Guerlain – La Petite Robe Noire EDP 2012
ต่อเนื่องมาจากการ Review รุ่น La Petite Robe Noire
EDT ไปก่อนหน้านี้ ก็ได้เวลาของรุ่น EDP บ้างที่มีโอกาสได้ลองบ้าง
ซึ่ง Guerlain ได้เอารุ่นนี้กลับมาปรับปรุงใหม่จากเดิมเป็นรุ่น Limited
Edition ในปี 2009 เพื่อให้กลายเป็นรุ่นหลักในปี 2012 ซึ่งจะทำออกมาได้แตกต่างหรือว่าเปลี่ยนความรู้สึกหรือไม่
ก็ขอพิสูจน์กันหน่อย
(เนื่องจากไม่เคยได้ลองรุ่นปี
2009 จึงจะไม่ได้บอกเล่าถึงความเปลี่ยนแปลงของกลิ่นจากของเดิม
เน้นเล่ากลิ่นของรุ่นปี 2012 และเทียบกับตัว EDT แทน)
ถ้า EDT จะได้อารมณ์คุณหนูที่เป็นสาวสะพรั่งทั้งมั่นใจและเป็นกันเอง
โดยได้ความรู้สึกโทนสว่าง ฝั่ง EDP จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างมาในลักษณะที่เข้มขึ้นและมีความ
Noire สมชื่อมากขึ้นแม้จะมาในลักษณะที่โทนกลิ่นไม่แตกต่างกันเท่าไหร่
โดยเปิดตัวด้วย Top Notes อย่างเชอร์รี่ที่จะมาให้ความเป็นโทนผลไม้เจือหวาน
แต่จะมีความแหลมของกลิ่นติดโทนเปรี้ยวซิตรัสผสมผลไม้จากโทนเบอร์รี่กันเข้ามาด้วย
กลิ่นเลยจะได้ความเป็น Fruity เปรี้ยวอมหวานฟุ้งกระจายออกมา
แต่สิ่งที่จะสัมผัสได้ต่อมาคือกลิ่นอายของอัลมอนด์ที่ให้ความนวลหวานจะเริ่มแทรกขึ้นมาผสมผสานกลายเป็นกลิ่นอายที่มีลูกล่อลูกชนของโทนผลไม้ผสมความหวานนวลแบบแป้งติดถั่วได้ลงตัวมากเลยทีเดียว
ซึ่งกลิ่นอายของความเป็นเชอร์รี่ เบอร์รี่ และอัลมอนด์จะยังตามไปยังช่วงกลางที่จะเริ่มมีความหวานหอมเสริมเข้ามาจากชะเอม
ซึ่งกลิ่นนี้จะเป็นกลิ่นหวานติดเครื่องเทศที่มีความนิ่งขรึมติดดาร์กหน่อยๆ
ซึ่งจะทำให้กลิ่นนี้นัวร์ขึ้นมาอย่างชัดเจน ตามด้วยตัวสนับสนุนสายนัวร์อีกหนึ่งอย่างชาดำที่กลิ่นจะติด
Smoky หน่อยๆ ทำให้กลิ่นนี้มีความเข้มนัวร์สมชื่อมากขึ้น
แกมไปด้วยความนิ่ง แต่สิ่งที่มาทำให้เกิดความเย้ายวนปรับความเปรี้ยวอมหวานในช่วงต้นเป็นหวานอมเปรี้ยวนวลนั่นคือกลิ่นอายของกุหลาบที่เป็นอีกหนึ่งกลิ่นสนับสนุนให้มีความเป็นผู้หญิงอย่างชัดเจนในช่วงนี้
ซึ่งเนื้อกลิ่นของเชอร์รี่และอัลมอนด์ รวมถึงกลิ่นอายหวานดาร์กนัวจะเริ่มผันตัวเป็นสายรองให้กลิ่นอายอบอุ่นของวานิลลาเสริมเข้ามาโดยจะมีความครีมมี่นวลๆ
กำลังดี มีความเย้ายวนชัดเจนมากขึ้น โดยกลิ่นอายดาร์กหวานจากช่วงกลางจะมีตัวรับช่วงต่อให้ความนวลอ้อยอิ่งดึงดูดของพิมเสนที่เสริมความเซ็กซี่น่าค้นหาในความหวานครีมมี่นวลอุ่น
ซึ่งภาพรวมได้ความรู้สึกเหมือนเห็นผู้หญิงคนนึงที่ไม่ได้แต่งตัวอะไรแบบเซ็กซี่เลย ออกแนวเรียบง่ายเสียด้วยซ้ำ แต่มี Sex
Appeal ดึงดูดสูงมากเป็นออร่าออกมานั่นเอง
เหมาะสำหรับ – ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป
กลิ่นนี้เรียกว่ามีความเข้มนัวร์น่าค้นหา หวานแต่ขรึมเน้นปล่อยของผ่านกลิ่นในหน้านิ่งๆ
ยิ้มมุมปากอะไรประมาณนั้น ซึ่งเหมาะกับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันทั้งทางการ
ซึ่งก็ได้อยู่ถ้าจำนวนสเปรย์เหมาะสม หรือยามทั่วๆ ไปก็จัดไปได้ตามสะดวก
เพียงแต่จะไม่เหมาะกับการใส่ออกกิจกรรมกลางแจ้งหรือว่าออกกำลังกายแต่อย่างใด
เดี๋ยวกลิ่นตีขึ้นจุกคอหอยตายก่อน ส่วนยามค่ำคืนจัดไป อัดสเปรย์ไป
กลิ่นนี้ถือว่าเซ็กซี่แบบไม่โจ่งแจ้งและมีระดับมากแบบที่เป็นผู้หญิงมั่นใจในตัวเอง
และพร้อมปล่อยของแบบไม่โจ่งแจ้งเกินไปให้น่าค้นหานั่นเอง
ความทน – กลิ่นทนอยู่ที่ราวๆ 8 ชั่วโมง ซึ่งอิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีด
การกระจาย – กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น
เรียกว่ามาเต็มและมาชัดมาก แล้วจะลดลงมากระจายกลางๆ ก่อนจะปิดท้ายที่ออร่ารอบๆ ตัว
พอพ้นซัก 6 ชม. ไปแล้วจะเป็น Skin Scent
ทิ้งท้าย – ง่ายๆ เลย EDT คือน้องสาวที่สดใสสะพรั่งลั่นล้า
แต่ EDP ปี 2012 คือ
พี่สาวที่นิ่งขรึมกว่ามีความเซ็กซี่เย้ายวนแบบไม่โจ่งแจ้งรู้จักปล่อยของและรู้จักควบคุมความรู้สึกของตัวเองตามสถานการณ์นั่นเอง
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Credit ภาพ
- http://parfiumbg.com/images/robe%20noire%20box.jpg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น