วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

Review: Lalique – Nilang (Vintage)

Lalique – Nilang (Vintage)

หลังจากที่ได้ว่ากันถึงรุ่นที่แตก Flanker ออกไปอย่าง Claire de Nilang ของ Lalique แล้ว ก็ขอย้อนกลับมาที่กลิ่นอายต้นตำรับกันบ้างว่าจะออกในลักษณะไหน เชื่อมโยงด้วยกลิ่นอายแบบไหน แฝงด้วยความเป็น Peppery ตามที่แบรนด์นี้เขาเก่งและถนัดหรือไม่ ก็ต้องมาดมกันผ่านตัวหนังสือกันหน่อยเลยกับรุ่น Nilang

ต้องบอกกันก่อนว่า Nilang ตัวที่จะมาบอกเล่านี้จะเป็นรุ่น Vinatge ในขวดทรงแจกันดอกไม้สวยๆ ไม่ใช่รุ่นปรับปรุงใหม่ของปี 2011 โดยเมื่อได้สัมผัสแล้วเลยจะรู้ถึงความเชื่อมโยงของน้ำหอมไลน์นี้ได้ไม่ยากเลยนั่นคือความเป็นดอกไม้ที่มีความเป็นพริกไทยอ่อนๆ แฝงอยู่ ถอดกันมาเลย เพียงแต่ Nilang จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปแต่ละช่วงและผสมผสานกันได้อย่างน่าดูชมเลยทีเดียว เพราะ Top Notes เปิดตัวด้วยโทนดอกไม้กันก่อนโดยจะสัมผัสได้ว่ามีกลิ่นโทนหวานติดขนมรองพื้นออกทางชอคโกแลตให้รู้สึกได้มีความแน่นในระดับหนึ่ง แต่กลิ่นดอกไม้ยังคงเด่นขึ้นมานั่นคือดอกบัวและนาซิสซัสจะมาแบบหอมใสอมหวานมีความนวลจางๆ จากมะลิและกลิ่นออกโทน Peppery อ่อนๆ ซึ่งกลิ่นโทนดอกไม้นี้จะยังคงอยู่ลากยาวไปผสมผสานกับ Middle Notes ที่จะมีกลิ่นหวานอมเปรี้ยวจางๆ ของบลูเบอร์รี่เข้ามาทำให้กลิ่นมีความเป็นผลไม้ผสมดอกไม้ที่ยังคงเด่นที่ดอกบัวอยู่ ซึ่งลักษณะแบบกลิ่นที่ลอยขึ้นมาให้รับรู้จะออกทางดอกไม้ใสๆ อมหวานผลไม้โดยที่ถ้าดมที่ผิวจะรู้สึกได้ถึงกลิ่นที่อบอุ่นติดขนมรองพื้นไว้ ซึ่งกลิ่นโทนอบอุ่นจะเริ่มเปิดเผยตัวต้นชัดเจนเมื่อเข้า Base Notes เพราะกลิ่นของชอคโกแลตสอดใส้ (Praline) จะมาแบบอบอุ่นหอมหวานกำลังดี มีกำลังเสริมด้วยแอมเบอร์ที่ให้กลิ่นอบอุ่นเคล้าไม้หอ และมีกลิ่นของวานิลลาเสริมเข้ามาให้นุ่มนวลด้วย ภาพรวมเลยเป็นเหมือนน้ำหอมที่ไล่เรียงความเป็นดอกไม้ที่หอมหวาน และมีหลายระดับตั้งแต่หวานดอกไม้ หวานอมผลไม้ และหวานอบอุ่นไล่เรียงกันลงมานั่นเอง

เหมาะสำหรับ ผู้หญิงเลยจ้าทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็สามารถแล้ว เพราะว่ากลิ่นอยู่กึ่งกลางระหว่างความเป็นดอกไม้ ผลไม้ และขนมหวานเบาๆ ซึ่งเรียกว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะได้น่าดูชม โดยสามารถใส่ได้ในหลายสถานการณ์ยามกลางวัน งานทางการก็สามารถ ทั่วๆ ไปก็ลงตัว แต่งดใส่เพื่อออกกำลังกายจะดีที่สุด เพราะพื้นฐานคือกลิ่นขนม อาจจะตีขึ้นจนตกใจเอาได้ ส่วนยามค่ำคืนก็ใส่ได้อัดสเปรย์หน่อยก็เอาอยู่ได้สบายๆ

ความทน ประมาณ 8 ชม. อาจจะบวกลบประมาณ 2 ชม. อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ

การกระจาย กลิ่นกระจายดีมากในช่วงต้น ก่อนจะลดลงกระจายปานกลาง และปิดท้ายด้วยออร่ากลิ่นอบอุ่นติดหวานรอบๆ ตัว

ทิ้งท้าย
กลิ่นUnique มาก ยิ่งได้ดมจากรุ่น Vintage แบบนี้กลิ่นแม้จะมีความเข้มข้นของความเป็นขนมอุ่นๆ รองพื้นแน่นขึ้นมา แต่เสน่ห์ของดอกไม้ยังเด่นชัดให้รับรู้ได้ ถือว่ากลิ่นลงตัวและงดงามเลยทีเดียว ทำให้คิดว่ารุ่นที่ปรับปรุงใหม่ในปี 2011 จะทำได้ดีเท่าต้นตระกูลอย่างตัวนี้ไหมหนอ?

หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น