมากเพราะกลิ่นไม่ได้มาสายปล่อยความสะพรั่งรอบทิศ ซึ่งกลิ่นมีพลัง และมีความสดใสกำลังดีไปตลอด จึงทำให้เหมาะกับแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวัน โดยเฉพาะยามทั่วๆ ไป ที่ไม่ได้ออกทางสายทางการจัดๆ เกิน ส่วนการใส่ออกกิจกรรมกลางแจ้งทำได้สบายมาก แต่การออกกำลังกายรอช่วงท้ายๆ จะดีกว่า ยามค่ำคืนใส่ได้ตามสะดวกกับเวลาชิลล์ๆ ไปลั่นล้ากินขนม ช้อปปิ้งกับเพื่อน หรือว่าอยู่กับแฟนก็สามารถ แต่ไม่เหมาะกับการใส่ไปเต้นสุดเหวี่ยงในผับในคลับที่ไหน เพราะกลิ่นจะเบาไป โดนชาวบ้านกลบเอาหมดได้ 

ความทน - กลิ่นทนราวๆ 6 ชม. อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ตีไปบวกลบราวๆ 2 ชม. ก็อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น เรียกว่าสับปะรดหวานใสโปร่งมาทักทายได้เลย แล้วจะลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัว ก่อนจะเป็น Skin Scent ในช่วงท้าย 

ทิ้งท้าย - กลิ่นหวานสดใสไม่กิงก่องแก้วดีเลยทีเดียว เข้าทางคนชอบที่กลิ่นอายหวานผลไม้แต่ไม่เลี่ยน และไม่ต้องการกลิ่นที่ขนมจัดจ้านเกินเหตุ เพื่อที่จะได้ใช้ในชีวิตประจำวันได้ง่าย ถือว่าเป็นอีกตัวที่น่าลองไม่น้อย

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ Cafe de Parfum นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ” 

Photo Credit - Facebook Page - Cafe de Parfum



https://www.facebook.com/commerce/products/1829564510448247/?rid=155210415033782&rt=39&hc_location=ufi

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น