Strangers Parfumerie - So Fetch!
อีกหนึ่งตำนานในการเป็นภาพยนตร์สาย Teen/Tween ที่ตีแผ่สังคมวัฒนธรรมแบบวัยรุ่นอเมริกา ที่ต้องมี Teen Queen ประจำโรงเรียน แบ่งชนชั้นวรรณะ เหยียด Bully การให้ค่านิยมกับการเป็น Somebody ที่ให้ความสำคัญกับเสื้อผ้าหน้าผมมากกว่าความเป็นตัวเองอย่าง Mean Girls ซึ่งเสียดสีได้สนุกสนานมาก และยังมีบทที่ลงตัว มีที่มาที่ไป และบทสรุปขมวดท้ายได้อย่างสวยงาม ถือเป็นอีกหนึ่งหนังวัยรุ่นในตำนานที่ไม่ควรพลาดที่จะได้ชม และที่สำคัญเรื่องนี้แจ้งเกิดนักแสดงชั้นนำต่างๆ ทั้งสายฝีมืออย่าง Rachel McAdams และ Amanda Seyfried และสายที่มาๆ หายๆ งงๆ อย่างหนูหลิน Lindsey Lohan (ที่พีคสุดจริงๆ ในช่วงเวลานั้น) ส่วนที่เหลือก็เป๋จนต้องประคองสติกันเลยทีเดียว (เสียดายมากกับฝีมือ)
และแน่นอนหนึ่งในคาแรคเตอร์ที่เด็ดดวงที่สุดของ Mean Girls ก็ต้องยกให้แกงค์สาวพลาสติคที่น่าหมั่นไส้และชวนเบ้ปากมองบนใส่ที่มียัย Regina George (Rachel McAdams) เป็นแกนนำ ที่ต้องเป็นสาว Hot เป็น Teen Queen หนุ่มๆ ต้องห้อมล้อม เสื้อผ้าหน้าผมต้องเริ่ด ต้องมีจริตมารยาจีบปากจีบคอสะตอสุดติ่ง ต้องมีสีชมพูบ่งบอกถึงความเป็นสาวน้อย มีความไร้สติและร้ายกาจสาย Bitch! เรียกว่านี่แหละคือสีสันของเรื่องอย่างแท้จริงๆ และคาแรคเตอร์นี้ก็ไม่พลาดที่จะมาเป็นหนึ่งในการสร้างสรรค์กลิ่นของแบรนด์ Strangers Parfumerie กับการเอาวลีเด็ดในเรื่องว่า So Fetch! (ที่เป็นการนิยามศัพท์แสลงใหม่ขึ้นมา จริงๆ ความหมายของมันก็คือ Cool สุดๆ อะไรประมาณนี้) มาเป็นชื่อรุ่น งานนี้ได้เวลาเข้าแกงค์พลาสติคผ่านกลิ่นกันหน่อยแล้ว ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
เปิดต้นกลิ่นมาก็แบบว่า “ใช่ เสียยิ่งกว่าใช่” มันคือจริตสาววัยทีนที่พยายามเบ่งรัศมีความเป็นางพญาออกมาแบบให้เด่นสุดๆ เพราะกลิ่นจะได้อารมณ์สีแดงที่ให้ความวัยรุ่นแต่เพิ่มความกร้านเนียนๆ ลงไปชัดเจน ซึ่งต้องยกให้โทนกลิ่นเชอร์รี่เลย ที่ให้ความหวานสไตล์เชอร์รี่เชื่อมผสมกับกลิ่นน้ำพันช์ผลไม้สีส้มอมแดงที่ให้ความเปรี้ยวอมหวานเรียกร้องความสนใจ แถมด้วยกลิ่นหวานน้ำตาลเคล้าเบอร์รี่เปรี้ยวๆ สีแดง ซึ่งเปิดมาอารมณ์กลิ่นก็บอกชัดเจนว่านี่แหละวัยรุ่นสาย Teen Queen Lolipop Bubblegum ที่ใช่เลยว่ากลิ่นมีความลั่นล้าสวยๆ ใสๆ แบบวัยรุ่นก็จริง แต่ใส่ความกร้านยั่วเนียนในจริตจัดเต็มทุกเม็ดมากมาย และแน่นอนกลิ่นกระจายดีงามแบบสไตล์เรียกร้องความสนใจเหมือนตะโกนออกมาเลยว่า “Look at me Now, Look at Me! (มองกรูเดี๋ยวนี้ค่า มองที่กรูค่าาาา!)” ซึ่งเรียกว่าเป็นช่วงเปิดที่ได้อารมณ์กลิ่นที่สนุกมากกับคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนกับการเป็นสาวพลาสติคสไตล์ Regina George & the Gangs จริงๆ และถ้ากลิ่นแบบนี้พุ่งมาจากทางไหน ก็จะคิดก่อนเลยว่ามันต้องมีแกงค์ผู้หญิงวัยรุ่นเชิ่ดๆ ร้ายๆ เปรี้ยวๆ จีบปากจีบคอกำลังตรงมาทางนี้แน่ๆ
