Technique Indiscrete - Paname Paname
ตอนที่ได้ยินชื่อแบรนด์นี้ครั้งแรก
เรียกว่ามีความอยากเป็นการส่วนตัวตามประสาคนที่อยากรับรู้กลิ่นใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เช่นนั้นเลยหาข้อมูลกันเลยเพื่อเตรียมตัวจัดมาลอง ซึ่ง Technique Indiscrete ก่อตั้งขึ้นโดย Perfumer
อย่าง Libertin Louison ที่เป็นชาวเบลเยี่ยมเมื่อปี 2008 ซึ่งเป็นแบรนด์ของตัวเองไปเลย และมีน้ำหอมที่ปล่อยออกมาเรื่อยๆ
จนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งแน่นอนสาย Niche กันเต็มๆ ซึ่งเมื่อได้มีโอกาสได้ลองรุ่นที่ชื่อ
Paname Paname ที่แปลว่า Paris Paris เลยต้องมาบอกเล่ากันหน่อยว่ากลิ่นนี้น่าสนใจมากแค่ไหน
กลิ่นเปิดมาในวูบแรกกลิ่นโทนซิตรัสของส้มที่นำเด่นจะแว้บมาทักทายก่อน
แต่เพียงแค่แว้บเดียวกลิ่นยี่หร่าแขกจะเสริมเข้ามาเร็วมาก
กลิ่นจะผสมผสานกันจนได้อารมณ์ของเครื่องเทศที่กลิ่นค่อนไปทางมัสมั่นที่เราจะได้กลิ่นยี่หร่ามาเต็มทำนองนั้น
แต่ว่ากลิ่นจะไม่ได้แรงจนกลายเป็นแขกตะวันออกกลางหรืออินเดีย
มาสายแบบกำลังดี ออกทางเป็นกลิ่นยี่หร่าที่ไม่หนักมากนักเสียด้วยซ้ำไป
ทำให้ได้เสน่ห์ไปอีกแบบและไม่ทำให้ตกใจมากนัก ซึ่งไม่นานกลิ่นอายของความเป็นกลิ่นแอปเปิ้ลที่กลั้วกับความเป็นขนมติดวานิลลาจะเสริมเข้ามาตัดทอนความเป็นยี่หร่าลงไปบ้างเล็กน้อย
แต่ทำให้กลิ่นที่ได้มันมีเสน่ห์แบบความเป็นกลิ่นขนมหวานๆ มีผลไม้เจือๆ
มีเครื่องเทศผสมผสานไปในตัวซึ่งในเนื้อกลิ่นแม้จะจับได้ถึงโทนดอกไม้จางๆ
จากมะลิเบาๆ แต่มาแบบเสริมให้กลิ่นมีมิตินวลดอกไม้บ้าง ไม่ได้เป็นของกินจัดๆ
เกินไป ที่สำคัญจะได้กลิ่นที่ค่อยๆ ปล่อยของเข้ามาทีละนิดของ Oak Moss จนเป็นหนึ่งในกลิ่นที่มาเต็มชัดมาก
และนำเข้าสู่ช่วงท้ายที่กลิ่นจะมีลักษณะของกลิ่นโทนหรูหราติดความเป็น Retro
แบบกรุยกรายมีระดับแต่จะไม่ได้มาแบบแน่นหนักหน่วง
เพราะในเนื้อกลิ่นจะมีความนุ่มจมูกเคล้าในความเป็นลักษณะแบบเขียวสากของ Oak
Moss กลั้วพิมเสนจางๆ กับกลิ่นอายๆ ลึกๆ อุ่นๆ
ของแอมเบอร์มันเลยจะออกทางละมุนสมดุลมาก แต่เพราะกลิ่นอายของความเป็นโทนติดขนมเครื่องเทศในช่วงกลางยังตามมาในช่วงนี้
เลยทำให้กลิ่นไม่ได้ออกทาง Old School เกินไป
ออกทางร่วมสมัยที่แตะความรู้สึกแบบจะหวานก็ได้ จะเก๋ก็ดี
และจะกรุยกรายก็สามารถนั่นเอง
เหมาะสำหรับ -
ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป เรียกว่ากลิ่นนี้สร้างความรู้สึกมีระดับแบบเก๋ๆ
ฉีกความรู้สึกแบบที่คิดนอกกรอบ แต่ไม่ทิ้งกรอบเดิมที่ควรจะเป็น
เรียกว่าเป็นกลิ่นสาวเก๋ Working Woman แบบมีชั้นเชิงเลยก็ว่าได้ เลยจะเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันทั้งทางการและทั่วๆ
ไป กลางแจ้งพอได้ เพราะกลิ่นมาแบบหรูๆ เสียด้วย เลยจะไม่ปล่อยพลังมากขนาดนั้น
แต่ไม่เหมาะกับการใส่เพื่อออกกำลังกายเพราะกลิ่นไม่ได้มาสายนี้
ส่วนยามค่ำคืนถ้าใส่แบบสบายๆ เก๋ๆ หรือออกงาน หรือดินเนอร์กับแฟนถือว่าได้หมด
แต่ถ้าใส่ไปท่องราตรีข้ามจะดีกว่า เพราะมันมีมาดในเนื้อกลิ่นที่ไม่ได้ออกทางจะเน้นเซ็กซี่นัก
เน้นมีคลาสและแอบถือตัวประมาณนั้น ส่วนผู้ชายทั้งหลาย เอาจริงๆ
ก็ใส่กลิ่นนี้ได้ เพราะกลิ่นมีความเป็น Unisex ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
และไม่ได้สาวจ๋าจัดจ้านเกินกว่าเหตุเสียด้วย
ความทน -
อยู่ที่ประมาณ 6-8 ชั่วโมง
ซึ่งอิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ ส่วนตัวเจอไปที่ 8 ชม. กำลังดีกับ 6 สเปรย์
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีกึ่งกลางๆ
ในตอนต้น เรียกว่าอาจจะตกใจกับกลิ่นยี่หร่ากันหน่อย
แต่แค่ไม่นานก็จะเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงกลาง แล้วเปลี่ยนเป็น Skin Scent ในช่วงท้าย เรียกว่า
ไม่ได้มาสายปล่อยพลังรอยทิศ และปล่อยพลังแบบมีระดับที่เดินเข้ามาใกล้ๆ สิ
แล้วจะได้กลิ่น
ทิ้งท้าย -
เดิมทีไม่ได้ถึงกับปลื้มกลิ่นยี่หร่าแขกเท่าไหร่ เพราะมันจะนึกถึงกลิ่นตัวแขกที่กินพวกเครื่องเทศแบบนี้เยอะ
แต่แปลกที่ตัวนี้ทำออกมาได้ดีและสมดุลแกมนุ่มนวลและ Modern มากกว่าที่คิด
แถมแตะความรู้สึกแบบเหมือนอยู่ในขนบ แต่แอบฉีกความรู้สึกออกมานอกกรอบจนเป็นลักษณะผสมผสานได้น่าสนใจมาก
ซึ่งถือว่าเป็นอีกแบรนด์ Niche ที่น่าลองในอีกหลายๆ
ตัวในอนาคตเลยทีเดียว
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Credit ภาพ
- https://fimgs.net/images/perfume/nd.11282.jpg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น