Hermes - Eau de Rhubarbe Ecarlate
หนึ่งใน Best Perfumes of 2016 ในส่วนของน้ำหอม Unisex
ของ Fragrantica ที่ถือว่าสมฐานะและคุณภาพมาเต็มกับการแสดงฝีมือเพื่อเข้าสู่การเปลี่ยนถ่ายจาก
Perfumer หลักคนเก่าของ Hermes อย่าง Jean-Claude
Ellena เป็นคนใหม่ที่รับช่วงต่อ คือ Christine Nagel ที่แบ่งภาคเหลือง - แดงกันคนละตัว กับการเสริมทัพไลน์ Eau de
Cologne ของ Hermes เช่นนั้น นานๆ ทีจะเจอน้ำหอมที่กลิ่นอายของความเป็นสีแดงเด่นๆ
ก็ต้องจัดกันหน่อยแล้ว ว่ากลิ่นอายจะเป็นอย่างไรบ้าง
เพียงแค่ฉีดออกมากลิ่นอายเปรี้ยวสดชื่นได้อารมณ์แบบแยมสีแดงๆ
เด้งออกมาเลย นั่นคือ กลิ่นอายของผักที่ชื่อว่า Rhubarb
ซึ่งในเนื้อกลิ่นจะสัมผัสได้ถึงความเป็นโทน Citrus ติดเขียวแบบผักหน่อยๆ ที่รองพื้นเป็นฉากหลัง กลิ่นเลยจะเป็นลักษณะที่ธรรมชาติมากเลยทีเดียว
และเพียงชั่วขณะวูบของกลิ่นอายแบบโทนเบอร์รี่จะเข้ามานำผสมผสาน
กลิ่นอายเลยจะเป็นโทนสีแดงย้ำเข้าไปอีก โดยที่ยังมีความเปรี้ยวสดชื่นชัดเจน
เพียงแต่จะไม่ได้เป็นลักษณะแบบผักผลไม้เดินได้ขนาดนั้น เพราะในเนื้อกลิ่นมีลักษณะโทน Airy ที่ออกทางโทนเย็นๆ แทรกเข้ามาด้วยตลอด
เลยจะได้ความสดชื่นแบบอากาศยามเช้าเคล้ากลิ่นเปรี้ยวธรรมชาติ
เข้าทางสไตล์ Cologne ชัดเจน ซึ่งกลิ่นโทนเปรี้ยวสดชื่นจะเริ่มลดลงไปกลายเป็นผู้สนับสนุนรองให้กลิ่นอายนุ่มนวลของ
White Musk เป็นตัวเด่น และจะแอบมีกลิ่นนวลๆ ของกุหลาบบางๆ
ให้รู้สึกถึงความนวลในเนื้อกลิ่น และจะได้ความสะอาดสบายจมูกกันอย่างชัดเจน
โดยที่กลิ่นสดชื่นจะมีอยู่จางๆ ให้กลิ่นคุมโทนความเป็น Cologne ได้ดีและธรรมชาติไปตลอดตั้งแต่ต้นยันจบเลยทีเดียว
เหมาะสำหรับ -
ทุกเพศเลย กลิ่นเข้าถึงได้ง่ายมากและมีระดับมากพอจากกลิ่นอายที่เป็นโทนตามธรรมชาติกันพอสมควร
แถมยังเป็นโซนที่มหาชนชอบ ไม่ยี้ยามได้กลิ่นเสียด้วย ยกเว้นคนที่ไม่ชอบกลิ่นเปรี้ยวๆ
โดยสามารถใส่ได้ในทุกสถานการณ์ยามกลางวัน แบบกวาดหมดครอบจักรวาลมาก
ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป ส่วนยามค่ำคืน ถ้าอากาศร้อนๆ ใส่เพื่อเพิ่มความสดชื่นอันนี้ได้
แต่ถ้าจะเอาไปเที่ยวราตรีตามผับบาร์บอกเลย #นก แน่นอน กลิ่นเบาไป
ความทน -
เพราะพื้นฐานตัวนี้เป็น Eau de Cologne และมาสายสดชื่นติดธรรมชาติ ต้องทำใจว่ากลิ่นจะไม่ได้ทนมากนัก
เฉลี่ยความทนจะอยู่ได้ไม่เกิน 6 ชม.
ซึ่งก็เป็นธรรมชาติของกลิ่นโทนนี้ ทั้งๆ ที่กลิ่นดีและหอมสดชื่นมากจริงๆ
การกระจาย -
กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ก่อนจะลดลงมาแบบออร่ารอบๆ ตัว แล้วกลายเป็น Skin Scent แบบยาวไป
ซึ่งก็เป็นไปตามลักษณะของการเป็น Safe Scent นั่นเอง
ทิ้งท้าย -
กลิ่นดีมากกกกก มีความเป็นธรรมชาติสูงมากที่ทำให้รู้สึกสบายและสดชื่น
กระปรี้กระเปร่าจริงๆ ยิ่งใครที่ชอบกลิ่นอายเปรี้ยวสดชื่น รวมถึงสไตล์แบบ Jo Malone อันนี้ตอบโจทย์ทุกสิ่งอย่างจริงๆ
ถือว่าการที่ได้ตำแหน่ง Best Perfume ฝั่ง Unisex ของปี 2016 ก็สมฐานะที่ควรจะเป็น
ที่สำคัญเอาตำแหน่งนี้ไปเพิ่มได้เลยจากผม นั่นคือ#ของดีเทคนิคไม่ต้อง
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Credit ภาพ
- http://media.hermes.com/media/wysiwyg/visuel-gamme-ERE.jpg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น