The Body Shop - Mango / Mangue
ยามเมื่อเห็นน้ำหอมกลิ่นนี้ของ The Body Shop สิ่งแรกคือ
ทำไมไม่เคยเห็นที่ไทย ก็มาบางอ้อว่าเมืองไทยเอาเข้ามาไม่กี่ตัวซึ่ง Mango หรือมะม่วงกลิ่นนี้ไม่ได้นำมาขาย
เช่นนั้นเมื่อมีโอกาสได้มาจาก US งานนี้ต้องลองเพราะอยากรู้ว่ากลิ่นมะม่วงจะเป็นยังไง
ฉ่ำมากขนาดไหน ผลออกมาก็คือ
มะม่วงจ๋ามาเลย
แต่จะไม่ใช่กลิ่นแนวๆ มะม่วงไทยแบบอกร่องหอมฉ่ำหรือน้ำดอกไม้หวานคม
แต่กลิ่นจะมาแนวคล้ายๆ มะม่วงพันธุ์อาร์ทูอีทูที่เวลาสุกลูกจะเป็นสีแดงกลิ่นหอมมากกว่า
และจะมาลักษณะที่เป็นน้ำมะม่วงเข้มข้น 100%
ที่ตามร้านสมูตตี้เอามาเจือจางปั่นผสมน้ำผลไม้ต่างๆ
ซึ่งจะปรุงแต่งให้ความหวานและกลิ่นมาเต็มกันพอสมควรหรืออกแนวไซรัปมะม่วงเสียส่วนมาก
ซึ่งกลิ่นแรกฉีดนี่ชัดเจนเลย เพราะเป็นกลิ่นของมะม่วงที่เข้มข้นแบบซอสหรือไซรัปฟุ้งกระจายออกมา
ราวกับกำลังเอาน้ำมะม่วงเข้มๆ หวานๆ มาทาตัว ซึ่งกลิ่นจะได้ความหวาน หอม
แบบติดผลไม้เมืองร้อน มีความเป็น Citrus จางๆ
ให้พอรู้สึกได้ตามสไตล์ของมะม่วง ซึ่งแน่นอนว่ากลิ่นจะค่อนข้างเป็นโทนเดียวตั้งแต่ต้นยันจบ
เพียงแต่จะลดระดับลงมาเรื่อยๆ จากมะม่วงเข้มข้นแบบจัดเต็ม จะลงมาเป็นกลิ่นมะม่วงกลางๆแบบหอมหวานแบบอ้อยอิ่ง
แบบที่เราจะได้กลิ่นมะม่วงฉ่ำหวานลอยมา แบบไม่ใช่เอาหน้าไปคลุกหรือน้องแช่น้ำมะม่วงเข้มข้นขนาดนั้น
ซึ่งจะจับได้ถึงกลิ่นอายของวานิลลานวลๆ กับ White
Musk สะอาดๆ จางๆ เป็นสายสนับสนุนให้กลิ่นของมะม่วงนวลมากขึ้น
โดยยังคงความเบาๆ กึ่งใสหวานอยู่แบบได้กลิ่นน้ำมะม่วงแบบห่างๆ
ซึ่งภาพรวมของกลิ่นไม่มีความซับซ้อนอะไร มาเป็นไซรัปมะม่วงแบบไหนก็ยาวไปแบบนั้นเพียงแต่จางและเบาลงไปเรื่อยๆ
จนกว่าจะหายไปจากผิวนั่นเอง
เหมาะสำหรับ -
เขาตราเอาไว้ว่าเป็นน้ำหอมผู้หญิงเพราะมาสาย Fruity
Citrus แต่เอาเข้าจริงๆ ก็พอ Unisex ได้อยู่
ที่สำคัญกลิ่นไม่ได้มาสายปล่อยพลัง เช่นนั้นผู้ชายก็สามารถใช้ได้สบายๆ
เพราะมันไม่ได้ทำร้ายใคร จึงสามารถใส่ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวัน
แต่อาจจะข้ามงานทางการไปจะดีกว่า เพราะกลิ่นมันผลไม้ตรงตัวเกินไป
เดี๋ยวจะทำให้หิวกันเสียก่อน นอกนั้นยามชิลล์ๆ สบายๆ
หรือออกกิจกรรมกลางแจ้งทั่วไปก็ใส่ได้เลย เพียงแต่ว่าถ้าจะใส่ไปออกกำลังกาย
เดี๋ยวจะหิวอีกเช่นกัน พาลเดินเข้ากินข้าวเหนียวมะม่วงแถวไหนไปเสียก่อน
ส่วนยามค่ำคืน เน้นใส่สบายๆ ลั่นล้าดมกลิ่นมะม่วงยาวไปแบบอยู่กับแฟน
เดินเล่นชิลล์ๆ หรือช้อปปิ้งจะดีกว่าที่จะใส่ไปท่องราตรี เพราะกลิ่นมันเบาไป
แม้จะหอมมะม่วงแค่ไหน ถ้าเจอตัวอื่นที่หนักและหวานกว่าโชยมา
ก็โดนชาวบ้านกลบหมดอยู่ดี
ความทน -
เพราะกลิ่นมันโทนเดียวด้วยส่วนหนึ่ง แม้จะเป็น EDT ก็ตาม ความทนจะอยู่ที่ไม่เกิน 4 ชม. จากการฉีดที่ผิวเป็นสำคัญ แต่กลิ่นสามารถทนไปได้มากกว่านี้
ถ้าฉีดที่เสื้อผ้าที่สวมใส่ด้วย ซึ่งความทนที่เจอลากไปที่ 8 ชม. โดยกลิ่นที่ติดเสื้อรุมๆ เบาๆ ได้เลยดีทีเดียว
การกระจาย -
กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวให้คนใส่ได้กลิ่นมะม่วงเต็มๆ
คนรอบข้างอาจจะได้เบาๆ ก่อนจะเป็น Skin Scent ชัดเจนแบบยาวไป ที่พอร่างกายขยับก็จะตีขึ้นมาให้รับรู้ได้
ทิ้งท้าย -
ถ้ามองในแง่ของกลิ่นมะม่วงที่ธรรมชาติ เหมือนเราได้กลิ่นมะม่วงสุกเวลาที่ดมจากลูกหรือกินในปากนั้น
อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์เท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นกลิ่นมะม่วงแบบน้ำผลไม้หรือไซรัปข้นๆ
ที่เป็นเหมือนซอสมะม่วง หรือน้ำมะม่วงเข้มข้น 100%
ก่อนมาเจือจางอันนี้เรียกว่าได้อยู่ และกลิ่นแบบนี้ใครได้กลิ่นก็ทักว่ามะม่วงทุกคนแน่นอน
และขวดจะมี 2 แบบคือฝาอะลูมิเนียม ที่จะเขียนว่า Mango/Mangue
กับฝาดำที่จะเขียนว่า Mango อย่างเดียว
ซึ่งกลิ่นเดียวกัน เพียงแต่วางขายคนละโซนประเทศเท่านั้นเอง
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Credit
ภาพ - https://assets.thebodyshop.com/medias/mango-eau-de-toilette-4-640x640.jpg?context=product-images/h0c/h70/11152099606558/mango-eau-de-toilette_4-640x640.jpg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น