วันพุธที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Review: Etat Libre d’Orange - Putain des Palaces

Etat Libre d’Orange - Putain des Palaces

เรียกว่าชื่อรุ่นนี้ถ้าไม่รู้ภาษาฝรั่งเศสอาจจะแบบว่าไม่ได้คิดอะไร ซึ่งก็อย่ารู้เลยเนาะข้ามมาสนใจเรื่องกลิ่นที่ Etat Libre d’Orange เขาทำในรุ่นนี้ดีกว่า ว่าจะออกมาในลักษณะไหน แต่ถ้าจะเดาว่ากลิ่นบอกออกมาในลักษณะไหน ให้ดูที่ Logo ของรุ่นนี้แล้วจะถึงบางอ้อนะจ้ะตะเองว่ากุญแจไขเข้าไปในร่องสีชมพูมันหมายถึงอะไร >< 

Putain des Palaces ถือเป็นอีกหนึ่งกลิ่นโทนแป้งที่ทำออกมาในลักษณะแบบกลิ่นแนวเครื่องสำอางลิปสติคเด่นมาเลย ผสมผสานกับกลิ่นที่สื่อสารตรงตัวว่ามาเต็มและเย้ายวนแบบชวนเข้ามานัวกำลังดีของกลิ่นหนังที่มาแบบนุ่มละมุน ซึ่งแรกเริ่มจะได้ความรู้สึกชัดเจนของโทนแป้งแนวๆ ไอริส ผสมผสานกับกลิ่นติดโทนซิตรัสจางๆ และมีกลิ่นขิงที่มาให้ความหวานโปร่งกันก่อน ซึ่งจะได้ความสดชื่นเคล้าแป้งเพียงแค่วูบสั้นๆ ซึ่งกลิ่นจะสัมผัสได้ว่ามันมีความ Dirty ในเนื้อกลิ่นแบบปลุกเร้ากันพอสมควรเพราะเหมือนจะมีเครื่องเทศแนวๆ ยี่หร่าแบบบางมากๆ มาผสมผสาน แล้วก็จะเข้าสู่ช่วงกลางที่มาไวและเด่นจัดกับการเป็นโทนแป้งที่มีความนวลโปร่งของดอกไวโอเล็ตที่จะมีกลิ่นอายนวลๆ ของกุหลาบมาเจือ ซึ่งกลิ่นช่วงนี้จะได้อารมณ์แบบกระเป๋าเครื่องสำอางกันอย่างชัดเจนมาก กลิ่นจะให้ความรู้สึกแบบหญิงสาวที่แต่งหน้าพร้อมลุยกันพอสมควรแต่กลิ่นไม่ได้ถึงกับก๋ากั๋นอะไรมากขนาดนั้น ออกแนวมีความดึงดูดในความเอียงอายกันได้อยู่ ซึ่งกลิ่นนี้จะลากยาวไปจนถึงช่วงท้ายเลย โดยที่กลิ่นโทน Animalic แบบสาปปลุกเร้าจะเริ่มดันขึ้นมา ซึ่งกลิ่นโทนแป้งมันตัดความดิบห่ามออกไปให้กลายเป็นความนุ่มนวลเย้ายวนและเซ็กซี่กึ่งดิบเร้ากึ่งนวลเนียนคลอเคลีย ซึ่งจะมี Musk มาให้ความใกล้เคียงการเป็นกลิ่นผิวกายเย้าๆ เข้าไปอีก โดยมีกลิ่นอบอุ่นรองพื้นจากแอมเบอร์นวลๆ เลยทำให้กลิ่นช่วงนี้จะเป็นกลิ่นผิวกายที่เซ็กซี่ติดแป้งเครื่องสำอางที่มีกลิ่นกุหลาบจางๆ แบบชัดเจน กลิ่นสื่อสารตรงตัวถึงความเร้าใจที่ในฉากหน้าดูแบบว่าใสซื่อเอียงอายจริตมีกำลังดี แต่จริงๆ แล้วข้างในคือชั้นในซีทรูที่อื้อหือออออ พร้อมให้ไขกุญแจเปิดผ่างกันเต็มๆ บอกเลย! กลิ่นนี้มันร้ายยยยยยย วู้ววววว 

เหมาะสำหรับ ผู้หญิงทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็สามารถแล้ว สิ่งที่บรรยายข้างต้นแบบไม่ต้องสนใจชื่อรุ่น ก็จะมีค่อนไปทางสุภาพได้อยู่บ้าง แต่เย้ายวนอันนี้ชัดเจนตามประสาโทนน้ำหอมแบบนี้อยู่แล้ว จึงสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบที่จำนวนสเปรย์เหมาะสม ไม่เช่นนั้นจะยั่วยวนโจ่งแจ้งไปนิด ยกเว้นว่าต้องการนำเสนอความเซ็กซี่แบบมีจริตและดึงดูด อันนี้ก็จัดไปกลิ่นมาสายปลุกเร้าเช่นนี้อยู่แล้ว ซึ่งงานทางการอาจจะพอได้บ้าง ใส่ทำงาน Office ได้เลยสบายๆ รวมถึงใส่แบบทั่วๆ ไปก็จัดเต็มได้เลย ยกเว้นใส่ออกกำลังกายกับกิจกรรมกลางแจ้งกลิ่นไม่เข้าทางแต่ประการใด ส่วนยามค่ำคืนจัดไป กลิ่นนี้สื่อสารชัดเจนถึงความเย้ายวนอยู่แล้ว ยังไงก็ผ่าน อัดสเปรย์หน่อยก็สามารถเรียกร้องความสนใจได้เป็นอย่างด 

ความทน กลิ่นทนอยู่ที่ระหว่าง 6 – 8 ชม. โดยประมาณ อาจจะมากหรือน้อยกว้านี้อิงตามจำนวนสเปรย์เป็นสำคัญ ส่วนตัวเจอที่ราวๆ 10 ชม. แบบอยู่ในห้องแอร์ ถือว่ามีความดีงามในเรื่องนี้ไม่น้อย 

การกระจาย กลิ่นกระจายดีตอนต้น ก่อนจะลดลงมากระจายแบบปานกลาง แล้วจะมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้ายซึ่งเมื่อผ่าน 8 ชม. ไปแล้ว กลิ่นจะเป็น Skin Scent นัวน่าฟัดชัดเจน 

ทิ้งท้าย อย่างที่บอกเลยว่า กลิ่นนี้มันร้ายยยยยยย! เพราะว่าในความเอียงอายจริตดูผู้หญิงแบบนี้ แฝงไปด้วยความพร้อมที่จะปล่อยความเซ็กซี่แบบเอาให้เต็มที่กันได้เลย แต่ไม่ใช่ว่าใส่กลิ่นนี้แล้วจะสามารถสอยผู้ชายกลับบ้านได้เลย มันอยู่ที่บุคลิกส่วนตัวด้วย ถ้าวางตัวดีกลิ่นนี้เป็นตัวแทนของความ Feminine ที่ใช้ความเป็นเพศหญิงในการคุมเกมได้ไม่ยาก แต่ถ้าแบบเสื้อขาวชั้นในลายเสือดาว อันนี้ชัด กลิ่นนี้เสริมเข้าไปอีกว่า พร้อมได้อี๊กกกกกกกก!” 5555555

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ 

Credit ภาพ - https://etatlibredorange.com/wp-content/uploads/2015/07/etat-libre-orange-putain-s.jpg และ https://leblogdelavieenrouge.files.wordpress.com/2010/01/13758_28528.jpg

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น