Strangers Parfumerie - SM Cafe
จะว่าไป Marquis de Sade ที่ถือเป็นบิดาแห่งความซาดิสต์ทางกามารมณ์ผ่านตัวอักษร ก็เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์น้ำหอมมาอยู่บ้าง ซึ่งบางกลิ่นก็ให้อารมณ์ห้องแห่งความลับ ที่มีโซ่ แส้ กุญแจมือ ท่ามกลางความดิบห่ามเร้าใจ Animalic จัดเต็ม และบางกลิ่นก็เน้นเร้าใจแบบอบอุ่นอวลลึกเคล้ากลิ่นหนัง ซึ่งส่วนใหญ่จะต้องมีโทนหนังมาประกอบเสมอ ซึ่งจะนึกภาพแส้หนัง สายรัดหนัง ชุดหนังแหวกล่างแหวกบน และบรรยากาศอบอวลอุ่นเร้าใจได้เลย
และเมื่อ Strangers Parfumerie เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เอาความเป็น Marquis de Sade มานำเสนอและจับกลิ่นลงสู่ขวด แน่นอนว่าเห็นชื่อแบรนด์ก็ตอบได้เลยว่าจะไม่ได้มาแบบน้ำหอมแบรนด์อื่นที่เคย Tribute บุคคลนี้แน่ๆ เพราะอิงจากคำโปรยแบบขอย่อเองสั้นๆ ว่า “Marquis de Sade + 50 Shades of Grey” งานนี้จะออกมาเป็นรูปแบบไหน ไปต่อกันที่ย่อหน้าถัดไปได้เลยกับรุ่นนี้ SM Cafe
เปิดต้นกลิ่นมาเรียกว่าอะโรม่าแบบกาแฟเข้มหอมมาเต็มมาก กลิ่นจะมาแบบกาแฟดำสไตล์ Espresso ที่มีความเข้ม ข้น Smoky มีความเป็นธรรมชาติ และเป็น Riche Tone แบบที่กาแฟที่ดีซักแก้วควรจะเป็น ตามด้วยเลเยอร์กลิ่นออกทางโทนหวานคล้ายขนมปนน้ำผึ้งหอม โดยมีกลิ่นออกทางเชอร์รี่เชื่อมปลายกลิ่น ซึ่งจะเป็นวูบแรกของน้ำหอมกันก่อน เรียกว่าเปิดมาสร้างความพึงพอใจให้คนชอบกลิ่นกาแฟดำเข้มได้เลยในทันทีเป็น 1st Impression เต็มๆ แถมมีกลิ่นหวานหอมกึ่งขนมตามมาเบาๆ อีก ยิ่งสร้างความน่าสนใจและดึงดูดได้ดีมาก และชั่วขณะถัดมากลิ่นอายหนังติดดิบหน่อยๆ แต่ไม่หนักมาก แต่ให้ความห่ามเร้ากำลังดีค่อยๆ เปิดตัวออกมาและเริ่มตีคู่ไปกับกลิ่นกาแฟอย่างไปนัยยะสำคัญ จนกลายเป็นตัวเอกคู่ในช่วงกลางเต็มตัว
แน่นอนว่ากลิ่นกาแฟจะยังคงให้อารมณ์หอมเข้มน่าค้นหา และแน่นอนว่ามีความ Modern ในเนื้อกลิ่นสูงมาก ซึ่งกลิ่นจะแกมกลิ่นพิมเสนที่มาแบบสายเย้าระเรื่อหน่อยๆ โดยที่ยังมีความหอมเชอร์รี่ปนน้ำผึ้งปลายกลิ่นอ่อนๆ แอบมีโทนดอกไม้หน่อยๆ แนวกุหลาบเข้ามาแจมด้วยเบาๆ แต่สิ่งที่เริ่มมีความซับซ้อนมากขึ้นนั่นก็คือกลิ่นหนัง เพราะเนื้อกลิ่นจะมีลูกผสมของความเป็นหนังกลับที่ให้ความเย้า และมีกลิ่นออกทางหนังดิบห่าม และกลิ่นหนังแก้วที่มีลักษณะคล้ายพลาสติคเล็กๆ เข้ามาร่วมด้วย แถมความ Smoky เริ่มจะมีลักษณะคล้าควันบุหรี่หน่อยๆ แกมหวานนิดออกแนวยาสูบเข้ามาเนียนๆ เคล้ากลิ่นไม้ติดปร่านิดๆ ซึ่งกลิ่นจะมีความอบอวลและชัดเจนกับการสร้างบรรยากาศแบบสไตล์ห้องแห่งความลับที่กลิ่นเครื่องหนังเฉพาะ ที่ทำให้นึกภาพตามได้ไม่ยากทั้งหนังกลับสายเย้าแบบผิวกาย หนังดิบห่ามแบบแส้หนัง เบาะหนัง สายรัด และชุดหนังเข้มๆ หนังแก้วแบบชุดหนังเลื่อมๆ แหวกโชว์เฉพาะที่ โดยเคล้ากับกลิ่นกาแฟที่เกริ่นไว้ตอนต้นได้อย่างลงตัวและไม่ได้ดูเป็นโทนออกทางกระทำชำเราแบบดูโหดเกินไป ยังมีความอะโรม่าแบบกำลังดีเลย ที่สำคัญช่วงนี้เป็นช่วงที่บอกชัดเจนมากถึงการเป็น SM Cafe ที่สุดด้วย
