วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Review: DKNY Be Delicious

DKNY Be Delicious 

เป็นหนึ่งในน้ำหอมที่เรียกว่าอยู่ยงคงกระพันมาตั้งแต่วางขายจนถึงปัจจุบันเลยทีเดียวสำหรับแอปเปิ้ลเขียวของ DKNY ซึ่งเมื่อย้อนไปเมื่อปี 2004 ที่ออกมาในครั้งแรกเรียกว่าฮือฮากันน่าดูชมและเป็นน้ำหอมที่ไม่ว่าทั้งผู้หญิงและผู้ชายเองต่างก็ชอบและซื้อหามาใช้กันไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งกลิ่นจะเป็นยังไง ทำไมถึงได้รับความนิยมจนแตกลูกหลานออกมาให้ตรึมๆ จนไลน์ไหนๆ ในแบรนด์เองก็เทีย
บไม่ติดกับรุ่นนี้เลย Be Delicious 

ชุ่มฉ่ำมาเลยทีเดียวเชียว เพราะว่า Top Notes มาถึงก็มาเต็มๆ กับกลิ่นโทน Aquatic ติดเขียวของแตงกวาที่จะมาชัดเจนกันเลยทีเดียวในช่วงต้น โดยจะมีกลิ่นโทน Citrus เจือให้มีความสดชื่นติดปลอดโปร่ง มีความครีมมี่บางๆ ติดสดชื่นให้รู้สึกได้แบบเป็นตัวรองพื้นด้านหลัง เพียงชั่วขณะความเป็นแอปเปิ้ลเขียวจะแทรกขึ้นมาเคล้ากับกลิ่นแตงกวาได้อารมณ์น้ำแตงกวาที่มีกลิ่นแอปเปิ้ลเขียวสดชื่นกำลังดี ซึ่งถือว่าเข้าสู่ Middel Notes กันอย่างชัดเจน แต่สิ่งที่ทำให้กลิ่นในช่วงนี้ไม่ได้เป็นสายผักผลไม้มากเกินไปต้องยกให้กลิ่นอายของดอกไม้ขาวที่มา 2 สเต็ปคือ 1. สเต็ปใสๆ เข้ากันให้กลิ่นกลิ่นหวานใสกระจ่างในเนื้อกลิ่นแบบกลิ่นแนวๆ ดอกกระดิ่ง และ 2. สเต็ปครีมมี่ กลิ่นของซ่อนกลิ่นที่เรียกว่ามาเป็นตัวรองพื้นแบบเนียนๆ นวลๆ ที่สำคัญยังมีโทนแป้งหอมติดเขียวกำลังดีหวานโปร่งของดอกไวโอเล็ต ที่ทำให้ช่วงนี้กลิ่นอายเลยจะออกมาเป็นโทน Aquatic Ozonic Green Fruity Fresh ได้ชัดเจนมาก ได้อารมณ์แบบหอมสดชื่นชุ่มชื้นแบบทาเจลแตงกวาแอปเปิ้ลเขียวบำรุงผิวกาย แล้วตามด้วยทาแป้งดอกไม้บางๆ ทับ ซึ่งกลิ่นในช่วงนี้เรียกว่าจะกลายเป็นกลิ่นหลักยาวไปและเป็นตัวเด่นในช่วง Base Notes ด้วยเช่นกัน เพียงแต่จะดรอปลงมาหน่อยนึง ให้กลิ่นโทนไม้หอมอ่อนๆ สะอาดๆ รองพื้นให้มีความอบอุ่นเบาๆ เคล้ากลิ่นอายหอมนวลๆ ระหว่างความเป็นแตงกวาและแอปเปิ้ลเขียวฉ่ำๆ เคล้าไวโอเล็ตเขียวโปร่งหวานที่ยังเสริมความสดชื่นสดใสได้ตลอดตั้งแต่ต้นยันจบเลยทีเดียว 

เหมาะสำหรับ - แม้ว่าจะตราน้ำหอมตัวนี้ว่าเป็นของผู้หญิง แต่เอาเข้าจริงๆ ผู้ชายก็ใช้ได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว เพราะกลิ่นมันสดชื่นติดโทน Aquatic ที่ใครได้กลิ่นมักจะชอบอยู่แล้ว สามารถใช้ได้ตั้งแต่วัยเรียน ม.ปลาย เป็นต้นไปเลย เข้าได้กับทุกสถานการณ์ยามกลางวันของอากาศบ้านเราไม่ว่าจะหนาวหรือร้อน กลิ่นแบบ Can’t Go Wrong ยังไงก็รอดได้ทั้งแบบทางการและทั่วๆ ไป ใส่ออกกิจกรรมกลางแจ้งก็สามารถ ใส่ออกกำลังกายก็ได้ แต่แนะนำว่าให้รอพ้นช่วงต้นไปหน่อยจะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืน แม้ว่ากลิ่นนี้จะไม่ได้เหมาะกับการใส่ไปท่องราตรียามค่ำคืนมากนัก เพราะมีแนวโน้มโดนกลบ แต่ก็ยังถือว่าใส่ได้อยู่ให้ความสดใสน่ารักกำลังดี หรือว่าจะใส่แบบทั่วๆ ไปเดิน Shopping หรือดินเนอร์ก็ได้ เรียกว่าครอบจักรวาลกันในระดับหนึ่งเลยทีเดียว 

ความทน - เรียกว่าทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดีมากอยู่ที่ 6 - 8 ชม. ได้สบายๆ อาจจะมีบวกลบไปบ้างอิงตามจำนวนสเปรย์ สภาพผิว และจุดที่ฉีด ส่วนตัวเจอไปที่ 10 ชม. กำลังดี กับการลงสเปรย์ที่ 6 สเปรย์ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น เรียกว่าสดชื่นกันเลยทีเดียว แล้วจึงค่อยลดลงมากระจายปานกลาง ก่อนจะปิดท้ายที่ออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย 

ทิ้งท้าย - คงไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ เพราะนี่คือ#ของดีเทคนิคไม่ต้อง ชัดเจน ที่สำคัญยังได้ความรู้สึกแบบสดชื่นฉ่ำๆ นวลหวานตลอดวันได้ดีมากเสียด้วย สมแล้วที่ได้รับความนิยมมาตลอด 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ” 

Photo Credit by https://cdn.shopify.com/s/files/1/1556/1715/products/dknybedelicious_grande.jpg?v=1479208361



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น