วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Review: S-Perfume – S-ex

S-Perfume – S-ex 

เห็นแค่ชื่อรุ่นครั้งแรกเรียกว่า หูยยยยยย พลางคิดว่าถ้าเอามาใส่แล้วจะได้จะโดนกับเขาไหมนั่น ก็ทำให้ได้รู้จักแบรนด์ S-Perfume ที่เป็นเจ้าของรุ่นนี้ไปด้วยเลยว่าเป็นแบรนด์ Niche Perfume จาก USA เกิดมาจาก Project: Olfactory Art ที่จะกลิ่นต่างๆ ที่ทำขึ้นใส่ลงไปในประติมากรรมที่จัดแสดงเข้าไปด้วย ให้คนค้นหากันว่ากลิ่นมาจากไหน แล้วจึงต่อยอดมาจนเป็นแบรนด์ขึ้นมา ดังนั้นเมื่อมีโอกาสได้มาครอบครองและลองใช้ก็ต้องบอกเล่ากันหน่อยกับคำว่า S-ex ของรุ่นนี้ว่าจะสื่อสารออกมาอย่างไรกันบ้าง 

เปิดขึ้นมาได้ความรู้สึกแบบกลิ่นหนังที่รองพื้นอยู่ชัดเจนและมีกลิ่นอายของ Musk ที่มีกลิ่นอายเค็มๆ ของเกลือให้รู้สึก โดยกลิ่นโทนนี้แหละจะเป็นศูนย์กลางของกลิ่นที่อยู่ตั้งแต่ต้นยันจบ โดยที่ในช่วงแรกนี้กลิ่นจะมีความนัวในความสดชื่นอยู่พอสมควรเพราะจะได้กลิ่นแนวๆ อากาศสะอาดๆ มีความเป็นเครื่องเทศโทนโปร่งแบบพริกไทยแต่ตัดให้นุ่มด้วยเม็ดจันทน์เทศ และมีกลิ่นซิตรัสจางๆ ผสมผสานกันได้กลิ่นอากาศแนวๆ ลมทะเลที่มีความเย็นมากกว่าจะอุ่น ช่วงต้นเลยจะเป็นช่วงที่ได้ความเป็นกลิ่นอายนุ่มในความสดชื่นแบบนวลๆ ไม่ได้คมบาดแต่ประการใด แล้วกลิ่นจะเริ่มมีโทนผลไม้แนวๆ สตรอเบอร์รี่เข้ามาดึงไปสู่ช่วงกลาง แต่ไม่ได้มาแบบผลไม้จ๋าๆ สดใสขนาดนั้น เพราะจะมาแบบติดนวลหอมเพราะกลิ่นหนังและ Musk ติดเกลือคล้ายผิวหนังนุ่มติดกลิ่นเค็มหน่อยๆ คุมโทนอยู่ เลยจะได้ความเป็น Leather Musky Fruity ติดหวานจางๆ กำลังดี แบ่งโทนผสมผสานกันได้น่าสนใจมาก โดยจะมีสายสนับสนุนอื่นๆ จากมะลิเสริมเข้ามาให้กลิ่นติดโทนเย้ายวนตามด้วย มีความ Smoky จางๆ ให้รู้สึกได้ กลิ่นช่วงนี้จะมาสายเย้ายวนเซ็กซี่และมีความกรุยกรายแบบมีเสน่ห์ไม่ค่อยเหมือนใคร มีความล้ำกำลังดี เพราะไม่ได้หนักไปโทนใดโทนหนึ่งจนทำให้กลิ่นมันดูจงใจให้เซ็กซี่แบบทื่อๆ จนเมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายกลิ่นหลักต่างๆ ยังคงเดิมเพียงแต่จะเริ่มบิดไปทางสาปปลุกเร้า Animalic มากขึ้นแบบผิวกายตามธรรมชาติ ซึ่งโทนดอกไม้ขาวของมะลิจะยังตามมาอยู่ผสมผสานแบบเบาๆ ทำให้กลิ่นแม้จะรู้สึกได้ถึงความนุ่มแต่กรุยกราย และไม่ได้ออกทางสาปกลั้วดอกไม้ขาวจัดๆ แบบที่โทนคลาสสิคมักจะมี เพราะกลิ่นไม้จันทน์หอมนวลๆ ที่เข้ามาเจือ ตามด้วยมีพิมเสนจางๆ ที่มาทำให้กลิ่นมีความนุ่มเย้าลงตัว แต่ก็ยังชูโรงให้กลิ่นหลักทั้ง 3 กลิ่นที่บอกข้างต้นคงความเป็นตัวเด่นอยู่ กลิ่นเลยจะมีความเป็นผิวกายติดเค็มๆ กลั้วความเป็นแป้งหอมหน่อยๆ มีความเซ็กซี่กลั้วความถือตัวหน่อยๆ ให้มีจริตและให้โทนขาวที่ทันสมัยชัดเจน 

