Creed
– Fleurs de Bulgarie
เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในความคลาสสิคของ
Creed เลยทีเดียว และได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานมาตั้งแต่ปี 1845 เลยทีเดียว
แถมน้ำหอมรุ่นนี้เป็นการสร้างขึ้นเพื่อสมเด็จพระราชินีวิคตอเรียกันเลยทีเดียว
โดยการเอากลิ่นอายดอกไม้ที่หอมตลอดกาลอย่าง “กุหลาบ” มาเป็นตัวชูโรง
เช่นนั้นมาดมกันเลยดีกว่ากับรุ่น Fleurs de Bulgarie
กุหลาบบัลแกเรียจะเป็นกลิ่นอายที่เป็นหัวใจหลักของน้ำหอมตัวนี้เลยและจะคงอยู่ตั้งแต่ต้นยันจบเป็นลักษณะกลิ่นที่เป็นหัวใจหลัก
โดยจะมีกลิ่นอายอื่นๆ ต่างเข้ามาผสมผสานในแต่ละช่วงให้ความรู้สึกแตกต่างกันออกไป
โดยในช่วงแรกกลิ่นอายของมะกรูดจะมาเสริมให้เกิดความรู้สึกในแบบกุหลาบที่หวานแบบลึกติดดาร์กนิดๆ
โดยจะมีกลิ่นอายของโทนซิตรัสที่ไม่ได้มาแบบใสๆ แต่มาแบบแน่นและมีความเป็นซิตรัสแบบน้ำหอม
Old
School ติดเครื่องเทศหน่อยๆ เสริมให้กลิ่นกุหลาบมีความนวลแน่นชัดเจนฟุ้งกระจายกันเต็มเหนี่ยว
ก่อนที่กลิ่นอายจะเริ่มลดโทนลงมาเป็นกุหลาบที่เบาขึ้นแต่ยังคงความหอมหวานนวลและลึกอยู่
แต่จะมีความครีมมี่นวลๆ รองพื้นอยู่ด้านหลังให้กลิ่นกุหลาบมีความนวลติดหวานคลาสสิคและโรแมนติค
โดยไม่ได้มีความเป็นแป้งอะไรมากและไม่ได้กลิ่นออกทางกุหลาบแห้งๆ เลย ออกแนวมีโทน Animalic
แบบเย้าเสริมขึ้นมาเป็นระยะ
จนเมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายกลิ่นครีมมี่ที่รองพื้นด้านหลังจะเปิดตัวออกมานั่นคือ Musk
และมีตัวสำคัญที่เสริมให้กลิ่นกุหลาบตรึงความหอมนวลลึกมาตลอดได้อย่างงดงามเปิดตัวขึ้นมาชัดเจนกับการเสริมโทน
Animalic นั่นคืออำพันปลาวาฬ (Ambergris) กลิ่นเลยจะมีความนวลเนียนของกุหลาบที่มีความนุ่มนวลติดกลิ่นอายผิวกายเคล้าความเค็มนิดๆ
ซึ่งแน่นอนว่าให้ความหรูหราและสง่างามกันอย่างเต็มที่โดยไม่มีกั๊ก เคล้าความคลาสสิคเหนือกาลเวลาที่ส่งเสริมความเป็นสุภาพสตรีที่มีพลังของความเป็นหญิงกันอย่างเต็มที่เลยทีเดียว
เหมาะสำหรับ
– ผู้หญิงวัยทำงานขึ้นไป
ซึ่งอย่างน้อยอาจจะต้องผ่านน้ำหอมกลิ่นคลาสสิคมาบ้างจะทำให้ฟินกับน้ำหอมกลิ่นกุหลาบเหนือกาลเวลาแบบนี้ได้ไม่ยาก
กลิ่นนี้ให้ความเป็นผู้หญิงสูงศักดิ์กับกุหลาบที่มาแบบไม่ได้หนักหน่วงแต่พลังความหอมของกลิ่นชัดเจน
สามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ
ไปที่เน้นเรื่องการวางตัวในระดับหนึ่งเพราะกลิ่นมีพลังและให้ความคลาสสิคเหนือกาลเวลาชัดเจน
แต่จะใส่ตัวนี้นุ่งผ้าถุงวิ่งกระโจนลงน้ำตีโป่งมันก็คงไม่ใช่ เพราะมาดหรูหายหมด
ส่วนยามค่ำคืน เหมาะมากกับการออกงานกาล่า หรืองานหรูทุกประเภท
แต่ไม่เหมาะกับการใส่ไปเต้นเด้งแบบหน้าลานรถบัมพ์หรือเที่ยวเต้นสีกับชาวบ้านแน่นอน
ความขลังมันไม่ใช่และดูใช้ผิดงานชอบกล
ความทน
– มากกกกกกก เกิน 8 ชม. ได้สบายๆ
ซึ่งส่วนตัวกลิ่นลากยาวมาที่ 12 ชม.
แล้วยังไม่หยุดให้ความหอมเลยแม้แต่นิดเดียว
การกระจาย
– กลิ่นกระจายดีมากในช่วงต้น ก่อนจะคงตัวการกระจายแบบปานกลางกึ่งออร่ารอบๆ
ตัว แล้วค่อยๆ ลดลงมาเป็นออร่าแบบโรแมนติคนุ่มนวลกำลังดีไปตลอด
ทิ้งท้าย
- แม้จะมีกลิ่นอายแบบ Old
School เป็นโทนยืนพื้น
แต่กลิ่นก็ยังคงพลังของความเป็นราชิดีแห่งดอกไม้ทั้งมวลที่เหลือกาลเวลาได้อย่างดีและไม่ลดราวาศอกแต่อย่างใด
จึงไม่แปลกใจเลยทีกลิ่นนี้คงความเหนือกาลเวลาและยังคงได้รับความนิยมมาตลอดจนถึงทุกวันนี้
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น