วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

Review: Hermes - Hermessence: Cuir d'Ange

Hermes - Hermessence: Cuir d'Ange

ว่ากันในเรื่องของ Signature Scent ที่มักจะเจอจากน้ำหอมของ Hermes ที่นอกจากโทนเขียวติดขมตามสไตล์ของสุคนธกรที่เคยเป็นมือเอกของแบรนด์อย่าง Jean-Claude Ellena ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นรากเหง้าของแบรนด์ตั้งแต่จุดเริ่มต้นเลยนั่นคือ “หนัง” เช่นนั้น Signature Scent จึงไม่จำเป็นต้องมีเพียงแค่หนึ่งโทน แต่เป็นกลิ่นอายที่บ่งบอกถึงแบรนด์และชัดเจนมากที่สุดก็ไม่พ้นกลิ่นหนังนี่แหละที่สอดรับกับ Product ของแบรนด์ได้ชัดเจน รวมถึงกลิ่นอายสายหนังของแบรนด์นี้ไม่ว่าจะกี่รุ่นต่อกี่รุ่นใน Collection ปกติก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เสริมราศีการใช้งานได้ดูมีระดับมากจริงๆ แม้จะเป็นโทน Classic ก็ตาม ความดีงามก็มีอยู่อย่างเพียบพร้อมเสมอ

และเมื่อขยับมาที่ไลน์ High-End กว่าเดิมอย่าง Hermessence แน่นอนว่าจะพลาดได้อย่างไร กับการนำเสนอกลิ่นอายสายหนังที่เป็นพื้นฐานหลักของแบรนด์ โดยมีแรงบันดาลใจมาจากความละเอียดอ่อนในการสร้างสรรค์งานหนังต่างๆ ของแบรนด์ เช่นนั้น มาว่ากันเลยดีกว่าว่ากลิ่นจะออกมาในลักษณะใดกับรุ่นนี้ Cuir d'Ange

เปิดกลิ่นออกมาจากแรกฉีด กลิ่นก็สร้างภาพในหัวลอยขึ้นมาเลยถึงอารมณ์เปิดกระเป๋าหนังใบใหม่หรือใส่เสื้อแจ็คเกตหนังตัวใหม่ โดยพื้นฐานกลิ่นไม่ได้มาแบบเข้มๆ แบบหนังดิบห่ามมีความสาบปลุกเร้าสูงแต่อย่างใด แต่ให้ความเป็นหนังที่มีความกึ่งเบากึ่งกลางๆ มีอารมณ์กลิ่นหนังกลับมาเจือนิดๆ โดยที่มีโทนออกทางฟุ้งๆ พุ่งๆ ของโทนกึ่ง Citrus กึ่งสบู่หน่อยๆ ค่อนไปทางเย็นๆ แต่ไม่ได้มาแบบหนักหน่วงมากของ Aldehydes แกมด้วยโทนติดเขียวตุ่นกึ่ง Animalic และมีโทนเมทัลลิคหน่อยๆ ที่สร้างมิติให้กลิ่นเปิดมีลูกเล่นแบบบรรยากาศและสภาพแวดล้อมเข้ามาร่วมด้วย แถมยังสร้างความรู้สึกสไตล์มินิมัลที่มีความน้อยแต่มากชัดเจนเลยทีเดียว

ที่แน่ๆ โทนหนังจะเป็นตัวหลักที่อยู่ยั้งยืนยงไปจนถึงช่วงท้ายของน้ำหอมเลย แต่จะมีโทนอื่นมาสลับสับเปลี่ยนสร้างอารมณ์กลิ่นหนังที่มีลูกเล่นเนียนๆ อย่างน่าสนใจในแต่ละช่วง ดังเช่นเมื่อเข้าช่วงกลางของน้ำหอม กลิ่นหนังจะยังคุมโทนกึ่งเบากึ่งกลางๆ อยู่เช่นเดิมและให้ความเรียบหรูดูแพงในเนื้อกลิ่นอารมณ์เดียวกับเปิดกระเป๋าหนังชั้นดีคุณภาพเยี่ยมในครั้งแรกเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมที่โทนแป้งที่เข้ามาร่วมด้วย ซึ่งมิติกลิ่นโทนแป้งจะจับต้องได้ 3 สเต็ปกลิ่นเลยคือกลิ่นแป้งออกทางโปร่งๆ ที่วูบเข้ามาพร้อมกลิ่นหนังของดอกไวโอเล็ต เมื่อขยับเข้าไปใกล้ๆ จะได้กลิ่นแป้งออกทางถั่วอัลมอนด์กึ่งวานิลลาหน่อยๆ ของดอกเฮลิโอโทรเป้ที่สร้างอารมณ์นวลเจืออุ่นนิดๆ และพอเข้าไปดมใกล้ผิวจะได้อารมณ์แป้งติดอับจืดเย้าของไอริส ซึ่งทั้ง 3 โทนแป้งนี้จะสนับสนุนให้กลิ่นหนังมีมิตินวลและแห้งมากขึ้นจากช่วงต้น สร้างอารมณ์กลิ่นหนังที่ไม่หนักแต่ให้ความหรูหรามีระดับแบบชัดเจนมาก ที่สำคัญปลายกลิ่นมีโทนหวานอ่อนๆ ติดดอกไม้หน่อยๆ ร่วมด้วยเลยได้ความรื่นรมย์เข้ามาเติมเต็มให้กลิ่นมีอะไรให้จับต้องได้มากขึ้นอีกสเต็ป