เหมาะสำหรับ แบรนด์เขาตราเอาไว้ว่าตัวนี้เป็น Unisex แต่กลิ่นค่อนข้างไพล่ไปทางผู้หญิงพอสมควรประมาณ 70% ได้ แต่ผู้ชายใส่ได้สบายๆ เพราะกลิ่นไม่ได้มาสายปล่อยพลังมากเท่าไหร่ จึงเหมาะกับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะเป็นทางการที่ไม่ได้ถึงกับรับแขกบ้านแขกเมือง หรือทั่วๆ ไป กลิ่นแม้จะเซ็กซี่แต่ยังมีความถือตัวอยู่ ไม่ได้โพล่งตรงๆ ออกไปว่าต้องได้ต้องโดน ณ บัดนาวเลย ส่วนการใส่ออกกลางแจ้งก็สามารถ แต่ถ้าใส่ออกกำกายไม่เข้าทางนัก เพราะกลิ่นโทน Musk และหนังอาจจะทำให้มีความ Animalic เกินกว่าเหตุจนตกใจเอาได้ ส่วนยามค่ำคืนใส่ได้เลย แต่จะไม่เหมาะกับการใส่ท่องราตรีอะไรนัก เน้นออกแนวดินเนอร์ โรแมนติค หรือยั่วยวนแบบไม่โจ่งแจ้งแทนจะดีกว่า 

ความทน เรียกว่ามีความดีงามกับราวๆ 8 ชม. ขึ้นไป อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ ซึ่งส่วนตัวจัดไปราวๆ 4 สเปรย์ กลิ่นลากยาวไปที่ 10 ชม. ได้สบายๆ 

การกระจาย กลิ่นกระจายดีในตอนต้นให้อารมณ์แบบ Contrast กันแต่ก็ Match กันได้ก่อน แล้วจะมากระจายแบบออร่ารอบๆ ตัว ปิดท้ายที่ Skin Scent ที่ตีขึ้นยามขยับร่างกาย

ทิ้งท้าย เดิมทีเวลาที่ผมเจอ Animalic ที่มีดอกไม้ขาวมาผสมผสานทีไร ชีวิตมักจะพังเพราะกลิ่นจะออกแนวติดสาปมากกว่าที่คิด แต่ตัวนี้ไม่ทำให้รู้สึกเช่นนั้นเลย เรียกว่าทำให้รู้สึกถึงความนุ่มติดเซ็กซี่ ไม่แสดงออกโจ่งแจ้งแบบไร้ชั้นเชิง เน้นทางภาษากายที่บอกว่า สนใจดมใกล้ๆ ไหมล่ะประมาณนี้เลย 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ 

Credit ภาพ - http://www.perfumemaster.org/images/fragrances/s/S_Perfume/2004/S_Perfume_S_EX_U_001.JPG


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น