วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Review: Pino Silvestre – Pino Fifty



Pino Silvestre – Pino Fifty 

แม้ว่าน้ำหอมแบรนด์นี้ไม่ได้เป็นที่รู้จักในบ้านเราก็ตาม แต่ถือว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์อิตาลีที่ทำน้ำหอมออกมาได้ดีมากเลยทีเดียวและอยู่ในเครือเดียวกันกับแบรนด์คลาสสิคหอมหรูอย่าง 4711 แบรนด์ทันสมัยเท่ห์ๆ อย่าง Zippo ซึ่งน้ำหอมแบรนด์นี้จะเน้นที่กลิ่นของต้นสน Pine เป็นส่วนผสมหลัก ในฐานะที่ชอบลองเมื่อสบโอกาสได้ตัวนี้แบบแบ่งขายเลยขอมารีวิวเลยครับกับรุ่น Pino Fifty ซึ่งตอนแรกไม่รู้ว่าที่มาของชื่อมันคืออะไร ทำไมต้องเป็นตัวเลข 50 เลยช่างมันครับ มาดูกันที่กลิ่นเน้นๆ ว่าใช้แล้วจะขนาดไหน

Top Notes พูดกันตรงๆ ว่ากลิ่นเปิดเรียกได้ว่าทั้งแน่นและทำเอาตกใจ เพราะกลิ่นของเม็ดกระวานพอผสมกับโทนสมุนไพรติดวู้ดดี้ของสน Pine ตามด้วยกลิ่นซิตรัส บอกกันตรงๆ เลยครับ มันเหมือนได้กลิ่นแบบไม้เนื้อหอมปนกับกลิ่นเอียนๆ ของลูกมะขวิดและเนื้อฝักราชพฤกษ์ที่ไว้กินเป็นยาถ่ายอ่อนๆ ทำให้สตันไปเลย 3 นาทีว่ากลิ่นห่านอะไรของมันเนี่ย แม้ไม่ได้เวียนหัวแต่เป็นกลิ่นที่อาจจะทำให้เกิดความรู้สึกเอียนๆ ผะอืดผะอมหน่อยๆ ได้ถ้าไม่ถูกโฉลก ซึ่งถ้าตัดสินกันที่เพียงแค่ช่วง Top Notes บอกเลยว่าไม่ไปต่อ ลากกระเป๋าออกจากบ้านทันที แต่ถ้าจะรอซักหน่อยไม่เกิน 5 นาที กลิ่นเอียนๆ ที่ว่าจะเริ่มหายไป และเปลี่ยนมาเป็นกลิ่นหอมนุ่มนวลเนียนสดชื่นแอบแน่นแบบหน้ามือเป็นหลังมือในช่วง Middle Notes ที่กลิ่นของจันทน์เทศและเม็ดผักชี มาในโทนสมุนไพรที่มีพิมเสน และกลิ่นหญ้าฝรั่นมาเสริม กลิ่นช่วงนี้หอมดูดีอย่างบอกไม่ถูก ให้ความรู้สึกเหมือนอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยสะอาดสะอ้านนุ่มๆ มากมาย และพิมเสนนี่แหละที่จะอยู่ไปจนถึงช่วง Base Notes และกลายเป็นพระเอกหลักของน้ำหอมตัวนี้เลยทีเดียว เพราะจะไปเสริมกับกลิ่นกำยานและ Musk ทำให้กลิ่นออกทางเย้ายวน สะอาดและอบอุ่นกำลังดี กลิ่นดูเป็นผู้ใหญ่ออกทาง Family Man ที่น่าเข้าหา สบายๆ และผ่อนคลายไม่น้อยเลย

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปครับ รวมถึงคนที่ต้องการน้ำหอมเสริมภูมิให้ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น กลิ่นสามารถใช้ได้ทั้งงานทางการและทั่วๆ ไป ใช้ง่ายเข้ากับสภาพอากาศบ้านเรา สามารถใส่ทำงาน ใส่ไปเรียน ใส่ไปพักผ่อนชิลล์ๆ ใส่ไปพบปะผู้หลักผู้ใหญ่หรือลูกค้าได้หมด ใส่ออกกำลังกายก็ยังได้ ส่วนเที่ยวดื่มยามค่ำคืนไม่ค่อยเหมาะนัก ซึ่งไม่ว่าจะใส่ไปทำอะไรก็ตาม รอหลักฉีดซักไม่เกิน 5 นาที ก่อนจะดีที่สุดครับ

ความทน – ประมาณ 6 ชม. จะมากหรือน้อยกว่านี้ อยู่ที่เคมีของผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่งครับ ซึ่งกับผิวผมอยู่ได้ถึง 8 ชม. ในรูปแบบ Skin Scent

การกระจาย – กลิ่นนี้ช่วง Top จะกระจายดีไม่น้อย แล้วจะกระจายกำลังงามในช่วง Middle จะตีขึ้นให้รับรู้ และคนมายืนหรืออยู่ใกล้ๆ ได้กลิ่นสะอาดนุ่มติดแน่น และจะเป็น Skin Scent ให้ความรู้สึกอบอุ่นกำลังดีในช่วง Base ครับ

ทิ้งท้าย – ถือเป็นน้ำหอมอีกตัวที่ไม่สามารถตัดสินกันได้เพียงแค่ดมกลิ่นในช่วง Top Notes เพราะมันซ่อนรูปจริงๆ ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น