วันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2560

Review: The Body Shop - Mango / Mangue

The Body Shop - Mango / Mangue 

ยามเมื่อเห็นน้ำหอมกลิ่นนี้ของ The Body Shop สิ่งแรกคือ ทำไมไม่เคยเห็นที่ไทย ก็มาบางอ้อว่าเมืองไทยเอาเข้ามาไม่กี่ตัวซึ่ง Mango หรือมะม่วงกลิ่นนี้ไม่ได้นำมาขาย เช่นนั้นเมื่อมีโอกาสได้มาจาก US งานนี้ต้องลองเพราะอยากรู้ว่ากลิ่นมะม่วงจะเป็นยังไง ฉ่ำมากขนาดไหน ผลออกมาก็คือ 

มะม่วงจ๋ามาเลย แต่จะไม่ใช่กลิ่นแนวๆ มะม่วงไทยแบบอกร่องหอมฉ่ำหรือน้ำดอกไม้หวานคม แต่กลิ่นจะมาแนวคล้ายๆ มะม่วงพันธุ์อาร์ทูอีทูที่เวลาสุกลูกจะเป็นสีแดงกลิ่นหอมมากกว่า และจะมาลักษณะที่เป็นน้ำมะม่วงเข้มข้น 100% ที่ตามร้านสมูตตี้เอามาเจือจางปั่นผสมน้ำผลไม้ต่างๆ ซึ่งจะปรุงแต่งให้ความหวานและกลิ่นมาเต็มกันพอสมควรหรืออกแนวไซรัปมะม่วงเสียส่วนมาก ซึ่งกลิ่นแรกฉีดนี่ชัดเจนเลย เพราะเป็นกลิ่นของมะม่วงที่เข้มข้นแบบซอสหรือไซรัปฟุ้งกระจายออกมา ราวกับกำลังเอาน้ำมะม่วงเข้มๆ หวานๆ มาทาตัว ซึ่งกลิ่นจะได้ความหวาน หอม แบบติดผลไม้เมืองร้อน มีความเป็น Citrus จางๆ ให้พอรู้สึกได้ตามสไตล์ของมะม่วง ซึ่งแน่นอนว่ากลิ่นจะค่อนข้างเป็นโทนเดียวตั้งแต่ต้นยันจบ เพียงแต่จะลดระดับลงมาเรื่อยๆ จากมะม่วงเข้มข้นแบบจัดเต็ม จะลงมาเป็นกลิ่นมะม่วงกลางๆแบบหอมหวานแบบอ้อยอิ่ง แบบที่เราจะได้กลิ่นมะม่วงฉ่ำหวานลอยมา แบบไม่ใช่เอาหน้าไปคลุกหรือน้องแช่น้ำมะม่วงเข้มข้นขนาดนั้น ซึ่งจะจับได้ถึงกลิ่นอายของวานิลลานวลๆ กับ White Musk สะอาดๆ จางๆ เป็นสายสนับสนุนให้กลิ่นของมะม่วงนวลมากขึ้น โดยยังคงความเบาๆ กึ่งใสหวานอยู่แบบได้กลิ่นน้ำมะม่วงแบบห่างๆ ซึ่งภาพรวมของกลิ่นไม่มีความซับซ้อนอะไร มาเป็นไซรัปมะม่วงแบบไหนก็ยาวไปแบบนั้นเพียงแต่จางและเบาลงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหายไปจากผิวนั่นเอง

เหมาะสำหรับ - เขาตราเอาไว้ว่าเป็นน้ำหอมผู้หญิงเพราะมาสาย Fruity Citrus แต่เอาเข้าจริงๆ ก็พอ Unisex ได้อยู่ ที่สำคัญกลิ่นไม่ได้มาสายปล่อยพลัง เช่นนั้นผู้ชายก็สามารถใช้ได้สบายๆ เพราะมันไม่ได้ทำร้ายใคร จึงสามารถใส่ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวัน แต่อาจจะข้ามงานทางการไปจะดีกว่า เพราะกลิ่นมันผลไม้ตรงตัวเกินไป เดี๋ยวจะทำให้หิวกันเสียก่อน นอกนั้นยามชิลล์ๆ สบายๆ หรือออกกิจกรรมกลางแจ้งทั่วไปก็ใส่ได้เลย เพียงแต่ว่าถ้าจะใส่ไปออกกำลังกาย เดี๋ยวจะหิวอีกเช่นกัน พาลเดินเข้ากินข้าวเหนียวมะม่วงแถวไหนไปเสียก่อน ส่วนยามค่ำคืน เน้นใส่สบายๆ ลั่นล้าดมกลิ่นมะม่วงยาวไปแบบอยู่กับแฟน เดินเล่นชิลล์ๆ หรือช้อปปิ้งจะดีกว่าที่จะใส่ไปท่องราตรี เพราะกลิ่นมันเบาไป แม้จะหอมมะม่วงแค่ไหน ถ้าเจอตัวอื่นที่หนักและหวานกว่าโชยมา ก็โดนชาวบ้านกลบหมดอยู่ดี 

ความทน - เพราะกลิ่นมันโทนเดียวด้วยส่วนหนึ่ง แม้จะเป็น EDT ก็ตาม ความทนจะอยู่ที่ไม่เกิน 4 ชม. จากการฉีดที่ผิวเป็นสำคัญ แต่กลิ่นสามารถทนไปได้มากกว่านี้ ถ้าฉีดที่เสื้อผ้าที่สวมใส่ด้วย ซึ่งความทนที่เจอลากไปที่ 8 ชม. โดยกลิ่นที่ติดเสื้อรุมๆ เบาๆ ได้เลยดีทีเดียว 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวให้คนใส่ได้กลิ่นมะม่วงเต็มๆ คนรอบข้างอาจจะได้เบาๆ ก่อนจะเป็น Skin Scent ชัดเจนแบบยาวไป ที่พอร่างกายขยับก็จะตีขึ้นมาให้รับรู้ได้

ทิ้งท้าย - ถ้ามองในแง่ของกลิ่นมะม่วงที่ธรรมชาติ เหมือนเราได้กลิ่นมะม่วงสุกเวลาที่ดมจากลูกหรือกินในปากนั้น อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์เท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นกลิ่นมะม่วงแบบน้ำผลไม้หรือไซรัปข้นๆ ที่เป็นเหมือนซอสมะม่วง หรือน้ำมะม่วงเข้มข้น 100% ก่อนมาเจือจางอันนี้เรียกว่าได้อยู่ และกลิ่นแบบนี้ใครได้กลิ่นก็ทักว่ามะม่วงทุกคนแน่นอน และขวดจะมี 2 แบบคือฝาอะลูมิเนียม ที่จะเขียนว่า Mango/Mangue กับฝาดำที่จะเขียนว่า Mango อย่างเดียว ซึ่งกลิ่นเดียวกัน เพียงแต่วางขายคนละโซนประเทศเท่านั้นเอง 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ 

Credit ภาพ - https://assets.thebodyshop.com/medias/mango-eau-de-toilette-4-640x640.jpg?context=product-images/h0c/h70/11152099606558/mango-eau-de-toilette_4-640x640.jpg

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น