การเปลี่ยนแปลงของกลิ่นเริ่มจะชัดเจนตรงที่โทนอบอุ่นแกมยางไม้กึ่งไม้หอมต่างๆ เริ่มจะเปิดตัวออกมาเคล้ากับโทนหนังจนกลายเป็นตัวหลักในการเดินกลิ่นในช่วงท้าย ซึ่งช่วงนี้โทนกาแฟจะจางไปแล้ว แต่จะให้ลักษณะกลิ่นหนังออกทางติด Vinatge นิดๆ แบบห่ามหน่อยที่เร้าใจได้ความ Animalic รวมถึงมีโทนหวานติดออกทางยางไม้แนวกำยานแกล้มแอมเบอร์ที่มีกลิ่นออกทางน้ำผึ้งหน่อยๆ ที่มีความสาบเร้าเข้าทาง Dirty แต่ไม่หนักหน่วงมากเกินไปมาเป็นเมนหลัก ซึ่งจะมีกลิ่นยาสูบที่เริ่มชัดเจนและเด่นขึ้นมาด้วยแบบกึ่งควันยาสูบ ตามด้วยตัวเสริมที่สำคัญอย่างไม้หอมที่จะได้กลิ่นไม้นวลคล้ายไม้จันทน์หอมหน่อยๆ เสริมให้กลิ่นมีความเย้าอวลนวลเข้ามาร่วมด้วย ผสมผสานกันโดยจะจับภาพรวมของกลิ่นเด่นที่โทน Animalic Amber Leather กันชัดเจนมาก กลิ่นจะมีความ Dirty ติดเย้าเคล้าควันหน่อยๆ แกมหวานลึกปนยางไม้อบอวล ที่สำคัญเป็นช่วงที่จับได้ถึง Signature เนียนๆ ของแบรนด์กับโทน Incense หรือธูปเนียนๆ ที่สร้างความฟุ้งๆ ติดควันไม้เนียนๆ ในกลิ่นดึงดูดในกลิ่นแบบอารมณ์เดินเข้าไปสู่สถานที่ปลุกเร้าสัญชาตญาณที่มีองค์ประกอบของกลิ่นต่างๆ ผสมผสานกันอย่างลุ่มลึกและกระตุ้นแรงขับได้อย่างลงตัวมาก ปิดท้ายการเป็น SM Cafe กันยาวๆ ไป
เหมาะสำหรับ - ได้หมดทุกเพศเลย เพราะความซาดิสต์ไม่เข้าใครออกใคร เอ๊ย! ไม่ใช่ เพราะกลิ่นมีความกลางๆ แบบที่จะเพศไหนก็ไม่ได้ห้าม แต่กลิ่นนี้มีความซับซ้อน อาจจะต้องผ่านน้ำหอมมาพอสมควร โดยที่พื้นฐานชอบกลิ่นหนังและกลิ่นกาแฟเป็นทุนเดิม ก็จะอินกับกลิ่นนี้ได้ไม่ยาก ซึ่งกลิ่นเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป (แต่จะแอบเซ็กซี่แบบไม่ต้องถอดเสื้อผ้าแถมซ่อนแส้ไว้ข้างหลังได้ด้วย) แต่ให้ตัดการใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งหรือออกกำลังกายไปได้เลย ไม่เข้าทาง ส่วนยามค่ำคืนบอกเลยจัดไป กลิ่นเย้าและมีเสน่ห์แบบซ่อนคมและหน้านิ่งแต่เอาจริงพร้อมกระทำได้ดีมาก
ความทน - ดีงามมาก เพราะว่า 15 ชม. กลิ่นยังอยู่ อาบน้ำไปแล้วกลิ่นก็ยังคลอผิวอ่อนๆ อยู่เลย อันนี้ต้องยกให้เขาจริงๆ
การกระจาย - เรียกว่าสร้างความประทับใจในกลิ่นกาแฟกันเลยทีเดียว เพราะกลิ่นกระจายดีเปิดตัวมาเลย แล้วจะค่อยๆ ลดลงมาเป็นปานกลางและคงตัวยาวไปจนถึงราวๆ ซัก 8 ชม. ก็เป็นออร่ารอบๆ ตัวไปเรื่อยๆ จนเมื่อพ้นซัก 12 ชม. ถึงเริ่มติดผิว
สรุป - กลิ่นเปิดคือสวรรค์ของคนชอบกาแฟเอาได้เลยเพราะกลิ่นมาเต็ม ชัด และหรูหราสไตล์กาแฟดำเข้มน่าค้นหามาเชียว ส่วนที่เหลือคือความเต็มที่ของโทนกลิ่นที่สร้างความเร้าใจดิบห่ามแบบกำลังดี อารมณ์แบบหน้านิ่งแต่เหน็บแส้กับกุญแจมือไว้ข้างหลัง ซึ่งมันคือการ Twist และ Mix & Match ที่เอาความเป็นกลิ่นอายสไตล์ Modern ของโทนกาแฟเข้มหอม แบบ Mr.Grey + กลิ่นหนังเจือ Animalic แบบสไตล์ Vintage หน่อยๆ แบบ Marquis de Sade โดยมีตัวเชื่อมที่ดีอย่างโทน Incense และไม้หอมได้อย่างเร้าใจ เซ็กซี่ ดึงดูดและไม่ธรรมดามากจริงๆ
หมายเหตุ:
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo
Credit - https://www.facebook.com/strangersparfumerie