Tauer Perfumes - Lonesome Rider
จุดเริ่มต้นก่อนที่จะมีรุ่น Lonesome Rider ออกมา Andy Tauer ได้เคยสร้างสรรค์กลิ่นอายสไตล์ Cowboy และแคมป์ไฟอย่าง Lonestar Memory ในปี 2006 ที่มีพื้นฐานเป็นกลิ่นแนวหนังแกมอบอุ่น ได้อารมณ์คาวบอยกางเต้นท์ก่อไฟ แต่การต่อยอดที่จะนำเสนอความเป็นโทนกลิ่นสไตล์นี้ยังไม่จบ สุคนธกรเลยขอเอาโทนพื้นฐานเดิมแต่เปลี่ยนอารมณ์มาสร้างสรรค์ในปี 2016 เพื่อให้ได้กลิ่นอายสไตล์หนังที่สื่อสารถึงคาวบอยในอีกรูปแบบ กับการเป็นหนุ่มคาวบอยมาดเท่ห์ที่ใส่เสื้อเชิ้ตสะอาด โดยให้พื้นฐานกลิ่นที่ยังคุมโทนกลิ่นหนังอยู่เช่นเดิม
ดังนั้นการสร้างสรรค์ของใหม่จะเพิ่มเติมความแตกต่างในความเป็นคาวบอยอย่างไร มาว่ากันได้เลยที่รุ่นนี้เลย Lonesome Rider
เปิดตัวมามีความชัดเจนมากว่ากลิ่นหนังติด Smoky นี่แหละจะเป็น Center Note ที่อยู่กันยาวๆ ไป แกมกลิ่นออกทาง Butter เนื้อออกทางคล้ายเนยจืดแบบหัวเหง้าใต้ดินกึ่งแป้งซึ่งเป็นสไตล์กลิ่นของเหง้าออริส (เหง้าของต้นไอริส) ที่จะเป็นตัวเอกแพ็คคู่กันยาวๆ ไป เพียงแต่ช่วงต้นจะมีอารมณ์ออกทางกึ่งขมกึ่งสดชื่นเข้ามาเป็นตัวสนับสนุนกันก่อน อารมณ์กลิ่นจะออกทางชื้นๆ หน่อยๆ จากโทน Citrus ที่ได้กลิ่นออกทางสว่างเบาๆ ของเกรฟฟรุตและมีกลิ่นขมปร่าสร้างบรรยากาศสดชื่นของมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) แต่เนื้อกลิ่นไม่ได้มีแค่นี้เพราะจะมีความปร่านวล Fresh Spicy แกมพริกไทยและมีกลิ่นเผ็ดซ่าของกานพลูเนียนๆ เบาๆ แฝงอยู่ด้วย ซึ่งทั้ง 2 โทนนี้ดันให้กลิ่นโทนหนังและเหง้าออริสที่ได้ความเป็นแป้งทึบมีความเป็นโทนแบบสดชื่นขึ้นมา แต่กลิ่นจะไม่ได้ดูแบบโทน Outdoor สว่างจ้านัก ออกแนวกลิ่นอวลเย้าที่อยู่กึ่งกลางกำลังดีแตะความสะอาดก็ได้และความดิบเท่ห์ก็สามารถ
ในช่วงกลางเนื้อกลิ่นโทนสายเครื่องเทศในช่วงต้นจะยังคงอยู่ชัดเจน ซึ่งทำให้ได้อารมณ์ปร่านวลแกมสะอาดอยู่ แต่กลิ่นหนังและออริสจะชัดเจนและเข้าทางโทนแห้งมากขึ้น โดยที่จะเริ่มมีโทนออกทาง Animalic ติด Smoky ให้จับต้องได้มากกว่าช่วงต้นซึ่งน่าจะมาจากกลิ่น Castoreum ที่เป็นกลิ่นสังเคราะห์แบบต่อมเพศบีเวอร์ที่จะให้ความเป็นหนังสาบติดไหม้จัดๆ แต่กลิ่นจะถูกเกลามาเรียบร้อยเลยสร้างความเป็นโทน Animalic ปลุกเร้าเข้ากันได้ดีกับโทนหนังที่เป็นพื้นเพเดิม เและที่สำคัญกลิ่นจะมีความนวลมากขึ้นจากกุหลาบที่เข้ามาเกลาให้โทนสาบต่างๆ จางไป เหลือโทนอารมณ์แบบเท่ห์มีเสน่ห์ในความอวลหนังแกมแป้งเสียมากกว่า และช่วงนี้แอบมีความหวานหน่อยๆ แนวเครื่องเทศสายอบอุ่นอย่างอบเชยนิดๆ ให้จับได้ด้วย เรียกว่าก็เย้าเร้าใจกันไม่ใช่เล่น เรียกว่าเป็นช่วงหยินหยางเลยก็ว่าได้กับการเอาโทนกลิ่นสาย Dirty มาเจอกับโทนปร่าสว่างนวล ซึ่งถือว่าให้ภาพชัดเจนเหมือนคาวบอยใส่เชื้ตขาวสวมหมวกและรองเท้าหนังให้ความเท่อวลห์ปนสะอาดเย้าเร้าได้เลย