เพียงไม่นานกลิ่นดอกส้มที่ให้ความเปรี้ยวติดเขียวเจือนวลกับโทนออกมาหอมหวานกึ่งเหล้าที่มีกลิ่นอัลมอนด์ ซึ่งน่าจะจะเป็น Amaretto ที่มักมาผสมเป็น Cocktail หรือไม่ก็ทำขนมสไตล์อิตาลีจะค่อยๆ เปิดตัวออกมาผสมผสานกับโทนกลิ่นเชอร์รี่และน้ำพันช์ในช่วงต้น และเปิดทางในการเข้าสู่ช่วงกลางของน้ำหอมที่จะมีตัวเสริมออกทางกลิ่นคล้ายลิปสติกออกทางเนื้อ Butter กึ่งแป้งทึบของหัวเหง้าออริสที่มาเสริมสอดรับพอดีกับกลิ่นเชอร์รี่และน้ำพันช์ เลยทำให้ได้อารมณ์ลิปสติกสีแดงให้รู้สึก พร้อมกับมีโทนดอกไม้ต่างๆ ที่มีความเขียวเจือนวลปร่าอวลเคล้ากลิ่นโทนแป้งหวานดอกไม้ที่มีกุหลาบ ดอกสายน้ำผึ้ง และดอกส้มเป็นตัวยืนพื้นสร้างลักษณะกลิ่นแบบแป้งหอมอวลๆ แอบมีความซับซ้อนของกลิ่นโทน Animalic หน่อยๆ ที่เสริมความเซ็กซี่ โดยมาเชื่อมกับกลิ่นออกทางวานิลลากึ่งถั่วๆ ที่มาเสริมกับฝั่งเหล้าอัลมอนด์เลยให้อารมณ์แบบขนมอบกึ่งคุกกี้ถั่วร่วมด้วยที่สร้างโทนเรียกร้องความสนใจแบบปล่อยของ ตอบโจทย์ 4 สเต็ปอารมณ์กลิ่นเลยคือ กลิ่นแบบแป้งหอมดอกไม้สไตล์ผู้หญิงมีจริต แกมกลิ่นออกทางขนมถั่วอบเคล้ากลิ่นหวานอัลมอนด์ ที่ทำให้กลิ่นมีความเย้ายวนแบบจงใจ “แบบว่าเริ่ดไหมล่ะ ตัวฉันหอมน่ากินน่าดมสินะ” และมีกลิ่นลิปสติกเชอร์รี่ที่มีกลิ่นน้ำพันช์เปรี้ยวหวานเคล้าดอกส้มที่ก็ช่วยสนับสนุนตรงนี้อยู่ด้วย ก็เลยเข้าทางการเป็นกลิ่นแบบสไตล์ลั่นล้า วี้ดว้าย มั่นไปอี๊ก! ซึ่งแน่นอนว่าช่วงนี้ก็ยังคุมโทนการเป็นกลิ่นสไตล์วัยทีนที่พยายามใส่ความสาวสะพรั่งและอัดเสน่ห์ของตัวเองเข้าไป แล้วปล่อยมันออกมาแบบตรงๆ แบบที่ไม่ได้ซ่อนจริตอะไร คือ ชัดเจนว่าชั้นมาเพื่อสวย หอม เริ่ด และร้ายแบบหน้าตาเฉยสไตล์ Bitchy ซึ่งตอบโจทย์มากมายกับการเป็นสไตล์สาวพลาสติคกลุ่มนี้มาก โดยเฉพาะตัว Regina George เอง
จนเมื่อกลิ่นผ่านไปจนเข้าสู่ช่วงท้าย ตอนนี้จะมีอารมณ์กลิ่นที่ค่อนข้างยืนพื้นที่โทน Musky ปนกับกลิ่นออกทาง Woody ที่มีความอวลๆ อารมณ์คล้ายกลิ่นแนวไม้ซีดาร์กึ่งแอมเบอร์ โดยมีกลิ่นโทน Animalic ที่ชัดขึ้น แต่ก็ไม่ได้มาแบบสาบปลุกเร้าสไตล์ Classic แต่อย่างใด เพราะมีโทนออกทางคล้ายขนมถั่วอบ (ถ้าให้เดา น่าจะเป็น โปรตีนบาร์ ตามที่แบรนด์ลงไว้) ที่มีวานิลลาอัลมอนด์หน่อยๆ มาตัดทอนให้กลิ่นสร้างความเย้าอวลดึงดูดและเซ็กซี่ทันสมัยเสียมาก สอดรับกับกลิ่นในช่วงกลางที่ตามมาแบบกำลังดี ยังคงให้ลูกเล่นโทนกลิ่นสีแดงเหลือบไล่โทนสีลงมาชมพูได้ชัดเจนจากเชอร์รี่ เบอร์รี่ ดอกส้ม และโทนแป้ง