Carthusia – Carthusia UOMO
จาก Lady ก็มาสู่ UOMO ฝั่งผู้ชายกันบ้าง
เพราะต้องเกิดมาคู่กันทั้งฝั่งชายและหญิง โดย Carthusia ยังคงคอนเซปท์เดิมในการนำเสนอคือ มันต้องเรียบหรู มีระดับ
และกลิ่นอายต้องสื่อสารถึงความเป็นผู้ดีตามสไตล์อิตาลี เช่นนั้นต้องลองมาดมว่า
ผลออกมาจะเป็นเช่นไร
Carthusia UOMO จะเปรียบเสมือนผู้ชายที่ออกแนวคุณชายที่นิ่งขรึม
มีความภูมิฐานมีระดับที่เป็นอินเนอร์แฝงในทุกๆ การกระทำ
ที่ทำให้คนรู้สึกว่าสมาร์ท เท่ห์ นิ่ง และหรูหรา ซึ่งกลิ่นจะมีความเชื่อมโยงกับรุ่นผู้หญิงคือ
กลิ่นจะมีความคลาสสิคแมนๆ อยู่ แต่ไม่ได้ดูย้อนยุคเกินไป
จนเป็นสายผู้ใหญ่ผู้มีอายุเกินไปขนาดนั้น เปิด Top Notes ด้วยกลิ่นอายของการเป็นกลิ่นอายเขียวกลั้วความเป็นดอกไม้นวลๆ
ที่มีโทนพริกไทยผสมผสานอย่างดอกฟรีเซีย โดยมีกลิ่นอายสดชื่นอย่างโทน Citrus
ที่มาแบบสายสนับสนุน กลิ่นเลยจะได้ลักษณะของความเป็นสุภาพบุรุษแมนๆ
ที่มีความสดชื่นแบบนิ่งๆ คาบเกี่ยวความคลาสสิคเบาๆ และความภูมิฐานกำลังดี
เมื่อเข้า Middle Notes กลิ่นจะเริ่มมีความเป็นโทนดอกไม้มากขึ้น
เลยเพราะความเป็นเจอราเนียมที่จะแทรกเข้ามาให้ความรู้สึกแบบหอมสดชื่นติดโทนกุหลาบเคล้าเลมอน
ล้อมไปด้วยกลิ่นอายดอกไม้เบาๆ อ่อนๆ ซึ่งความเขียวแมนๆ
ที่ผสมผสานกับดอกฟรีเซียที่มีโทนเครื่องเทศนวลปร่าจากช่วงต้นจะมาผสมผสานให้กลิ่นในช่วงนี้เป็นโทนดอกไม้ที่มีความแมนมาก
ซึ่งจะมีความเป็นไม้หอมขรึมๆ นวลๆ สะอาดๆ จากไม้ซีดาร์เสริมเข้ามาตีคู่
และมี Oak Moss ที่กลิ่นเขียวติดสากแต่นุ่มมาตอกย้ำความแมน
ทำให้กลิ่นสร้างโทนของความเป็นสุภาพบุรุษที่มีความภูมิฐานเคล้าความสดชื่นแบบนิ่งๆ มีระดับได้ดีมาก เนื้อกลิ่นมีโทนไล่เรียงให้ได้สัมผัสแบบซับซ้อนที่มีลูกเล่นของโทนเขียว
ดอกไม้ และไม้หอมได้ดี พอเข้าช่วง Base Notes กลิ่นอายของเจอราเนียมเคล้าไม้หอมจะยังเป็นตัวเด่นที่เป็นกลิ่นหลักอยู่
โดย Oak Moss จะเริ่มดันขึ้นเป็นตัวเด่นให้ความเขียวแมนติดสดชื่นได้อยู่
โดยที่เนื้อกลิ่นจะสัมผัสได้ถึงความสะอาดรองพื้นแบบติด Animalic สาปปลุกเร้าให้ความเท่ห์หน่อยๆ
จาก Musk แบบมีลูกเล่นให้จับต้องได้ รวมถึงมีความอบอุ่นอ่อนๆ
จากโทนไม้หอม แบบยาวไปจนกว่าจะหายไปจากผิว
เหมาะสำหรับ – ผู้ชายวัยทำงานขึ้นไป
หรือน้องวัยมหาลัยที่เรียนปี 3 ปี 4 ก็สามารถ เพราะกลิ่นจะให้ลุคภูมิฐาน สุภาพบุรุษที่เป็นผู้ดีจัดๆ กันเลยทีเดียว ซึ่งสามารถใส่ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวัน
ยิ่งยามทางการ ออกงานยิ่งเหมาะมาก หรือจะใส่เป็น Office
Scent ก็ยังได้ เพราะให้ความน่าเชื่อถือและดูมีคลาสเสียด้วย
ส่วนยามทั่วๆ ไป ก็จัดไปได้หมด เพียงแต่ถ้าจะใส่เพื่อออกกำลังกายรอช่วงท้ายๆ
จะดีกว่า เพราะกลิ่นไม่ได้มาสายนี้นัก ส่วนยามค่ำคืนอาจจะไม่ได้มาสายพร้อมลุยราตรีเท่าไหร่
แต่ถ้าใส่แบบออกงานหรูๆ หรือดินเนอร์อะไรแบบนี้จะเข้าทีไม่น้อยเลยทีเดียว
ความทน – เป็นหนึ่งในกลิ่นที่ความทนดีงามมาก
เพราะ 8 ชม. กลิ่นก็ยังอยู่ให้รู้สึกได้ตลอดยาวไปถึง 15
ชม. เลยทีเดียว โดยอิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ
การกระจาย – กลิ่นกระจายดีในตอนต้น
ก่อนจะลดลงมากึ่งปานกลางกึ่งออร่ารอบๆ ตัว ให้ความรู้สึกแบบเรียบนิ่ง
สุภาพบุรุษ ไม่เน้นรบกวนใคร และจะเป็นออร่าแบบเบาๆ ยาวไปในช่วงท้าย
ทิ้งท้าย – เรียกว่ากลิ่นนี้มีความเป็นสุภาพบุรุษที่เรียบหรูมีระดับและมีเสน่ห์แบบที่คนได้กลิ่นจะรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้กลิ่นสมาร์ทจังเลย
ยิ่งส่วนตัวพอใส่กลิ่นนี้ทีไร จะออกแนวบ้าบิ่น โว้กว้ากไม่ค่อยได้
เพราะกลิ่นไม่ได้มาสายนั้นเลย ก็จะปรับจูนไปในตัวให้ต้องวางตัวดีๆ สุภาพ
และนิ่งอย่างมีชั้นเชิงแบบที่กลิ่นสื่อสารออกมา ถือว่าเป็นการเสริมบุคลิคได้ดีมากจริงๆ
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Credit ภาพ
- https://fimgs.net/images/secundar/o.8441.jpg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น