การเข้าสู่ช่วงท้ายจะมีการเปลี่ยนแปลงให้จับต้องได้คือ โทนอบอุ่นแกมไม้หอมจะเริ่มชัดเจนขึ้นและค่อยๆ รวมเป็นเนื้อเดียวกับกลิ่นโทนหนังเพียงแต่จะเด่นกว่าหน่อย เลยทำให้ได้ความรู้สึกเพิ่มขึ้นมาอีกนั่นคือ อารมณ์แบบอยู่ในสถานที่ที่เป็นไม้และมีความอบอุ่นแกมแอมเบอร์หน่อยๆ เข้ามาร่วมด้วย เนื้อกลิ่นโทนไม้จะมีความเป็นไม้แห้งๆ แกมโปร่งๆ และกลิ่นออกทางไม้เก่าๆ ผสมผสานกัน ที่มาฉาบหน้าความอวลของโทนหนังที่มีความ Smoky แกมแป้งทึบเลยทำให้มิติจะได้ทั้งกลิ่นไม้หอมที่ไล่จากโปร่งสู่แห้งและมีความขรึม ต่อด้วยกลิ่นโทนอวลเย้ามีเสน่ห์แบบเท่ห์ๆ ของกลิ่นหนัง ซึ่งถ้าให้นึกภาพตามจะได้อารมณ์คาวบอยใส่เสื้อเชื้ตขาวรองเท้าหนัง หมวกหนัง ยืนหนึ่งยืนเดี่ยวนั่งเท่ห์บนอยู่บนบ้านไม้อบอุ่น นี่แหละที่จะให้ความรู้สึกประมาณนี้เลย
เหมาะสำหรับ - แน่นอนว่ากลิ่นค่อนไปทางผู้ชายมากถึง 80% ได้เลย ในการใช้งานที่เสริมลุคโทนกลิ่นหนังเท่ห์ๆ แต่เอาจริงๆ ผู้หญิงก็ใช้งานกลิ่นนี้ได้ เพราะก็มีคาวเกิร์ลด้วย เผลอๆ ใส่แล้วมีเสน่ห์แกมเท่ห์อีกด้วย เช่นนั้นไม่ว่าเพศไหนก็จัดไป ซึ่งกลิ่นนี้เข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการณ์หรือทั่วๆ ไป แต่ให้เบามือหน่อยกับอากาศสไตล์เมืองร้อนก็ดี เดี๋ยวกลิ่นตีจนตึ้บเอาได้ แต่ให้ตัดการใส่เพื่อออกกำลังกายไปน่าจะดีกว่า เพราะไม่เข้าทางเท่าไหร่ ส่วนยามค่ำคืนใส่ท่องราตรี หรือออกงานได้เลยเพราะกลิ่นเป็นโทนมีเสน่ห์อวลหนังแบบไม่ดิบห่ามแต่มีมิติลุ่มลึกที่น่าสนใจในการเรียกแขกได้เลยล่ะ
ความทน - กลิ่นทนดีงามมากกับพื้นฐานที่ 8 ชม. เป็นสำคัญ และไปต่อได้อีกจนถึง 15 ชม. ก็เจอบ่อยครั้งมากกับการใช้ที่ 6 สเปรย์ (ก็แอบตึ้บอยู่บ้าง) แต่ในบางครั้งที่ใช่เพียง 4 - 5 สเปรย์กลิ่นก็ยาวไปถึง 8 ชม. ได้สบายๆ
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น แล้วจะลดทอนลงมาเรื่อยๆ จนคงที่กับการกระจายกลางๆ เมื่อเข้าชั่วโมงที่ 3 - 6 แล้วจะลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันยาวๆ ไปจนถึงชั่วโทงที่ 10 ก่อนที่จะเป็น Skin Scent
สรุป - หนึ่งในกลิ่นหนังที่เข้าถึงได้ไม่ยาก แต่ก็ไม่เหมือนใครและไม่ธรรมดาในการสื่อสารถึงกลิ่นอายสไตล์คาวบอย ที่ไม่ได้มาสายลุย ดิบ เถื่อน แต่มาสายนิ่ง และสบายๆ แต่คุมโทนความเท่ห์มีเสน่ห์สไตล์ยืนเดี่ยวในเนื้อกลิ่นได้อย่างครบถ้วน อีกหนึ่งกลิ่นที่ต่อยอดมาได้อย่างดีและไม่ธรรมดาเลยล่ะ
หมายเหตุ:
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo
Credit - https://www.parfumo.net/Perfumes/Tauer/Lonesome_Rider
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น