วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Review: Chopard - 1000 Miglia



Chopard - 1000 Miglia

Mille Miglia หรือ 1000 Miglia ถือว่าเป็นการแข่งรถที่แนวมากอย่างนึงเลย เพราะว่าจะเน้นเอารถเก่าๆ มาแข่งกันแบบรถเจ้าคุณปู่สมัยก่อน หรือรถหรูแบบย้อนยุค (ถ้าเมืองไทยคงเอา Dutsun เก่าๆ หรือ Daihatsu Mira ไปร่วมแข่งได้ วิ่งดีมาก ทนอึด แถมเก๋อีกด้วย) และมีชื่อเสียงยาวนาน ทั้งนี้แบรนด์เครื่องประดับอย่าง Chopard ที่เป็น Partner กับการแข่งนี้เลยพัฒนาน้ำหอมที่บอกถึงอารมณ์วินเทจและความเท่ห์ของการแข่งรถแบบนี้ และพึ่งวางตลาดเมื่อปี 2013 ที่ผ่านมากับรุ่น 1000 Miglia ครับ เช่นนั้นเลยต้องลองงงงงงง

เปิดตัว Top Notes กันด้วยกลิ่นของลาเวนเดอร์กลั้วกับซิตรัสในรูปแบบแน่นๆ ออกทางแป้งเย็นซ่าๆ ซึ่งกลิ่นของลาเวนเดอร์จะเข้มและเด่นเด้งสุดๆ ให้ความรู้สึกคล้ายๆ กลิ่นเปิดของ Le Male ในรูปแบบที่นุ่มกว่า แมนกว่าและเย็นซ่าๆ มากกว่า ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วง Middle Notes ที่บอกกันตรงๆ ว่าจับกลิ่นต่างๆ ได้ยากมากจริงๆ เพราะกลิ่นลาเวนเดอร์ในช่วงต้นยังตามมาเด่นในช่วงนี้สุดๆ ซึ่งกลิ่นในช่วงนี้จะแปลกมากบางทีจะให้อารมณ์แบบเอาลาเวนเดอร์มาขยี้กับหญ้าป้ายอยู่บนผิว บางทีจะให้อารมณ์กลิ่นผิวกายผู้ชายแมนๆ เท่ห์ๆ ที่มีกลิ่นอายของหนังนุ่มๆ บางทีมีไอร้อนๆ ออกมากลิ่นเหมือนถนนลาดยางมะตอยที่โดยอากาศร้อนๆ แล้วมีกลิ่นถนนขึ้นมา ซึ่งงงกับกลิ่นมากครับ ให้มิติได้หลากหลายจริงๆ แต่หอมไหม หอมครับ ซึ่งในความหอมมันก็มีความแปลกไปด้วย แต่โดยรวมเหมือนให้อารมณ์ยืนบนถนนราดยางมะตอยมีไอร้อนขึ้นมากลั้วกับกลิ่นผิวกายที่ทาแป้งหอมคลาสสิคและกลิ่นต้นไม้ใบหญ้าข้างทางที่มีลาเวนเดอร์อยู่เป็นจุดๆ ซึ่งก็ตอบโจทย์ความเป็น 1000 Miglia อยู่ไม่น้อยนะครับ ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วง Base Notes ที่คราวนี้จะกลายเป็นโทนวู้ดดี้แมนๆ ที่ออกทางอบอุ่นชัดเจนกลั้วกับกลิ่นออกทาง Smoky ติดเข้มหวานของกาแฟ ให้อารมณ์ผู้ชายเข้มๆ เท่ห์ๆ และมีระดับชัดเจนมาก จะว่าไปมันก็เหมาะกับการขับรถเก่าๆ หรูๆ สมกับการเป็น 1000 Miglia เลยล่ะครับ

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยเป็นต้นไปครับ สามารถใส่ได้ทุกสถานการณ์เลยทั้งกลางวันและกลางคืน ถ้าใส่ไปทำงานหรือไปเรียนคงต้องใช้จำนวนสเปรย์ที่เหมาะสมซักหน่อย ถ้าจะใส่ออกกำลังกายให้รอช่วงเบสจะไม่ทำร้ายชาวบ้าน ถ้าใส่ไปเที่ยวเล่น ขับรถไปโน่นนี่ หรือเที่ยวกลางคืนก็จัดไป เพราะกลิ่นอยู่ระหว่างความคลาสสิคและความทันสมัยเท่ห์แมนแต่นุ่มนวลเลยทีเดียว

ความทน – 8 ชม. กำลังงามครับ

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีมากในช่วง Top แต่ในช่วง Middle จะออกแนวผลุบๆ โผล่ๆ วูบขึ้นเป็นระยะ หรือบางทีก็นิ่งๆ หรือบางทีก็ตีขึ้นให้ได้กลิ่น และ Base เป็น Skin Scent ครับ

ทิ้งท้าย - บอกกันตรงๆ ว่านี่เป็นน้ำหอมตัวแรกที่ผมจับกลิ่นต่างๆ ได้ค่อนข้างยากมาก เพราะการเบลนด์น้ำหอมทำออกมาได้เนียนกริ๊บจริงๆ ได้ตัวนี้มาแบบแบ่งขาย ถึงขั้นใช้ต่อเนื่องกันเลยทีเดียว เห็นทีต้องซื้อใหม่เพราะใกล้หมดแล้ว -___-“

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น