เพียงแต่มีความหนาของกลิ่นที่พอสมควรจนเป็นกลิ่นสไตล์อวลเรียกแขกให้มาชื่นชม ถ้าถูกใจก็คลุกวงในก็ได้เช่นกัน เรียกว่าปิดท้ายแบบที่ทิ้งรอยทางเอาไว้ให้จำได้ว่านี่แหละ Regina George แห่ง Mean Girls ที่เห็นแบบนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไป (เอาตามวัฒนธรรมแบบไทยนะ ถ้าเป็นตะวันตกหรือฝรั่ง High School ก็โตเกินวัยปล่อยของไม่ยั้งได้แล้ว) ซึ่งกลิ่นนี้ให้ตัดการใส่ยามทางการและออกกำลังกายไปได้เลย เพราะไม่เข้าทางทุกประการ แต่ถ้าใส่ทั่วๆ ไป ใส่ทำงาน ใส่ช้อปปิ้ง จัดไป อันนี้เรียกร้องความสนใจได้ดีมาก แต่ถ้าอากาศร้อนๆ แนะนำเบาสเปรย์หน่อยจะได้กำลังดีไม่อึดอัด ส่วนยามค่ำคืนใส่ไปท่องราตรีจัดไป มาเด่น มาชัด ยืนหนึ่งในกลุ่ม หรือถ้าใส่มาทั้งกลุ่ม ก็ยืนหนึ่งในงานกันได้เลย นอกจากนี้ถ้าผู้ชายจะใช้งานน้ำหอมกลิ่นนี้บอกเลยว่าไม่เสียหาย เพราะช่วงท้ายมีลูกกลิ่นที่ Unisex พอตัวเลยทีเดียว อีกอย่างกลิ่นแบบนี้เวลาดูบนตัวผู้ชายมันก็มีเสน่ห์อีกแบบที่สร้างแรงดึงดูดได้ด้วยนะ (ได้รับคำชมจากผู้หญิงมาแล้วกับการใช้กลิ่นนี้ด้วยล่ะ)
ความทน - มากกกกกก เรียกว่า 15 ชม. ยังคงความปล่อยของอยู่ไม่ลดราวาศอก ก็ไม่ได้มาเล่นๆ So Fetch! ขนาดนี้จะแผ่วได้อย่างไร จริงไหม? เช่นนั้นถ้าตีค่าเฉลี่ยก็ว่ากันที่ราวๆ 8 ชม. ขึ้นไปได้สบายมาก
การกระจาย - ดีมากกกกก เรียกว่าเปิดมาก็ปล่อยพลังรอบทิศกันเลยทีเดียว มาแบบให้รู้ว่าชั้นมีเสน่ห์ ชั้นฮอต ชั้นเริ่ด แล้วจะผ่อนลงมากระจายดีไปยาวๆ จนถึงราวๆ 5 ชม. ได้แล้วจะผ่อนลงมาปานกลางไปเรื่อยๆ คงตัวไปจนถึง 10 ชม. ถึงลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัว คงตัวไปจนกว่าจะอาบน้ำล้างตัว ซึ่งขนาดอาบน้ำแล้วกลิ่นยังติดผิวอยู่เลย เช่นนั้นไม่ต้องห่วงในเรื่องนี้
สรุป - กลิ่นนี้สร้างความสนุกสนานมากจริงๆ ในการจับกลิ่นแล้ว Link กับภาพยนตร์ที่เคยดูมา ซึ่งกลิ่นตรงตามคาแรคเตอร์ Regina George & the Gangs ที่จะต้องใส่อะไรเหมือนๆ กันแบบเป๊ะมาก มีทั้งความลั่นล้า การปล่อยของ การสร้างออร่า Teen Queen และความ Bitchy ที่ชัดเจน แต่ถ้าเปลี่ยนมุมมองมาเป็นแบบคนที่ไม่เคยดูภาพยนตร์นี้มาก่อน ถือเป็นกลิ่นสายยั่วและเปิดตัวให้ทุกคนหันมองได้อย่างชะงัดมากๆ แบบว่ามีความจงใจ ไม่เม้ม ก็สวยและเริ่ดมากอ่ะ รวมมีความวัยรุ่นบับเบิ้ลกัมเข้ามาผสมผสานให้มีความเฉพาะตัวที่ตอบโจทย์การใช้งานในช่วงอายุที่กว้างขึ้น ทั้งยังเข้าทางเทรนด์กลิ่นที่ต้องมีความเซ็กซี่แบบมีเสน่ห์และปล่อยของแบบที่ไม่ต้องมาหลบๆ ซ่อนๆ แต่อย่างใด นี่แหละเข้าทาง So Fetch! เต็มๆ
หมายเหตุ:
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo
Credit - https://www.facebook.com/strangersparfumerie