Mont
Blanc – Legend Spirit
สิ่งหนึ่งที่ทำให้รู้สึกประทับใจในครั้งแรกที่ได้เห็นว่า
Mont
Blanc ได้ปล่อยน้ำหอมตัวใหม่ออกมาแม้ว่าขวดจะมาในลักษณะเดิมแบบต้นตระกูลอย่างรุ่น
Legend แต่สีขวดที่ได้เห็นอย่างสีขาวคล้ายกระเบื้องเคลือบสวยงามตัดกับสีเงินเมทัลลิคในส่วนหัวฉีดและจุกปิดได้ลงตัวและสวยมาก
ซึ่งเลยเป็นที่มาของการขวนขวายหาโอกาสที่จะได้จัดเต็มกับ Flanker ตัวล่าสุดของไลน์นี้ นั่นคือ Legend Spirit นั่นเอง
แรกเริ่มสเปรย์สิ่งหนึ่งที่จะสัมผัสได้จาก
Top
Notes คือ ความสดชื่นจากโทนซิตรัสติดโทนผลไม้แบบที่มีความเป็นโทน Aquatic
เข้ามาเสริม เพราะกลิ่นของมะกรูดจะให้โทนเปรี้ยวติดขมจางๆ
เกรฟฟรุตจะมาให้โทนเปรี้ยวสดชื่นสว่างๆ
แต่จะโดนกล่อมให้ลงตัวจากเครื่องเทศโทนหวานติดกลิ่นเบอร์รี่อย่างพริกไทยสีชมพู
เลยทำให้กลิ่นในช่วงนี้ได้ความรู้สึกสดชื่นแบบไม่ได้มีความคมบาดจมูกให้ความรู้สึกกระปรี้กระเปร่าลงตัว
แล้วเพียงไม่นานกลิ่นอายนุ่มสะอาดของลาเวนเดอร์จะเริ่มเข้ามาเสริมและดึงเข้าสู่ Middle
Notes ที่โทนซิตรัสติดผลไม้จะเริ่มผ่อนลงไปเป็นตัวสนับสนุน
โดยจะล้อมด้วยกลิ่นโทน Aquatic แบบน้ำสดชื่นที่จะชัดเจนมากขึ้น
และมีตัวเอกอย่างลาเวนเดอร์ที่จะมาให้กลิ่นที่นุ่มนวลสะอาดแบบ Modern ผสมผสานไปด้วย ซึ่งในเนื้อกลิ่นจะมีความรู้สึกอมหวานติดเย้ายวนแบบเบาๆ
จากเครื่องเทศเสริมเข้ามาให้มีมิติไม่ดูออกทางสดใสเกินไปนัก
และยังมีความรู้สึกแบบต้นตระกูลที่กลิ่นอายจะนุ่มนวลกลั้วกลิ่นหวานผลไม้นุ่มเย้าได้อยู่ในช่วงนี้แบบรองพื้นให้รู้สึกได้
หลังจากผ่านไประยะหนึ่งกลิ่นโทนนุ่มๆ ของ Musk จะเริ่มดันขึ้นมาผสมผสานกับกลิ่นลาเวนเดอร์จนนำเข้าสู่
Base Notes ที่กลิ่นจะมาในโทนนวลจมูกรองพื้นด้วยความสะอาด
เสริมด้วยกลิ่นอายที่มีระดับและชั้นเชิงให้โทนโปร่งสว่างของไม้หอมที่มาเสริมความนุ่มในลักษณะที่เป็นสุภาพบุรุษลงไปในเนื้อกลิ่น
แน่นอนว่าความสดชื่นยังคงมีแบบอ่อนๆ ให้รู้สึกได้
ภาพรวมจึงได้ความรู้สึกแบบผู้ชายมาดสะอาดสะอ้านในชุดสีขาวนวลสว่างตา
ดูสุภาพติดขี้อายหน่อยๆ ที่ให้ความรู้สึกสดชื่นได้จากการได้กลิ่นและมองนั่นเอง
เหมาะสำหรับ
– ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาวิทยาลัยขึ้นไปก็สามารถใช้งานตัวนี้ได้อย่างสบายมาก
เพราะกลิ่นเข้าถึงง่ายแบบที่ยังคงความมีระดับในเนื้อกลิ่นให้ผู้คนได้สัมผัสถึงความนุ่มนวลโปร่งสว่างที่สัมผัสได้ไปตลอด
จึงเหมาะกับทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะงานทางการหรือทั่วๆ ไปในชีวิตประจำวัน
แม้กระทั่งออกกำลังกายยังสามารถใส่ตัวนี้ได้
ถือว่าเป็นตัวครอบจักรวาลได้เลยทีเดียว ส่วนยามค่ำคืนถ้าเป็นลักษณะแบบทั่วๆ ไป
เช่น พักผ่อน หรือโรแมนติคกับคนรักก็สามารถ
แต่อาจจะไม่ค่อยเข้าทางเวลาที่จะเอาไปท่องราตรีเท่าไหร่เพราะกลิ่นสุภาพไป
ซึ่งแนะให้ไปที่รุ่น Legend Intense จะเข้าทางกว่า
ถ้าจะเน้นทางปล่อยของด้านเซ็กซี่เย้ายวนกรุ้มกริ่มแบบผู้ชายเจ้าเสน่ห์
ความทน
– อยู่ที่ประมาณ 6 – 8 ชม. ตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีด
การกระจาย
– กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลดระดับมากระจายกลางๆ หอมนุ่มกลั้วสดชื่น
และปิดท้ายที่ออร่ารอบๆ ตัวติด Skin Scent ที่เข้ามาใกล้ๆ
หรือเดินสวนกันก็จะรู้สึกถึงกลิ่นได้ไม่ยาก
ทิ้งท้าย
– เรียกว่าเป็นลักษณะอีกรูปแบบของ Mont Blanc Legend ที่เพิ่มความสดชื่นแบบผู้ชายยิ้มง่ายและมีความเป็นสุภาพบุรุษในเนื้อกลิ่นมากขึ้น
โดยลดโทนความขี้เล่นกรุ้มกริ่มของรุ่นต้นตระกูลลงไปเอาใจคนชอบสดชื่นมากขึ้นนั่นเอง
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ
Credit
ภาพ - http://www.tendance-parfums.com/media/resized/570/570/bgcolor-255-255-255/media/brand/1451905616.5826.jpg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น