จนเมื่อกลิ่นเริ่มเดินทางไปสู่ช่วงสุดท้ายที่จะคลอผิวไปยาวๆ ความเป็นหนังก็ยังคงเด่นเป้นสง่าและชัดเจนแบบกึ่งเบากึ่งกลางๆ อยู่เช่นเดิม โดยที่โทนแป้งเริ่มเบาลงไปแต่ยังจับต้องได้ถึงกลิ่นโทนแป้งอยู่ประปราย แต่สิ่งที่ได้รับเต็มๆ คือ โทนหนังที่มีความนวลนุ่มสะอาดมากขึ้น ซึ่งจะมาจาก Musk ที่เข้ามาเกลากลิ่นทำให้อารมณ์กลิ่นบางวูบแบบสไตล์หนังกลับที่เคยแอบจับต้องได้ในช่วงแรกก็กลับมาให้รับรู้ได้ชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งช่วงนี้จะไม่ได้ซับซ้อนแต่อย่างให้ แต่ให้ความรื่นรมย์ของโทนหนังที่เรียบหรูดูแพงและมีความสะอาดนวลอารมณ์กึ่งผิวกายสะอาดซ้อนเลเยอร์กลิ่นกับกลิ่นแจ็คเกตหนังหรือกระเป๋าหนังชั้นดีที่เปิดเอาไว้อยู่ ซึ่งจะคงตัวไปเรื่อยๆ สร้างความละเมียดและหรูหราแบบไม่ต้องเยอะสิ่งในความเป็นโทนหนังได้อย่างดีงามและลงตัวมากจริงๆ         

เหมาะสำหรับ - Unisex ที่จะเพศไหนก็ตาม ถ้าชอบกลิ่นหนังแบบหรูหราและมีระดับอันนี้ตอบโจทย์สุดๆ ไปเลย ซึ่งกลิ่นเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป ที่เน้นในเรื่องการวางตัวและการแสดงออร่าความสุขุมแต่มีคลาส แบบที่ไม่ได้เน้นการออกกิจกรรมลุยๆ หรือออกกำลังกาย (เพราะกลิ่นไม่เข้าทาง) ส่วนยามค่ำคืน เน้นใส่เพื่อออกงานจะลงตัวมาก เพราะสร้างความหรูหราให้คนใส่ได้อย่างชัดเจนจริงๆ  

ความทน - อยู่ที่ 8 ชม. เป็นสำคัญ และไปต่อได้อีกถ้าสภาพผิวและจำนวนสเปรย์เหมาะสม ซึ่งส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. กับการใช้ที่ 5 สเปรย์

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วในช่วงกลางจะผ่อนลงมากระจายปานกลางซักระยะ ถึงลงมาอีกสเต็ปเป็นออร่ารอบๆ ตัว พอเข้าช่วงท้ายจะเริ่มกลายเป็น Skin Scent ตามลำดับ ไม่ได้เน้นเรื่องการปล่อยพลังรอบทิศนัก แต่เน้นที่ความเรียบหรูและหรูหรามีระดับแบบวางตัวดีเน้นๆ

สรุป - อีกหนึ่งกลิ่นหนังที่สร้างสรรค์ออกมาได้อย่างชัดเจนและตรงไปตรงมาในการบอกเล่าถึงความเป็น Hermes ที่เก่งในเรื่องเครื่องหนังจริงๆ เพราะทุกสโตรกกลิ่นมีความเป็นหนังที่หรูหรามีระดับชัดเจน แถมยกระดับผู้สวมใส่ให้มีคลาสในสไตล์มินิมัลกับกลิ่นอายสายหนังขึ้นมาอีกสเต็ปอีกด้วย ยอม ของเขาดีจริงๆ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.hermes.com/pt/en/product/cuir-d-ange-eau-de-toilette-V32478/

 

1 ความคิดเห็น:

  1. C'est un parfum que j'aimerais essayer un jour parce que j'adore Hermès et le style de Ellena: je suis un fan de Rose et cuir pour Frederic Malle et Jasmin de pays pour Perris Monte carlo. Oui un jour peut-être je rêve

    ตอบลบ